มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก และสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เดินหน้าสร้างเครือข่ายความร่วมมือช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กไทย โดยร่วมกับ สำนักงาน กสทช. และ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม เอไอเอส (AIS), ทรูมูฟ เอช (TrueMove H) และ ดีแทค (dtac) สร้างสรรค์กิจกรรมระดมทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กไทยให้ห่างไกลโรคร้าย และจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนการรักษาและบริการของสถาบันสุขภาพเด็กและรองรับความต้องการที่มากขึ้นในอนาคต ล่าสุดร่วมมือเปิดช่องทางให้ประชาชนร่วมบริจาคความช่วยเหลือผู้ป่วยเด็ก ผ่านโทรศัพท์ 9481415*100# กดโทรออก (บริจาคครั้งละ ๑๐๐ บาท) ดำเนินการภายใต้โครงการ “ให้โอกาสความรัก ให้โอกาสชีวิต” (Give Love a Chance , Give Life a Chance)”
นายแพทย์สมเกียรติ ลลิตวงศา กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก และผู้อำนวยการ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่า “สถาบันสุขภาพเด็กฯ (รพ. เด็ก) ขอน้อมสืบสานพระราชปณิธานใน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านการอนามัยแม่และเด็ก และการรักษาพยาบาลผู้ป่วยเด็ก ตามพันธกิจในการเป็นเสาหลักในให้การดูแลทารกและเด็กพิการแต่กำเนิด รวมทั้งทารกคลอดก่อนกำหนดครบวงจรระดับสากล เพื่อลดอัตราการตายและพิการของทารกแรกเกิดให้น้อยลง โดยกำหนดแนวทางและบทบาทในการดูแลรักษาสุขภาพเด็กไทยและศูนย์กลางองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญสู่ความเป็นเลิศด้านโรคเฉพาะทางเด็ก รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรการแพทย์เฉพาะทางโรคเด็กในระดับสากล ทั้งนี้ ประเทศไทยมีทารกเกิดใหม่ ปีละ ๗๐๐,๐๐๐ คน เป็นทารกเกิดก่อนกำหนดประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ คน ซึ่งต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และทารกกลุ่มนี้จะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงและต้องใช้เครื่องมือในการรักษามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทารกเกิดก่อนกำหนดและทารกที่มีความพิการแต่กำเนิด ซึ่งพบว่ามีอัตราการตายสูงอ้างอิงจากรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ว่าสาเหตุการตายในเด็กอายุต่ำกว่า ๕ ปี ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อันดับหนึ่ง คือ ทารกแรกเกิดพบร้อยละ ๗๒ โดยมีสาเหตุการเสียชีวิต คือ ทารกเกิดก่อนกำหนด (ร้อยละ ๓๗.๕) และรองลงมา คือ ทารกที่มีความพิการแต่กำเนิด (ร้อยละ ๒๓.๙) ทารกกลุ่มนี้จึงต้องการสถานพยาบาลที่มีศักยภาพสูงและดูแลโดยทีมสหสาขาวิชาชีพต่างๆ ในการรักษา
ในปีนี้ สถาบันสุขภาพเด็กฯ ได้วางเป้าหมายเพื่อสนองยุทธศาสตร์ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อลดจำนวนอัตราการสูญเสียของทารกและเด็กวัยในช่วงอายุน้อยกว่า ๒ ปี จึงได้เร่งส่งเสริมความเป็นเลิศด้านต่างๆ ในครอบคลุมการบริการของผู้ป่วยเด็กในทุกภาคส่วน โดยได้ตั้งโครงการ “ให้โอกาสความรัก ให้โอกาสชีวิต (Give Love a Chance, Give Life a Chance)” เพื่อระดมทุนจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ชั้นสูงในการสนับสนุนการรักษาและบริการของสถาบันสุขภาพเด็ก พร้อมทั้งได้รับความร่วมมือ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ สำนักงาน กสทช. และ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมในประเทศไทย ได้แก่ เอไอเอส (AIS), ทรูมูฟ เอช (TrueMove H) และ ดีแทค (dtac) ดำเนินการสร้างเครือข่ายในการสร้างสรรค์กิจกรรมระดมทุนจัดหารายได้มอบให้ มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก โดยมี ศ.ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษามหาราชินี เพื่อเข้าการช่วยเหลือเด็กไทยให้ห่างไกลโรคร้าย และจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนการรักษา บริการ และรองรับความต้องการที่มากขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนในประเทศไทยทุกกลุ่มได้มีส่วนร่วมและตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพเด็กไทยที่มีผลต่อประเทศชาติในอนาคตมากขึ้น ผ่านกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและช่องทางบริจาคพิเศษผ่านโทรศัพท์ 9481415100# กดโทรออก (บริจาคครั้งละ ๑๐๐ บาท) (ไม่สามารถออกใบเสร็จได้) หรือ บริจาคผ่านระบบ Prompt Pay (พร้อมเพย์) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขา สถาบันสุขภาพเด็กฯ หมายเลข ๐๙๕ ๕๕๘ ๑๔๑๕ (*สามารถนำหลักฐานมาออกใบเสร็จได้)
