ด้วยเป้าหมายที่จะขจัดปัญหาความไร้ประสิทธิภาพซึ่งทำให้กระบวนการสร้างสรรค์เกิดความล่าช้า อะโดบีจึงได้เปิดตัวอัพเดตสำคัญๆ สำหรับเครื่องมือและบริการ Creative Cloud  อัพเดตใหม่ล่าสุดนี้ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์ Creative Cloud ทั้งหมด โดยมุ่งแก้ไขปัญหามากมายที่นักออกแบบ ช่างภาพ และผู้สร้างภาพยนตร์ต้องพบเจออยู่เป็นประจำ

ความสามารถใหม่ๆ ของเดสก์ท็อปแอพ CC และการปรับปรุงประสิทธิภาพ

ฟีเจอร์ CC ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับครีเอทีฟ โดยจะช่วยประหยัดเวลาและขยายโอกาสใหม่ๆ สำหรับสมาชิก Creative Cloud ดังนี้:

Play video

  • Content-Aware Crop ใน Photoshop จะเติมช่องว่างโดยอัตโนมัติเมื่อคุณหมุนหรือขยายผืนผ้าใบ (canvas) จนเกินขนาดของภาพต้นฉบับ
  • Face-Aware Liquify ใน Photoshop เพิ่มความสะดวกในการสร้างเอฟเฟ็กต์ทางด้านศิลปะด้วยคุณลักษณะใบหน้า โดยใช้เครื่องมือ Liquify ขณะที่ยังคงรักษาสัดส่วนที่เหมาะสมของใบหน้า

Play video

  • Match Font ใน Photoshop เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีการรับรู้แบบอักษรที่สามารถจดจำและระบุแบบอักษรที่มีลิขสิทธิ์ และแนะนำแบบอักษรที่มีอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของคุณโดยอัตโนมัติ หรือสามารถขออนุญาตใช้งานผ่านทาง Adobe Typekit
  • Select and Mask เครื่องมือเลือกส่วนภาพและไดคัทตัวใหม่ ที่ช่วยให้การทำงานเร็วขึ้น

Play video

  • Character Animator Preview ใน After Effects CC จับคู่ตัวละครในการ์ตูนเข้ากับคำพูดและท่าทางของนักแสดงจริง โดยเทคโนโลยีนี้ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในรายการ The Late Show with Stephen Colbert ในช่วงของการสัมภาษณ์ “Cartoon Donald Trump”(1:30) และล่าสุด มีการใช้งานโดยทีมผู้สร้างแอนิเมชั่น The Simpsons สำหรับตอนที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2559

Play video

  • ฟีเจอร์ใหม่ Virtual Reality (VR) ใน Adobe Premiere Pro CC รวมถึงโหมด “field of view” สำหรับการแสดงตัวอย่างคอนเทนต์
  • Fast Export สำหรับทรัพยากรและอาร์ตบอร์ดใน Adobe Illustrator CC ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งออกทรัพยากรเป็นหลายรูปแบบ โดยมีความละเอียดแตกต่างกันภายในคลิกเดียว
  • การปรับปรุงประสิทธิภาพของ Photoshop รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ 4 เท่า เมื่อทำงานกับฟอนต์อักษรและฟีเจอร์ Content-Aware Fill

 

บริการ Adobe Stock มอบทางเลือกที่ดีที่สุดและหลากหลายที่สุด

ผลการวิจัยจาก Pfeiffer Consulting ยืนยันว่า การผนวกรวม Adobe Stock เข้ากับเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่น CC จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับบริการสต็อกภาพอื่นๆ  บริการ Adobe Stock ที่มีการขยายตัวนี้นำเสนอภาพถ่าย วิดีโอ ภาพประกอบ และกราฟิกคุณภาพสูงกว่า 55 ล้านรายการ โดยปราศจากค่าลิขสิทธิ์ พร้อมด้วยความสามารถใหม่ๆ ดังต่อไปนี้:

