MediaTek แถลงข่าวเปิดตัว Dimensity 8200 ชิปเซ็ตล่าสุดสำหรับสมาร์ตโฟน 5G ระดับพรีเมี่ยม สมาร์ตโฟนที่ขับเคลื่อนโดย Dimensity 8200 จะมอบประสบการณ์ระดับเรือธง ทั้งการเชื่อมต่อ เกมมิ่ง มัลติมีเดีย จอแสดงผล และการถ่ายภาพ ในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ผลิตขึ้นจากกระบวนการ 4nm และประหยัดพลังงานแบบไม่มีใครเทียบได้ และยังผสานรวม CPU แบบ Octa-Core เข้ากับ Arm Cortex-A78 สี่คอร์ที่ทำงานด้วยความเร็วสูงสุด 3.1 GHz พร้อมกับเอนจินกราฟิก Mali-G610 ที่ทรงพลัง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในการใช้งานทุกแอปพลิเคชั่น
ชิปเซ็ตรุ่นนี้ยังมอบประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ดีกว่าเดิม เพราะในชิปมีเทคโนโลยีเกมมิ่ง HyperEngine 6.0 ของ MediaTek ผู้ใช้จึงเพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมที่มีอัตราเฟรมสูงได้อย่างราบรื่นโดยไม่เกิดปัญหาการเชื่อมต่อหลุด ไม่เกิด FPS หรือภาพกระตุกในการเล่นเกม นอกจากนี้ เทคโนโลยี Intelligent Display Sync 2.0 ของ MediaTek ยังปรับอัตรารีเฟรชหน้าจอได้อย่างชาญฉลาดตามอัตราเฟรมของเกมที่ระบบตรวจพบ ซึ่งช่วยให้ประสบการณ์การรับชมราบรื่นยิ่งขึ้น
คุณ CH Chen รองผู้จัดการทั่วไปของหน่วยธุรกิจการสื่อสารไร้สายแห่ง MediaTek กล่าวว่า “MediaTek Dimensity 8200 จะยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมบนสมาร์ตโฟน 5G ระดับพรีเมี่ยมให้ดีขึ้น และช่วยให้เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุดด้วยอัตราเฟรมที่สูงขึ้น ภาพกราฟิกอันน่าตื่นตา และการเชื่อมต่ออันราบรื่น และด้วย Dimensity 8200 ที่ประหยัดพลังงานได้ดีกว่าเดิม ผู้บริโภคจึงไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดเร็วขณะที่กำลังใช้งานใดๆ ก็ตามที่ต้องใช้พลังในการประมวลผลสูงเป็นพิเศษ”
Dimensity 8200 ซึ่งขับเคลื่อนโดย Imagiq 785 ISP ระดับเรือธงสามารถรองรับภาพถ่ายความละเอียด 320MP และบันทึกวิดีโอ HDR 14 บิตที่ให้ภาพสมจริงได้จากกล้องสูงสุดถึงสามตัวพร้อมกัน และบันทึกวิดีโอความคมชัดระดับภาพยนตร์ที่จับภาพจากกล้องคู่ไปพร้อมกันเพื่อให้ได้ภาพโบเก้ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด ชิปเซ็ตยังมีการลดนอยส์ด้วย AI ที่เร็วชั่วพริบตาเพื่อเก็บรายละเอียดยิบย่อย ไม่ว่าจะถ่ายในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยก็ตาม
โมเด็ม 5G ที่ผสานรวมอย่างสมบูรณ์แบบใน Dimensity 8200 มีเทคโนโลยีมาตรฐาน 3GPP Release-16 รุ่นล่าสุด และการรวมย่านความถี่ 3CC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในย่านความถี่ที่ต่ำกว่า 6GHz อีกทั้งยังรองรับ Wi-Fi 6E แบบ Tri-Band เพื่อให้การเชื่อมต่อไร้สายเร็วขึ้น พร้อมทั้งเสาอากาศ 2×2 ก็จะยิ่งเสริมประสิทธิภาพและมอบความน่าเชื่อถือในการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นกว่าเดิม
Dimensity 8200 ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ได้แก่
- หน่วยประมวลผล AI อันทรงพลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของทาสก์ที่ต้องใช้ AI โดยเฉพาะ และการประมวลผลแบบฟิวชัน
- Vulkan SDK ที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อการประมวลผลเอฟเฟกต์ Ray Tracing ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- รองรับการแสดงผล 120Hz WQHD+ และ 180Hz Full HD+ อันน่าทึ่ง
- รับชมคอนเทนต์ได้อย่างดื่มด่ำด้วยการรองรับ HDR10+ Adaptive, การถอดรหัสสื่อ 4K AV1 และการเล่นวิดีโอ AI SDR-to-HDR
- คุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมด้วยเทคโนโลยี Bluetooth LE Audio และระบบเสียง Dual-Link True Wireless Stereo
Dimensity 8200 จะเป็นขุมพลังให้แก่อุปกรณ์ 5G ที่กำลังจะเปิดตัวในตลาดสากลโลกตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 เป็นต้นไป ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Dimensity ของ MediaTek ได้ที่ https://i.mediatek.com/mediatek-5g