SAMSUNG (ซัมซุง) เดินหน้ารุกตลาดจอดิจิทัลไซน์เนจ รองรับการเปลี่ยนถ่ายสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ของภาคธุรกิจที่หันมาใช้จอดิจิทัลไซน์เนจกันมากขึ้น ขนทัพจอดิจิทัลไซน์เนจ เติมเต็มไลน์อัพด้วยผลิตภัณฑ์กว่า 90 รุ่น จัดเต็มกับครั้งแรกกับการเปิดตัว 3ผลิตภัณฑ์ใหม่ อันได้แก่ Video Wall display นวัตกรรมล่าสุดที่มาพร้อมกับขอบบางที่สุดในโลกโดยเมื่อนำมาต่อกันมีระยะรอยต่อระหว่างสองจอเพียง 1.7 มิลลิเมตร รวมทั้ง Smart LED Signage จอภาพหลอดแอลอีดี สุดยอด ความคมชัด ทั้งภายในอาคารหรือกลางแจ้ง และ Mirror Display จอเสมือนกระจกดิจิทัลอัจฉริยะ ให้ข้อมูล พร้อมดีไซน์ดึงดูดเพื่อการโฆษณาที่แตกต่าง ชูจุดเด่นเรื่องคุณภาพ ความคมชัด และความทนทาน ที่เหนือกว่า พร้อมโซลูชั่นเต็มรูปแบบ เพื่อการใช้งานที่สมบูรณ์มากขึ้น รองรับทุกความต้องการของลูกค้าองค์กรในทุกธุรกิจ พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาดจอดิจิทัลไซน์เนจอย่างต่อเนื่อง
นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ รองประธาน กลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า“SAMSUNG (ซัมซุง) ทำธุรกิจจอดิจิทัลไซน์เนจ (Samsung Smart Signage) มากว่า 10 ปี โดยช่วงไม่กี่ปีมานี้ เราเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจจอดิจิทัลไซน์เนจ ซึ่งคาดว่าตลาดรวมทั่วโลก จะมีมูลค่าสูงถึง 1.54 หมื่นล้านดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 5.36 แสนล้านบาท ในปี 2561 (จากเดิมที่มีมูลค่าเพียง 7 พันล้านดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 2.43 แสนล้านบาท ในปี 2557) ปัจจัยหลักมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตของตลาดจอดิจิทัลไซน์เนจรวมถึงการเติบโตของภาคธุรกิจโดยรวม การอยู่ในช่วงระหว่างการเปลี่ยนถ่ายสู่ยุคดิจิทัลที่ภาคธุรกิจหันมานิยมใช้จอดิจิทัลไซน์เนจเพื่อทดแทนป้ายรูปแบบดั้งเดิมอย่างแพร่หลาย เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์และสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างน่าสนใจมากขึ้น ทั้งยังมีส่วนช่วยในการผลักดันยอดขาย ของธุรกิจให้เพิ่มขึ้นได้ รวมถึงความสามารถในการบริหารจัดการคอนเทนต์ด้วยโซลูชั่นที่สามารถลดขั้นตอนและ ความยุ่งยาก เพราะสามารถสั่งงานเพื่อปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ได้พร้อมกันทุกจุดในคราวเดียวจากส่วนกลาง
นอกจากนี้คุณภาพของจอดิจิทัลไซน์เนจยังได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพ ทั้งในเรื่องของความคมชัดที่มากขึ้น โดยคาดว่าจอดิจิทัลไซน์เนจที่รองรับคอนเทนต์ระดับ UHD จะมีส่วนแบ่งในตลาดสูงถึง 12.9% ในปี 2563 (จากเดิมเพียง 0.7% ในปี 2557) ความสว่างที่มากขึ้นทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ระดับราคาที่มีให้เลือกหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละธุรกิจและหน้าจอที่ขนาดใหญ่ขึ้น โดยจอดิจิทัลไซน์เนจ ขนาด 50 นิ้วขึ้นไปจะกลายเป็นขนาดมาตรฐาน โดยคาดว่าจะมีส่วนแบ่งในตลาดสูงถึง 61% ในปี 2562 (จากเดิมเพียง 38.2% ในปี 2558) สำหรับในประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมาธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง ขยายตัว มีห้างสรรพสินค้าที่เปิดใหม่มากมาย ส่งผลให้ ตลาดจอดิจิทัลไซน์เนจในประเทศไทยเติบโตสูงที่สุดประมาณ 70% ในปีนี้ซัมซุงเตรียมเพิ่มความหลากหลายของรุ่น และขนาดของจอดิจิทัลไซน์เนจ ให้สอดรับกับความต้องการที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นของภาคธุรกิจ นำโดยผลิตภัณฑ์ ที่โดดเด่น อาทิ
