เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และบริษัทในเครือฯ ได้ร่วมจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยในนิทรรศการ ‘The Globe Vengers’ หรือฮีโร่พิทักษ์ความยั่งยืน ของสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย หรือ UNGCNT ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2567 ระหว่าง 16-25 สิงหาคม 2567 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดยซีพีตั้งเป้าหมายเพื่อเป็น “ศูนย์กลางการเรียนรู้” (Learning Center) สำหรับเด็กและเยาวชนไทยในการขับเคลื่อนความยั่งยืนและสร้างอนาคตที่ดีกว่า
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (UNGCNT) กล่าวว่า เครือซีพีมีความมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรธุรกิจที่สามารถเป็น “ศูนย์กลางการเรียนรู้” สำหรับเด็กและเยาวชนไทย เพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนความยั่งยืน อันเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้แก่ชุมชน สังคม ประเทศชาติ และโลก
“เราตั้งใจที่จะยืนหยัดขับเคลื่อนเรื่องของความยั่งยืนมาโดยตลอด เพราะเชื่อว่าความยั่งยืนจะเปลี่ยนแปลงและสร้างสรรค์อนาคตที่ดี และมั่นใจว่าเยาวชนคือคนสำคัญที่จะขับเคลื่อนความยั่งยืน เพื่อสร้างโลกนี้ให้น่าอยู่” นายศุภชัย กล่าว
และเสริมต่อไปว่า ภาคเอกชนมีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมด้านความยั่งยืน ซึ่งจะเป็นแรงหนุนสำคัญในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ หรือ Learning center ให้กับเด็กและเยาวชนไทย
ซีอีโอเครือซีพีเชื่อมั่นว่าภาคธุรกิจสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีแก่เด็กและเยาวชนไทยสามารถสร้าง และส่งเสริมเด็กและเยาวชนไทยให้เป็นนักค้นคว้า เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีพลังและเป็นกำลังสำคัญของชาติและของโลกเพื่อร่วมสร้าง “สังคมแห่งภูมิปัญญาที่ยั่งยืน” หรือ Sustainable Intelligence ที่ผสานเทคโนโลยี คน และความยั่งยืน เป็นหนึ่งเดียวกันรับยุค 5.0 ซึ่งเครือซีพีและบริษัทในเครือฯ พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนผนึกกำลังผลักดันเรื่องของความยั่งยืนให้เกิดขึ้นทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค
ในการนี้ ที่เครือซีพี และบริษัทในเครือฯ ในฐานะองค์กรเครือข่ายสมาชิก UNGCNT ได้ร่วมเปิดพื้นที่การเรียนรู้ใน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2567” ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้เกิดสังคมแห่งภูมิปัญญาที่ยั่งยืนร่วมสร้างพลเมืองที่โลกต้องการ
สอดคล้องตามแนวคิด “THE GLOBE VENGERs ฮีโร่พิทักษ์ความยั่งยืน” ของโกลบอลคอมแพ็ก ที่ต้องการให้คนรุ่นใหม่นำความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีและจิตสำนึกด้านความยั่งยืนมาประยุกต์ใช้แก้ไขวิกฤติโลกอย่างสร้างสรรค์ และเป็นพลังสำคัญที่จะนำพาโลกบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
ซีอีโอเครือซีพีระบุว่า เครือซีพี และบริษัทในเครือฯ จะไม่หยุดยั้งที่จะสนับสนุนเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศและโลกในอนาคต สำหรับการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคู่คุณธรรม สร้างการเปลี่ยนแปลงทางบวกให้เกิดเป็นสังคมภูมิปัญญาที่ยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ทั้งนี้ คุณครูจากโรงเรียนกสิณธรเซนต์ปีเตอร์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมครั้งนี้ว่า “เด็กนักเรียนของเราได้เรียนรู้และสนุกกับการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ซีพีและบริษัทในเครือนำมาจัดแสดงอย่างมาก โดยเฉพาะการได้สัมผัสกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน นับว่าเป็นการเปิดโลกกว้างให้เด็ก ๆ มีแรงบันดาลใจในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมที่สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับโลกของเรา”
นอกจากนี้ ตัวแทนนักเรียนผู้พิการจากโรงเรียนศรีสังวาลย์ ยังได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “การเข้าร่วมงานครั้งนี้ทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องของเทคโนโลยีและความยั่งยืนอย่างลึกซึ้ง ทั้งในด้านการใช้พลังงานสะอาดที่ช่วยลดมลพิษ และได้สัมผัสกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับพวกเรา อยากให้ทุกคนมาเรียนรู้ร่วมกัน”