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการสายงานกิจการโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ สำนักงาน กสทช. กล่าวถึงบทบาทและความร่วมมือที่มีต่อสถาบันสุขภาพเด็กว่า “สำนักงาน กสทช. ตระหนักถึงบทบาทของเด็กในการขับเคลื่อนสังคมไทย เด็ก ๆ จึงควรได้รับการดูแลที่ดี ทั้งทางด้านสุขภาพ การเจริญเติบโต การศึกษา และโอกาสในการเข้าถึงสื่อรวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ นอกจากนี้ ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม สำนักงาน กสทช. ก็มีการดำเนินการเพื่อสนับสนุนการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลซึ่งรวมถึงการหลอมรวมของภาคโทรคมนาคมกับภาคอื่นๆ เช่น ภาคการเงิน เพื่อให้ประชาชนสามารถทำธุรกรรมทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างปลอดภัย มั่นใจ และสะดวกสบาย จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคในโครงการ “ให้โอกาสรัก ให้โอกาสชีวิต”
คุณพีระศักดิ์ โกมลารชุน ผู้ชำนาญการงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอส ให้ความสำคัญในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทยให้เติบโตอย่างแข็งแรงยั่งยืน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็กที่จำเป็นต้องมีสถานที่พัฒนาการเรียนรู้ควบคู่กับการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เพื่อให้เกิดการพัฒนาการด้าน IQ และ EQ ตามวัย ด้วยเหตุผลนี้ บริษัทฯ จึงได้จัดตั้ง “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เอไอเอส – สานรัก” ขึ้นทั่วประเทศ เพื่อเป็นบ้านและโรงเรียนที่มีทั้งความรักความอบอุ่นการเอาใจใส่ดูแลและให้การศึกษาที่ดีแก่เด็กๆ ได้เรียนรู้หนังสือควบคู่ไปกับการฟื้นฟูจิตใจ เห็นคุณค่าในตนเอง และร่างกายที่แข็งแรง อันจะเป็นการสร้างรากฐานชีวิตให้เด็กเกิดภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง เพื่อการเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีความสุขในอนาคต”
ดร. ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยบริหารงานประธานคณะผู้บริหาร และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กลุ่มทรู สานต่อความตั้งใจที่จะร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนในสังคม โดยเฉพาะเด็กซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ จึงพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุน โครงการ “ให้โอกาสความรัก ให้โอกาสชีวิต (Give Love a Chance, Give Life a Chance)” ต่อยอดความร่วมมือกับสถาบันสุขภาพเด็กฯ ที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ โดยนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีสื่อสารของทรูมูฟ เอช ร่วมเป็นช่องทางระดมทุน และนำศักยภาพในฐานะสื่อ ร่วมประชาสัมพันธ์โครงการ ตลอดจนยังนำศิลปิน อาทิ โบว์ AF 5 และ ตี๋ AF 4 มาร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งที่ผ่านมา กลุ่มทรู ได้สนับสนุนกิจกรรมต่างๆของสถาบันสุขภาพเด็กฯอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปิดรับบริจาคผ่านระบบ SMS ของทรูมูฟ เอช และจัดทำโครงการ “เรื่องเล่า เรากับแม่ (The Story of Mom & Me)” เป็นเวลา ๓ ปี เพื่อระดมทุนสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชินีด้วย”
คุณอรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานสื่อสารองค์กรและการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า “ดีแทค ได้ตระหนักถึงบทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีการสื่อสารในโลกดิจิทัล ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน ซึ่งถือเป็นพันธกิจในการทำธุรกิจของดีแทค คือการมุ่งมั่นเป็นบริษัทที่ส่งเสริมสิทธิเด็กและหลักปฏิบัติทางธุรกิจ (Child-Friendly Business) โดยเรามุ่งมั่นในการรับผิดชอบควบคู่ไปพร้อมกับการให้บริการที่มีคุณภาพ ภายใต้การสร้างสังคมดิจิทัลที่เข้มแข็ง (Digital resilience) โดยปลูกฝังและสร้างการรับรู้ให้พวกเขาตระหนักถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ปลอดภัยและสร้างสรรค์ ให้รู้สิทธิหน้าที่และความรับผิดชอบต่อสังคมในฐานะพลเมืองดิจิทัล (Digital Citizen) พร้อมชี้ให้เห็นโอกาสใช้ดิจิทัลเพื่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศได้ อาทิ dtac Parent Guide คู่มือพ่อแม่ยุคดิจิทัล เข้าใจลูก เข้าใจโลกไซเบอร์ เป็นต้น รวมทั้งเพิ่มบทบาทระหว่างองค์กรกับสุขภาพของเด็กไทย โดยให้ร่วมมือและให้การสนับสนุนผ่านระบบโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ เพื่อเป็นช่องทางในการเชื่อมต่อความลื่นไหลของการสื่อสารและข้อมูลความสำคัญในแง่มุมต่างๆ ของสถาบันสุขภาพเด็กไปยังคนไทยทุกกลุ่ม เพื่อเชิญชวนลูกค้าและคนไทยที่มีจิตศรัทธามาร่วมบริจาคเงิน สร้างกุศลครั้งยิ่งใหญ่ด้วยกัน ที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับสถาบันสุขภาพเด็กเปิดสายตรงฮอตไลน์ ๑๔๑๕ และมุ่งมั่นว่าจะเพิ่มการจัดทำโครงการร่วมกันกับสถาบันสุขภาพเด็กต่อไปในอนาคต”