แอนท์กรุ๊ป ผู้ให้บริการอาลีเพย์พลัส (Alipay+) โซลูชันการชำระเงินดิจิทัลระหว่างประเทศและโซลูชันการตลาด ประกาศรองรับโมบายล์วอลเล็ตจำนวน 4 รายที่สามารถใช้ชำระค่าใช้จ่ายได้แล้วในประเทศไทย ได้แก่ AlipayHK (ฮ่องกง SAR), KakaoPay (เกาหลีใต้), Touch ‘n Go eWallet (มาเลเซีย) และ Alipay (จีนแผ่นดินใหญ่) ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ค้าในไทยตั้งแต่ปี 2558
การพัฒนาล่าสุดและการเพิ่มการรองรับโมบายล์วอลเล็ตอีก 3 รายของอาลีเพย์พลัส (Alipay+) จะขยายประสบการณ์การท่องเที่ยวดิจิทัลแบบไร้รอยต่อสำหรับนักท่องเที่ยวเอเชียที่มาเยือนเมืองไทย สอดรับกับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศที่กำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
แอนท์กรุ๊ปเผยความร่วมมือครั้งใหม่กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (“TAT”) เพื่อส่งเสริมแคมเปญ Amazing Thailand และกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทย นอกจากจะช่วยให้เกิดความสะดวกสบายด้านการชำระเงินและการทำธุรกรรมบนโมบายล์วอลเล็ตที่นักท่องเที่ยวคุ้นเคยแล้ว แอนท์กรุ๊ปยังให้บริการโซลูชันดิจิทัลกับธุรกิจท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นการบริการแบบดิจิทัลไลเซชัน, การทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่มีประสิทธิภาพ, และการพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า ความร่วมมือดังกล่าวมุ่งเน้นในการช่วยให้ร้านค้าท้องถิ่นสามารถปฏิสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพตลอดการเดินทาง ตั้งแต่ก่อนเดินทางจนจบการเดินทาง โดยธุรกิจท้องถิ่นสามารถใช้โซลูชัน Alipay+ D-storeTM ในการสร้างร้านค้าดิจิทัลในรูปแบบมินิโปรแกรม และใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มในการเข้าถึงและดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยว
นายยุทธศักดิ์ สุภสร, ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TAT) กล่าวว่า “เราได้สร้างความไว้วางใจและความร่วมมือกับอาลีเพย์มานานหลายปีในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่ เรายินดีที่จะขยายความร่วมมือเพื่อเข้าถึงนักท่องเที่ยวอีกสามประเทศในเอเชียผ่านอาลีเพย์พลัส (Alipay+) ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สำคัญกับประเทศไทย”
“เราพร้อมสนับสนุนการทำงานของแอนท์กรุ๊ปเพื่อส่งเสริมการทำดิจิทัลไลเซชันในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วยการใช้บริการโซลูชันดิจิทัลที่ล้ำสมัยและทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้ค้าท้องถิ่น ซึ่งเรามั่นใจว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่การสร้างรายได้และสร้างโอกาสการเติบโตสำหรับธุรกิจท้องถิ่น”
การบินไทย คือหนึ่งในสายการบินรายแรก ๆ ที่ใช้ Alipay+เป็นช่องทางการชำระเงิน นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการโมบายล์วอลเล็ตทั้งสี่รายสามารถชำระค่าตั๋วเครื่องบินผ่านโมบายล์วอลเล็ตได้อย่างราบรื่น และยังเพลิดเพลินไปกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่แข่งขันได้
ดร. เชอร์รี่ หวง, ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการร้านค้าออฟไลน์ของ Alipay+ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการขยายการใช้งานล่าสุดของอาลีเพย์พลัส (Alipay+) ว่า “เรามีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าการรองรับโมบายล์วอลเล็ตของประเทศในเอเชียมากขึ้นในประเทศไทยจะเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยว และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ยั่งยืน และน่าดึงดูดใจสำหรับนักท่องเที่ยว สิ่งที่เราให้ความสำคัญในวันนี้คือการให้ความรู้กับผู้ค้าท้องถิ่นในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว, ธุรกิจค้าปลีก, ธุรกิจhospitality และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเชื่อมต่อและใช้ประโยชน์จากกโซลูชันอาลีเพย์พลัส (Alipay+)”
“เราหวังว่าจะได้ร่วมงานกับผู้ค้าท้องถิ่น ไม่เพียงแค่ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเท่านั้น แต่รวมไปถึงพื้นที่ที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว เพื่อช่วยภาคธุรกิจให้เติบโตและประสบความสำเร็จด้วยความสามารถของโซลูชันดิจิทัล” ดร. เชอร์รี่ กล่าวเสริม
เมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยจำนวนการลงทะเบียนใหม่อย่างมหาศาลของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว โดยจำนวนการลงทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนในช่วงสี่เดือนแรกของปี 2566
แอนท์กรุ๊ปเปิดตัวอาลีเพย์พลัส (Alipay+) ตั้งแต่ปี 2563 มุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธุรกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง สามารถรับการชำระเงินผ่านโมบายล์วอลเล็ตได้หลากหลาย และเข้าถึงผู้บริโภคระดับภูมิภาคและทั่วโลกมากถึง 1 พันล้านคน ผ่านการเชื่อมระบบอย่างง่ายดายเพียงครั้งเดียว นอกจากประเทศไทยแล้ว อาลีเพย์พลัส (Alipay+) ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในจีนแผ่นดินใหญ่, มาเก๊า SAR, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, และอีกหลายประเทศ