- Samsung VIDEO Wall Display นวัตกรรมจอภาพที่มาพร้อมกับขอบบางที่สุดในโลกโดยเมื่อนำมาต่อกัน มีระยะรอยต่อระหว่างสองจอเพียง 1.7มิลลิเมตรเท่านั้น โดยรุ่น UH55F-E ยังเป็นวีดิโอวอลล์รุ่นแรกที่รองรับ คอนเทนส์ระดับ UHD บน VIDEO Wall ขนาด 5×5 ช่วยให้แสดงคอนเทนต์ได้ละเอียดคมชัด เหมาะกับการใช้งานที่เน้นจอภาพขนาดใหญ่ ภาพความละเอียดสูง คมชัดเสมือนจริง ลดแสงสะท้อน สะดวกสบาย ในการใช้งาน แสดงผลภาพได้สมบูรณ์แบบ มีความทนทาน รองรับการใช้งานได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชม.
- Samsung Smart LED Signage นวัตกรรมป้าย LED อัจฉริยะที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกขนาด รูปทรง หรือ ความละเอียดที่เหมาะสมตามความต้องการ ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่สามารถผลิตขนาดตามความต้องการ ของผู้ใช้งาน พร้อมนวัตกรรมหน้าจอที่ช่วยให้การมองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น มีหลากหลายความละเอียดให้เลือกตามการใช้งาน โดยมีขนาดความละเอียดเล็กที่สุดถึง 1.5 มิลลิเมตร มอบประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ได้ยอดเยี่ยมที่สุด รวมถึงการใช้งานกลางแจ้ง ด้วยเทคโนโลยีหน้าจอที่มีความสว่างสูงและสามารถแสดงค่า ความต่างของแสงได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะรับชมในสภาวะแสงแบบใดก็ตาม เป็นจอแอลอีดีที่ใช้พลังงานน้อย ช่วยยืดอายุการใช้งาน และประหยัดค่าไฟฟ้าได้เป็นจำนวนมากตลอดอายุการใช้งาน ช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ
- Samsung Smart Mirror Display กระจกเงาและจอดิจิทัลไซน์เนจอัจฉริยะ ซีรีส์ MLE หน้าจออัจฉริยะรูปแบบใหม่ที่ใช้งานได้หลากหลาย สามารถแสดงข้อมูลพร้อมเป็นกระจกเงาได้ในตัว เปิดประสบการณ์ใหม่ในการจับจ่ายของผู้บริโภค กระตุ้นการตัดสินใจซื้อด้วยความสามารถในการให้ข้อมูลกับผู้บริโภคที่แตกต่าง หน้าจอเคลือบฟิล์มโพลาไรซ์ จึงสะท้อนแสงได้ดีดุจกระจกเงา แสดงผลได้คมชัด มองเห็นได้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับร้านค้ายุคใหม่ที่ต้องการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่หรูหรา สร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ
SAMSUNG (ซัมซุง) มีไลน์อัพผลิตภัณฑ์จอภาพดิจิทัลไซน์เนจสูงสุดในตลาดถึงกว่า 90 รุ่น พร้อมโซลูชั่นที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มมูลค่าจอดิจิทัลไซน์เนจให้ตอบสนองความต้องการในการบริหารจัดการและนำเสนอคอนเทนต์ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณภาพและนวัตกรรมที่อัดแน่น สำหรับนำเสนอข้อมูลต่างๆได้อย่างคมชัด สมจริง ในทุกสภาพแสง ทนทานในทุกสถานการณ์ และสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง อีกด้วย”
