หลังจากประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Vivo รุ่นเรือธง “Vivo V7+” (อ่านรีวิว Vivo V7+ ที่นี่) ภายใต้สโลแกน 24MP Clearer Selfie Perfect Shot ที่มาพร้อมความโดดเด่นของกล้องหน้า ที่ให้ความคมชัดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล – กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล และตอบโจทย์ “ชีวิตไร้ขีดจำกัด” ด้วยหน้าจอแบบ FullView Display ได้รับการตอบรักอย่างดีเยี่ยมทั้งจากกลุ่มลูกค้าวีโว่เอง และกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เห็นประโยชน์จากฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์คนในยุคปัจจุบันได้อย่างเต็มรูปแบบ

วีโว่ เซอร์วิส (ประเทศไทย) มุ่งเน้นในเรื่องของการบริการหลังการขายเป็นหัวใจหลัก โดยยึดหลักการบริการหลังการขายเป็นมาตารฐานสากล ซึ่งได้ขยายศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าได้มากขึ้นอย่างทั่วถึง โดยในปัจจุบันมีศูนย์บริการลูกค้ารวม 29 แห่งทั่วประเทศ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 ภาค อาทิ กรุงเทพมหานคร , ภาคเหนือ , ภาคกลาง , ภาคตะวันตก , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ , ภาคตะวันออก และ ภาคใต้

ในฐานะที่วีโว่ แบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำจากประเทศจีนที่สร้างยอดขายอย่างต่อเนื่องจากจากปีที่ผ่านมา โดยสามารถขายจุดขายไปได้มากขึ้นถึง 48% จากตลาดทั้งหมดที่มีในปัจจุบัน และยังทำการรุกตลาดที่สำคัญๆนอกเหนือจากประเทศจีนอีกด้วย หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการสร้างปรากฏการการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ Vivo รุ่น V7+ ในประเทศอินเดีย, ประเทศไทย, ประเทศฟิลิปปินส์, ประเทศพม่า, ประเทศมาเลเซีย, ประเทศปากีสถาน, ประเทศเขมร และประเทศบังคลาเทศ วีโว่ยังคงมุ่งหน้าสู่ความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีที่ส่งผ่านความมั่นใจต่อเป็นยังกลุ่มคนยุคใหม่ทั่วโลกด้วยมาตรฐานสากลและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง

วีโว่เริ่มเข้าสู่ตลาดสากลตั้งแต่ปี 2014 เราทำความเข้าใจและเรียนรู้ความต้องการของผู้บริโภคในเชิงลึก เพื่อนำมาต่อยอดความเป็นนวัตกรรมและสไตล์เฉพาะตัวของวีโว่ ที่สามารถตอบโจทย์ความเป็นไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบันได้ ดังที่ Alex Feng, Senior Vice President of Vivo ได้กล่าวไว้ว่า “พวกเราต้องการเข้าถึงตลาดกลุ่มใหญ่ในประเทศฮ่องกง, ไต้หวัน, ประเทศสิงคโปร์, ประเทศรัสเซีย และประเทศแอฟริกา ภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยนำเอานวัตกรรมที่ออกแบบเฉพาะตัวของเรายึดตามคุณภาพระดับสากล ด้วยสไตล์ที่โดดเด่นของวีโว่เพื่อตอบสนองกลุ่มตลาดใหม่นี้ โดยเราหวังว่าจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในใจของคนยุคใหม่ทั่วโลกที่ต้องการความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองได้

Vivo V7+ แบ่ง 2 จอเพื่อใช้งานได้ แต่ไม่ใช่ทุกแอปนะ

ในฐานะที่แบรนด์วีโว่เข้ามาทำการตลาดจนถึงปัจจุบัน จากการสำรวจของ Gartner วีโว่อยู่ในอันดับที่ 5 ของตลาดสมาร์ทโฟนสากล และยอดขายในไตรมาตรที่ 2 ของปี 2017 สามารถเพิ่มส่วนแบ่งของตลาดได้เพิ่มขึ้นถึง 6.6%