ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ออกมาแสดงจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้น ทั้งการตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) เพื่อต่อสู้กับวิกฤตการณ์โลกร้อนที่ทวีความรุนแรง เช่น ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา โดยกิจกรรมทั้งในภาคธุรกิจและชีวิตประจำวันมีส่วนสำคัญในการปล่อยก๊าซคาร์บอน หนึ่งในนั้นคือการใช้ยานยนต์ซึ่งหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ได้

แกร็บ (Grab) ในฐานะแพลตฟอร์มขนส่งและบริการในชีวิตประจำวัน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แม้จะเป็นเพียงตัวกลางระหว่างผู้ใช้บริการกับร้านค้าและคนขับ แกร็บยังมีส่วนในการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการขนส่ง ดังนั้น ในปี 2565 แกร็บจึงได้ประกาศเป้าหมายด้านความยั่งยืน มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2583 ด้วย 4 แนวทางสำคัญ เช่น การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และพลังงานทดแทน

หนึ่งในโครงการเด่นที่แกร็บริเริ่มคือโครงการชดเชยคาร์บอนผ่านการพัฒนาฟีเจอร์บริจาคเงินซื้อคาร์บอนเครดิตเพียง 1-2 บาท เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ด้วยการปลูกต้นไม้กว่า 200,000 ต้นในประเทศไทย ร่วมกับพันธมิตรอย่าง EcoMatcher และ Conserve Natural Forests (CNF) ที่ช่วยทำให้การปลูกต้นไม้โปร่งใสและเข้าถึงง่าย

นอกจากนี้ เพื่อเฉลิมฉลองวันปลอดมลพิษโลก (Zero Emissions Day) เมื่อเร็ว ๆ นี้ แกร็บ ประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ในจังหวัดกระบี่ โดยมีพนักงานและคนขับเข้าร่วม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืนและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชน

ผู้ใช้บริการสามารถเข้ามามีส่วนร่วมเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้ผ่านฟีเจอร์ชดเชยคาร์บอนบนแอปฯ แกร็บ และเยี่ยมชมป่า “GrabForGood” ได้ที่ EcoMatcher.com/GrabTH