เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีการจัดงาน Chula Thailand Presidents Summit 2025 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการรวมตัวสุดยอดผู้นำระดับประเทศจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อร่วมกันแชร์มุมมองเกี่ยวกับอนาคตของประเทศไทย โดยมีบุคคลสำคัญจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ศาสตราจารย์(พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ ตลอดจนผู้บริหารจากภาคเอกชน เช่น นายสารัชถ์ รัตนาวดี CEO บริษัท กัลฟ์ และประธานบริหาร AIS รวมถึงคณาจารย์ ศิษย์เก่า และนิสิตจุฬาฯ

วิสัยทัศน์จากนายกสภาจุฬาฯ: “Future Thailand: The Comprehensive View”

ศาสตราจารย์(พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ “Future Thailand: The Comprehensive View” โดยเน้นว่าประเทศไทยต้องเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตผ่าน 10 ประเด็นสำคัญ ได้แก่

  1. วางจุดยืนทางภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ เพื่อให้สมดุล โดยเฉพาะในยุคของรัฐบาลสหรัฐฯ ใหม่
  2. เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยี AI ประชากรศาสตร์ โรคระบาด และปัญหาสิ่งแวดล้อม
  3. พัฒนาอย่างยั่งยืน ให้ครอบคลุมเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
  4. ส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นจุดแข็งของไทย
  5. สร้างความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพ
  6. ผลักดันพลังงานสะอาดและพลังงานนิวเคลียร์
  7. ปฏิรูประบบการศึกษา ให้บัณฑิตสามารถคิดวิเคราะห์และมีทักษะที่ตรงกับตลาดแรงงาน
  8. ยกเลิกกฎหมายที่ล้าสมัย
  9. ปฏิรูประบบราชการ ให้มีความยืดหยุ่นและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก
  10. ผลักดันไทยออกจากกับดักรายได้ปานกลาง ผ่านการลงทุนในนวัตกรรมและ R&D

ศ.ดร.สุรเกียรติ์ สรุปว่า “อนาคตของประเทศไทยจะต้องมีความพร้อม และทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน”

วิสัยทัศน์จากอธิการบดีจุฬาฯ: “Future Thailand: Future Education”

ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวว่า บทบาทของมหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่ให้การศึกษา แต่เป็นแหล่งสร้างบุคลากรที่สามารถขับเคลื่อนประเทศได้อย่างแท้จริง โดยมองว่า

  • มหาวิทยาลัยต้องสร้าง “มนุษย์พันธุ์ใหม่” ที่มีทักษะแห่งอนาคต
  • การศึกษาต้องบูรณาการและรองรับทุกวัย
  • ผู้เรียนต้องมีคุณสมบัติเป็น “Global Citizen & Global Leader” เพื่อแข่งขันบนเวทีโลก

วิสัยทัศน์จากนายธนินท์ เจียรวนนท์: “Future Thailand: Next Growth”

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้นำเสนอแนวคิด “Future Thailand: Next Growth” โดยยืนยันว่า เศรษฐกิจไทยยังมีศักยภาพเติบโต แม้ต้องเผชิญความท้าทาย

  • การท่องเที่ยว เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างรายได้ให้ประเทศอย่างรวดเร็ว รัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณและกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
  • พลังงานสะอาดและพลังงานนิวเคลียร์ เป็นอนาคตของประเทศ ไทยต้องลงทุนในพลังงานราคาถูกและยั่งยืน
  • การเกษตร คือจุดแข็งของไทย ควรมีการพัฒนาระบบชลประทาน ถนนเข้าไร่นา และการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI, หุ่นยนต์ และโดรน
  • การพัฒนาคน คือหัวใจสำคัญ “การศึกษาไม่ใช่แค่ปริญญา แต่คือปัญญา” รัฐต้องสนับสนุนการเรียนรู้ และดึงบุคลากรเก่งจากทั่วโลกมาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ

นายธนินท์ กล่าวว่า “ประเทศไทยต้องดึงคนเก่งเข้ามาทำงานในประเทศประมาณ 5 ล้านคน เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ ๆ และทำให้คนไทยพัฒนาไปพร้อมกัน” พร้อมย้ำว่า “รัฐบาลต้องปรับกฎหมายให้เอื้อต่อการลงทุนและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์”

งาน Chula Thailand Presidents Summit 2025 สะท้อนให้เห็นว่า ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การศึกษา เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่เวทีโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน