ไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีปริมาณการซื้อขายแลกเปลี่ยนสูงที่สุดในโลก ได้เผยถึงความสำเร็จในการจัดการความเสี่ยงด้วยโปรแกรมตรวจจับและแจ้งเตือนการทำธุรกรรมที่น่าสงสัยบนแพลตฟอร์ม Binance ซึ่งสามารถป้องกันความเสียหายจากการหลอกลวงและการฉ้อโกงให้กับผู้ใช้งานที่ตกเป็นเหยื่อกว่า 1.2 ล้านราย โดยมีมูลค่าความเสียหายที่ป้องกันได้รวมกว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในระยะเวลาเพียง 7 เดือน ตั้งแต่มกราคมถึงกรกฎาคม 2567

แพลตฟอร์ม Binance ใช้ระบบตรวจสอบความเสี่ยงที่ซับซ้อนและล้ำสมัย โดยมีการควบคุมดูแลหลายชั้น เพื่อช่วยลดและจำกัดระดับความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่สามารถยอมรับได้ ระบบนี้ผสมผสานการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับทีมงานของ Binance เพื่อเพิ่มความแม่นยำและความรวดเร็วในการปกป้องผู้ใช้งาน ทุกภาคส่วนของระบบนิเวศ Binance เช่น การซื้อขายแบบ P2P, การชำระเงิน, และการถอนสินทรัพย์ดิจิทัล ล้วนได้รับการตรวจสอบธุรกรรมแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาธุรกรรมต้องสงสัยที่ระบบได้ทำการแจ้งเตือนเข้ามามากที่สุด คือ การหลอกลวงให้ถอนสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากเครือข่าย (Crypto scams) ซึ่งจากทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ระบบตรวจสอบภายในของไบแนนซ์ตรวจจับไว้ได้ มีการหลอกลวงประเภทนี้มากถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ คิดเป็น 45% ของยอดรวมทั้งหมด

นายโรหิต วัด (Rohit Wad) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของไบแนนซ์ กล่าวว่า “การให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นสิ่งที่ไบแนนซ์ยึดถือมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการพัฒนาและรักษามาตรฐานทางด้านเครื่องมือและกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อให้แพลตฟอร์มของเราสามารถมอบความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งาน รวมถึงทรัพย์สินของพวกเขาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจากรายงานข้างต้นที่ได้ชี้ให้เห็นว่าไบแนนซ์สามารถป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้กว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเพียง 7 เดือน ถือเป็นข้อพิสูจน์อย่างดีที่แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและความพยายามของเราตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดย ไบแนนซ์ ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ยินดีอย่างยิ่งที่จะเดินหน้าสร้างสรรค์ระบบนิเวศที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ รวมถึงการพัฒนาระบบความปลอดภัย รวมถึงศักยภาพต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ก้าวล้ำนำหน้าเหล่าภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต”

นายโรหิต วัด (Rohit Wad) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของไบแนนซ์

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการเฝ้าระวังและการตรวจจับธุรกรรมที่ต้องสงสัยแล้ว ไบแนนซ์ยังมีการใช้งานเครื่องมือและมาตรการหลากหลายรูปแบบเพื่อปกป้องผู้ใช้จากการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไบแนนซ์ได้แบ่งมาตรการควบคุมความเสี่ยงออกเป็น 8 ระดับตามความรุนแรง เพื่อเป็นการรักษาสมดุลระหว่างการรักษาความปลอดภัยและประสบการณ์อันดีของผู้ใช้งาน ซึ่งมาตรการดังกล่าวครอบคลุมตั้งแต่ การแจ้งเตือนแบบป๊อปอัพที่ได้รับการปรับแต่งเฉพาะ (Customized Pop-Up Notification) การระงับธุรกรรมชั่วคราว  (Cooling-Down) และการโทรศัพท์แจ้งเตือนผู้ใช้งานที่กำลังตกเป็นเหยื่อการหลอกลวง (Wake-Up Call) นอกจากนี้ ไบแนนซ์ยังมีช่องทางการจัดการคำร้องที่หลากหลาย ทั้งระบบอัตโนมัติและการดูแลจากเจ้าหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้งานที่มีแนวโน้มความเสี่ยงว่าอาจทำธุรกรรมที่ต้องสงสัยและต้องการได้รับการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นอย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ แม้ว่าไบแนนซ์จะเดินหน้าดำเนินการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องและรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ผู้ใช้งาน แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ไบแนนซ์เน้นย้ำอย่างต่อเนื่องคือ ผู้ใช้งานต้องมีความตระหนักรู้และระมัดระวังด้วยตนเองเช่นกัน

นอกจากนี้ จนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ไบแนนซ์ยังได้กู้คืนเงินลงทุนของบุคคลภายนอกที่สูญหายและถูกขโมยได้ถึง 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย ซึ่งหลังจากนี้ ไบแนนซ์จะยังเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมและขยายมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยไร้กังวลแก่ผู้คนทั้งในและนอกแพลตฟอร์ม