  • เวิร์กโฟลว์แบบคลิกเดียว การผนวกรวม Adobe Stock เข้ากับแอพพลิเคชั่น CC ในระดับที่ลึกกว่าเดิมจะรองรับเวิร์กโฟลว์แบบคลิกเดียว ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกภาพหรือวิดีโอบนเว็บไซต์ Adobe Stock และวางไว้บนผืนผ้าใบสำหรับงานสร้างสรรค์ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว  นอกจากนี้ นับเป็นครั้งแรกในแวดวงอุตสาหกรรมสำหรับฟีเจอร์การสั่งซื้อภายในโปรแกรม (In-app Purchase) ซึ่งรองรับการขออนุญาตใช้งานแบบคลิกเดียวจาก Photoshop โดยตรง
  • คอลเลกชั่นระดับพรีเมียม ครั้งแรกกับการนำเสนอคอนเทนต์ระดับพรีเมียมของอะโดบีสำหรับ Adobe Stock โดยประกอบด้วยภาพที่มีการดูแลจัดการเกือบ 100,000 ภาพ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของเอเจนซี่โฆษณาระดับท็อป แบรนด์ชั้นนำ รวมไปถึงสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อดิจิตอล
  • เพิ่มความสะดวกในการสร้างรายได้ ในอนาคตอันใกล้ อะโดบีจะขยายวิสัยทัศน์ไปสู่การสร้างตลาดกลางด้านงานสร้างสรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการเปิดโอกาสให้มืออาชีพด้านครีเอทีฟได้มีส่วนร่วมสนับสนุนและสร้างรายได้จากผลงานของตนเอง โดยบุคลากรด้านครีเอทีฟจะสามารถจัดส่งผลงานได้โดยตรงจากแอพพลิเคชั่นบนเดสก์ท็อปหรืออุปกรณ์พกพา รวมถึง Adobe Lightroom CC, Adobe Bridge CC, Photoshop Fix และ Photoshop Mix นับเป็นช่องทางที่สะดวกง่ายดายในการจัดแสดงและขายผลงานผ่านทาง Adobe Stock  นอกจากนี้ อะโดบียังเตรียมเปิดตัว Stock Contributor Portal ซึ่งประกอบด้วยฟีเจอร์การใส่แท็กอัตโนมัติที่ชาญฉลาด ช่วยประหยัดเวลาหลายชั่วโมงในการป้อนคีย์เวิร์ด

CreativeSync และ Assets: ค้นหาได้ง่ายขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพ

เทคโนโลยี CreativeSync ของอะโดบีช่วยให้ไฟล์ แบบอักษร งานออกแบบ และการตั้งค่าของผู้ใช้ปรากฏในเวิร์กโฟลว์โมบายล์และเดสก์ท็อปในทันทีทุกที่ที่ต้องการ  ฟีเจอร์ล่าสุดที่รองรับการทำงานร่วมกันได้แก่ ไลบรารี Creative Cloud แบบอ่านอย่างเดียว ซึ่งจัดหาระดับการอนุญาตภายใต้การควบคุม ขณะที่ทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ภายในทีมงาน  ไลบรารี Creative Cloud ทำหน้าที่เป็นสไตล์ไกด์แบบดิจิตอลสำหรับทีมงาน เพื่อให้แคมเปญมีความสอดคล้องกันและสัมพันธ์กับแบรนด์  อีกทั้งครีเอทีฟยังสามารถกำหนดระดับของการอนุญาต เพื่อช่วยในการจัดการไลบรารีและไฟล์ต่างๆ  นอกจากนี้ แผง Creative Cloud Libraries ยังได้รับการอัพเดตด้วยตัวกรองการค้นหา (Search Filters) ที่ช่วยให้ลูกค้าค้นหาและเลือกวิดีโอ ภาพถ่าย เวคเตอร์ และภาพประกอบได้อย่างง่ายดาย  

Lightroom เวอร์ชั่นใหม่สำหรับอุปกรณ์พกพา

Adobe Lightroom Icon

Lightroom ในเวอร์ชั่น 2.4 สำหรับ iOS มีการเพิ่มความสามารถหลักเข้ามาใหม่สองเรื่อง คือ: เทคโนโลยีการใช้งานไฟล์ RAW และความสามารถในการปรับแต่งภาพเฉพาะส่วน นอกจากสองเรื่องหลักนี้ ทางอะโดบียังเพิ่มความสามารถในการใช้คีย์ลัดบนคีย์บอร์ดที่เชื่อมต่อกับ iPad, การใส่ข้อมูลลิขสิทธิ์ลงไปในภาพที่อิมพอร์ทเข้ามาทั้งหมด, การเรียกใช้ข้อมูลของเลนส์ (ถ้ากล้องและเลนส์ที่ใช้ถ่ายมีการรองรับ) และการแก้ไขข้อบกพร่องที่เคยมีและการปรับปรุงประสิทธิภาพอีกด้วย

