ในวันที่เทคโนโลยีไม่หยุดพัฒนา ความร่วมมือระหว่าง AWS (Advance Web Service) และ INET (บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทยฯ) จึงเกิดขึ้น และถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการ “ดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม” วงการสาธารณสุขไทย ด้วยการจับมือพัฒนาโซลูชันใหม่ที่ผสาน ตู้จำหน่ายยาอัตโนมัติ (Advance Vending) เข้ากับ แอปฯ Telemedicine ทำให้คนไข้สามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์ และรับยาผ่านตู้ใกล้บ้านได้แบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง !
ไม่ใช่แค่ตู้ยา…แต่คือการเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจไทย
ความร่วมมือครั้งนี้ยังมีเป้าหมายใหญ่กว่านั้น นั่นคือการเสริมสร้าง “Local Cloud Infrastructure” ให้แข็งแกร่ง ลดการพึ่งพาต่างประเทศ และยกระดับแพลตฟอร์มดิจิทัลฝีมือคนไทยให้ก้าวสู่เวทีโลก
จุดเด่นของตู้จ่ายยาอัตโนมัติ
- ตู้จ่ายยาอัจฉริยะ รับยาได้แม้ไม่มีร้านขายยาใกล้บ้าน
- แพลตฟอร์ม Local Cloud มาตรฐานระดับโลก โดยไม่พึ่งพาต่างชาติ
- การแพทย์แบบไร้รอยต่อ ปรึกษา, สั่งยา, รับยา ในคลิกเดียว
ขอขอบคุณ คุณมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ INET สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ในการมุ่งเน้นเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ทันสมัย เพื่อรองรับการใช้งานที่ปลอดภัย มีเสถียรภาพ และสามารถขยายขีดความสามารถของธุรกิจไทยให้แข่งขันได้ในยุค Digital Transformation นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมพัฒนาตู้ Advance Vending ที่เป็นตู้จ่ายยาอัตโนมัติ Api เชื่อมกับ แอปพลิเคชัน Telemedicine ที่จะทำให้แพทย์สามารถให้คำปรึกษาผ่านช่องทางออนไลน์ และสั่งจ่ายยาให้กับผู้ป่วยจากระยะไกล โดยระบบนี้จะทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านตู้จำหน่ายอัตโนมัติ ช่วยให้การรักษาพยาบาลรวดเร็วขึ้น
ดิฉันในนามของ INET เป็นผู้ให้บริการ Local Cloud และ Digital Platform ของคนไทยมากกว่า 30 ปี มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมมือกับทา AWS ความร่วมมือนี้ เพื่อผลักดัน Local Cloud และแพลตฟอร์มดิจิทัลของไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล และยังเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีคลาวด์ ลดการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานจากต่างประเทศ และช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถดำเนินงานบนแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง ในโลกดิจิทัลที่ความมั่นคงปลอดภัย และเป็นการขยายขีดความสามารถของธุรกิจไทยให้สอดคล้องกับการเข้าสู่ยุค Digital Transformation ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นเพื่อผลักดัน Local Cloud และแพลตฟอร์มดิจิทัลของไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล และยังเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีคลาวด์ ลดการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานจากต่างประเทศ และช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถดำเนินงานบนแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง ในโลกดิจิทัลที่มีความมั่นคงปลอดภัย และเป็นการขยายขีดความสามารถของธุรกิจไทยให้สอดคล้องกับการเข้าสู่ยุค Digital Transformation ได้อย่างมีประสิทธิภาพ