SAMSUNG (ซัมซุง) ยังเปิดตัวโซลูชั่นสำหรับจอดิจิทัลไซน์เนจ อาทิ โซลูชั่น MagicInfo ซอฟต์แวร์สำหรับควบคุมและสั่งงานจอดิจิทัลไซน์เนจที่เชื่อมต่อในระบบเครือข่าย สามารถสั่งงานจากจุดศูนย์กลางจุดเดียว โซลูชั่น Motion Sensor Touch เซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจจับการแตะ จับสินค้าบนชั้นวาง และจอภาพจะโชว์ข้อมูลของสินค้าชิ้นนั้น ทั้งยังสามารถเก็บสถิติว่าสินค้าใดได้รับความสนใจจากลูกค้ามากที่สุดอีกด้วย ช่วยให้ทำธุรกิจได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น
ปัจจุบันซัมซุงนำเสนอจอดิจิทัลไซน์เนจเชิงพาณิชย์เพื่อตอบสนองความต้องลูกค้าองค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิเช่น กลุ่มธุรกิจค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า กลุ่มธนาคาร สถาบันการเงิน และ ประกันภัย ธุรกิจสื่อ-โฆษณา สถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการ โรงพยาบาล โรงแรม สนามบิน ฯลฯ
นายบุญเลิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับกลยุทธ์การรุกตลาดจอดิจิทัลไซน์เนจในปีนี้ แบ่งเป็น 3 กลยุทธ์หลักได้แก่ 1) กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ (Product Strategy)เน้นนวัตกรรมล้ำหน้า มาเต็มไลน์อัพ สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างของแต่ละธุรกิจรวมกว่า 90 รุ่น พร้อมนำเสนอโซลูชั่นเพื่อการใช้งานที่สมบูรณ์มากขึ้น เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ 2) กลยุทธ์ด้านพันธมิตร (Partner Strategy) เน้นให้การดูแลที่เป็นเลิศและร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 100รายทั่วประเทศเพื่อให้ส่งมอบผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นของจอดิจิทัล ไซน์เนจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพิเศษในทุกๆ อุตสาหกรรม ที่คอยให้คำปรึกษา ตั้งแต่กระบวนการวางแผน การออกแบบ ติดตั้ง การสร้างสรรค์และบริหารจัดการคอนเทนท์ เพราะเราเชื่อว่าแต่ละธุรกิจมีความต้องการใช้งานจอดิจิทัลไซน์เนจที่แตกต่าง 3) กลยุทธ์ด้านการบริการ (Service Strategy) มอบการดูแล และ บริการหลังการขายแบบครบวงจร โดยเฉพาะในปีนี้ซัมซุงวางแผนขยายศูนย์บริการในรูปแบบ Dealer Service Center เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งแบบบริการถึงที่ (On-site Service) และ คอลเซ็นเตอร์พิเศษสำหรับลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ รวมถึงจำนวนช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีกระจายอยู่ทุกจุดทั่วประเทศ ให้บริการได้อย่างรวดเร็วภายในวันทำการถัดไปครอบคลุมพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด”
“ด้วยการนำเสนอจอดิจิทัลไซน์เนจที่รองรับความต้องการของลูกค้าองค์กร ทุกธุรกิจ ทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงใหญ่ ทำให้ซัมซุงเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ของเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ธุรกิจของลูกค้าองค์กรพัฒนาและเติบโตได้อย่างยั่งยืน และซัมซุงมั่นใจว่าจะได้รับเสียงตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย และยืนหยัดความเป็นผู้นำในตลาดจอดิจิทัลไซน์เนจต่อไป” นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ กล่าวทิ้งท้าย