ลดข้อจำกัดด้วย Raw Technology Preview

Adobe Lightroom__001

พวกเรามั่นใจว่า เรื่องที่กวนใจผู้ใช้งานมาตลอดก็คือ เมื่อคุณมีภาพสุดงามที่อยากจะแชร์ให้โลกได้เห็นเดี๋ยวนั้น แต่ปัญหาคือ คุณถ่ายเป็นไฟล์ Raw มา จนถึงตอนนี้ คุณต้องเลือกเอาว่าจะโหลดไฟล์เป็น JPEG มาใช้ หรือต้องรอไปโหลดไฟล์เข้าเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน็ตบุ๊คทีหลังกว่าจะสามารถทำงานกับภาพสุดงามพวกนี้ได้ ปัญหานี้จะหมดไปในการอัพเดทครั้งนี้ จากนี้ไป คุณสามารถอิมพอร์ทไฟล์ RAW เข้าไปใน iPhone หรือ iPad ได้ทันที จัดการปรับแต่ง และแชร์ภาพเหล่านั้นได้ทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เป้าหมายของ Lightroom สำหรับโมบายล์ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการทำงานด้านภาพถ่ายของคุณ ให้คุณได้ใช้เครื่องมือที่คุ้นเคย เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์คุณภาพที่อยู่กับคุณในทุกที่ทุกเวลาที่เกิดแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพ และได้ภาพที่สวยงามถูกใจ ด้วย Raw Technology Preview ช่วยลดข้อจำกัดในการทำงานของช่างภาพทั่วโลกกับความสามารถในการทำงานกับไฟล์ RAW ในอุปกรณ์โมบายล์

จากนี้ไป คุณสามารถเปลี่ยนอุณหภูมิแสง ดึงส่วนที่ขาดรายละเอียดในบริเวณสว่าง ทำงานกับข้อมูลสี ฯลฯ จากไฟล์ภาพที่ไม่มีการบีบอัดได้มากขึ้น เทคโนโลยีทั้งหมดนี้เป็นอันเดียวกับที่ใช้ใน Lightroom บนเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมถึงการอิมพอร์ทไฟล์ RAW เข้ามาใน Lightroom สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS เช่นนี้ ทำให้ไฟล์ที่ซิงค์ไปยังอุปกรณ์อื่น กับ Lightroom ที่เปิดบนบราวเซอร์ของคุณมีข้อมูลที่ละเอียดขึ้นด้วย รวมถึงการปรับแต่ง การคัดเลือกภาพด้วยการให้ดาวและการปักธงอีกด้วย

ไฟล์ RAW ใน Lightroom สำหรับโมบายล์ รองรับการทำงานแบบเดียวกับไฟล์ RAW ใน Lightroom บนเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นชุดเดียวกับที่สามารถทำงานกับ Adobe Camera Raw อีกด้วย โดยสามารถเข้าไปตรวจสอบการรองรับทั้งหมดได้ที่ : https://helpx.adobe.com/camera-raw/kb/camera-raw-plug-supported-cameras.html

Adobe Lightroom__004

วิธีการโอนภาพถ่ายเข้าสู่อุปกรณ์โมบายล์ ทำได้โดยใช้อุปกรณ์ Camera Connection Kit หรือ Lightning to SD หรือ USB Kit ของแอปเปิ้ล ซึ่งเมื่อต่อกับอุปกรณ์เพื่อโอนไฟล์ RAW เมื่อใด Import Tab ของแอพพลิเคชั่น iOS Photo จะปรากฏขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มไฟล์เข้าไปใน Camera Roll และเข้าไปใน Lightroom โมบายล์ ได้โดยตรง ข้อควรจำคือ ไฟล์ RAW มีขนาดใหญ่กว่าไฟล์ JPEG ประมาณ 3-5 เท่า ทำให้ใช้เวลาในการอิมพอร์ต (import), อัพโหลด (upload) ภาพ และกินพื้นที่ในอุปกรณ์ที่ใช้มากขึ้น แต่เมื่อพิจารณาถึงผลที่ได้จากการใช้ไฟล์ RAW แล้ว ประโยชน์ที่ได้รับคุ้มค่ากว่าอย่างแน่นอน

ประโยชน์ที่ได้เพิ่มมาก็คือ แม้ว่าคุณจะทำงานกับไฟล์ RAW ที่ซิงค์มาจาก Lightroom บนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือ Lightroom บนเว็บ ถึงจะสามารถปรับแต่งทุกอย่าง เช่น ปรับ White Balance ดึงรายละเอียดส่วนสว่างที่หายไปกลับมาได้ แต่มันคือการทำงานกับไฟล์ขนาดย่อที่ส่งมา ไม่เหมือนกับการทำงานกับไฟล์ RAW ที่มีอยู่แล้วบนโมบายล์เครื่องนั้น ซึ่งหมายความว่าคุณกำลังทำงานที่ไฟล์ขนาด 100% และทำงานที่ไหนก็ได้ในโลกบน iPhone ของคุณเอง