นิทรรศการในโซน “THE GLOBE VENGERs ฮีโร่พิทักษ์ความยั่งยืน” จัดโดย UNGCNT ร่วมกับสมาชิกในเครือข่ายฯ กว่า 27 องค์กรสมาชิก 8 หน่วยงานสหประชาชาติ เปิดพื้นที่เรียนรู้ด้านความยั่งยืน 1,000 ตารางเมตร เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยได้รู้จักเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่เป็นระดับโลก 17 เป้าหมาย ผ่านนิทรรศการและกิจกรรมให้ความรู้ภายใต้แนวคิด SI : Sustainable Intelligence
ทั้งนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ ยกขบวนนวัตกรรมเปลี่ยนโลกที่ตอบโจทย์ SDGs ให้เยาวชนได้เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์ด้วยตนเอง ได้แก่
- Agri Tech นำเสนอ “โดรนอากาศยานไร้คนขับ”
- ด้าน Health Tech ชวนสัมผัส “Magic Mirror” กระจกสุดล้ำวิเคราะห์สุขภาพ ผ่านทางใบหน้า ด้วยนวัตกรรม AI Computer Vision
- และในส่วนของ Ed Tech มี “The Collectors เก็บขยะพิทักษ์โลก” เกมมือถือที่สอดแทรกเป้าหมาย SDGs ร่วมแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม
และทำความรู้จักพลังงานสะอาดในมุมมองใหม่จาก Altervim ธุรกิจในเครือฯ ผ่านการจัดแสดงแผงโซล่าร์ AC Charger พร้อมกับเกมชีวิตสีเขียว รวมไปถึงการยกเคส “สบขุ่นโมเดล” กาแฟสร้างป่า กักเก็บคาร์บอน ที่เป็นโครงการความร่วมมือของชุมชนบ้านสบขุ่นและเครือซีพีที่สามารถพลิกฟื้นผืนป่ากลับมาได้สำเร็จ
นอกจากนี้ บริษัทในเครือฯ ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ โชว์สุดยอดนวัตกรรม “ไก่อวกาศ” อาหารปลอดภัย มาตรฐาน Space safety ที่ได้จากการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในกระบวนการผลิต รวมไปถึงนำเสนอ “ฟ ฟาร์ม” แอปพลิเคชันครบวงจร เพื่อยกระดับชีวิตเกษตรไทย
ในส่วนของบริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) นำเกมแข่งขันบังคับหุ่นยนต์ขนส่งสินค้า 7Delivery พร้อมยกโมเดลจำลองร้าน 7-Eleven ประหยัดพลังงาน มาให้ผู้เข้างานได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานที่นำมาใช้ออกแบบสร้างร้านดังกล่าว รวมไปถึงนำเสนอการใช้พลังงานไฟฟ้าในการขนส่งและการพัฒนาระบบขนส่งไร้คนขับ ด้วยนวัตกรรมรถไฟฟ้า NEOLIX และรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า EV Bike สำหรับส่งของ 7Delivery ช่วยลดมลพิษ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังได้นำเสนอ Creative AI CAMP 2025 ค่ายเยาวชนส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะไอเดีย ความรู้ด้าน AI ชวนเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย
ในส่วนของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดเต็มด้วยนวัตกรรมอัจฉริยะที่จะมาทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ทั้งเทคโนโลยีที่มองไม่เห็น แต่สัมผัสได้ผ่านแว่น VR อินเทอร์แอ็กทีฟแบบคมชัด จัดเต็ม 360 องศากับภาพเสมือนจริง ชวนสัมผัส True5G สร้างวิถีชีวิตอัจฉริยะคนรุ่นใหม่เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกับ Smart Convenient ล้ำขั้นสุดกับ TrueX เทคโนโลยีรวมโซลูชันเข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ เชื่อมต่อทุกสิ่งเข้าด้วยกัน พร้อมพบกับเหล่าหุ่นยนต์อัจฉริยะ Humaniod นอกจากนี้ได้นำเสนอเสาสัญญาณขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด แผงโซลาเซลล์พลังงาน
ขณะที่บริษัท ซีพี แอ็กซ์ ตร้า จำกัด (มหาชน) จัดแสดงในแบบ Green Exhibition บูทที่ผลิตจากกระดาษที่สามารถนำกลับไปใช้งานต่อได้ รวมไปถึงโชว์ไอเดียนวัตกรรม “Refill Station” สถานีลดใช้พลาสติกเพื่อสังคมที่น่าอยู่และ “Innovation Products for Sustainability” นวัตกรรมสินค้าที่ดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการนำเสนอการใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาดผ่านการใช้โซลาร์เซลล์ และการใช้รถไฟฟ้าขนส่งสินค้า ร่วมลดคาร์บอน สร้างโลกที่ยั่งยืน
ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเครือซีพีในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้สำหรับเยาวชนไทย โดยการนำเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์มาใช้แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน พร้อมกับเชื่อมโยงความรู้ในด้านต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อสร้างสังคมแห่งภูมิปัญญาที่ยั่งยืนให้กับประเทศและโลกในอนาคต