ทางอะโดบีได้ทดสอบ Lightroom โมบายล์ อย่างหนักหน่วงกับไฟล์หลากหลาย รวมทั้งไฟล์ 50 ล้านพิคเซลจากกล้องแคนนอน 5DS บน iPhone 6 เพื่อให้มั่นใจว่าคุณสามารถทำงานกับภาพถ่ายทุกประเภทได้ทุกสถานที่ หลังจากที่ทดสอบมาหลายเดือน ทำให้การใช้งาน Lightroom โมบายล์ ทำงานกับภาพที่ชอบ (หรือที่เพิ่งถ่ายมาสดๆ ร้อนๆ) ดูภาพเหล่านั้นว่าได้อย่างที่ต้องการหรือเปล่า ปรับแต่งและแชร์ภาพเล่านั้นได้ด้วยการใช้งาน Lightroom เพียงแอพเดียวเท่านั้น

นอกจากนี้ อะโดบียังได้พัฒนาการใช้งาน RAW นี้ร่วมกับช่างภาพจำนวนหนึ่งทั่วโลก ตัวอย่างเช่น เอเลีย โลคาร์ดิ ช่างภาพนักเดินทางชื่อดัง คุณสามารถเข้าไปชมวิดิโอการทำงานจากประเทศกรีซที่ใช้ Lightroom

Play video

ความสามารถของ Linear and Radial Selections

Adobe Lightroom__005

ความสามารถใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอีกอย่างก็คือ ความสามารถในการปรับแต่งภาพแบบเฉพาะส่วนได้ด้วยเครื่องมือ Linear และ Radial selections นี่คือความสามารถที่ผู้ใช้เรียกร้องมาทางอะโดบีเรามากที่สุด รองลงมาจากการทำงานกับไฟล์ RAW เลยทีเดียว

ด้วยการเลือกบริเวณการทำงานแบบ Linear และแบบ Radial นี้ คุณสามารถเพิ่มหรือปรับแต่งภาพเป็นส่วนๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพได้ดียิ่งขึ้น

Lightroom สำหรับ Android 2.1

Adobe Lightroom__008

ในเวลาเดียวกับที่ทีมพัฒนา iOS วุ่นอยู่กับเรื่องการทำงานกับไฟล์ RAW นั้น ทีมพัฒนา Android ก็ต่อยอดการทำงานภาพด้วยไฟล์ DNG ที่เริ่มมีในเวอร์ชั่น Android 2.0 เพื่อสร้างประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยอุปกรณ์โมบายล์ที่ดีขึ้นไปอีก จุดมุ่งหมายก็คือ การสร้างประสบการณ์อันเยี่ยมยอดสำหรับภาพถ่ายในอุปกรณ์โมบายล์เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีที่สุดบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ซึ่งต้องขอบคุณการถ่ายภาพเป็นไฟล์ RAW แบบ DNG ที่ทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นไปได้

ในเวอร์ชั่นนี้ มีการเพิ่มโหมดโปรเข้ามาในกล้อง ทำให้สามารถเลือก Shutter Speed, ISO, White Balance และจุดโฟกัสได้ด้วยตัวเอง

Adobe Lightroom__007

คุณยังสามารถสร้าง widget ที่มีชื่อว่า Lightroom Camera widget ที่จะเรียกฟังก์ชั่นกล้องของ Lightroom ขึ้นมาโดยตรง ไม่ต้องผ่านหน้าแรกของ Lightroom อีกต่อไป ทำให้สามารถถ่ายภาพได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

นอกจากโหมดโปรในกล้องแล้ว เรายังพัฒนาให้สามารถ export ไฟล์ภาพที่ขนาด 100% ได้อีกด้วย ถ้าไฟล์นั้นมีอยู่ในระบบของ Lightroom Ecosystem อยู่แล้ว Lightroom สำหรับ Android จะดึงไฟล์ขนาดเต็มมาทำงาน ทำให้คุณสามารถ Export ไฟล์ขนาดเต็ม 100% ไม่โดนย่อขนาดออกไปได้เลย

คุณสามารถดาวน์โหลด Lightroom for Android 2.1 ได้ที่นี่