บริษัท ไฮเซ่นส์ อิเลคทริค จำกัด บริษัทลูกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของกลุ่มบริษัท ไฮเซ่นส์ เปิดเผยว่า ไฮเซ่นส์ได้ตกลงซื้อกิจการ โตชิบา ทีวี โปรดักชันส์ ซึ่งรวมทั้งแบรนด์และการให้บริการ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
โดย ไฮเซ่นส์ จะซื้อหุ้นสัดส่วน 95% ของหุ้นทั้งหมดของ โตชิบา วิชวล โซลูชันส์ (ทีวีเอส) บริษัทลูกของ โตชิบา คอร์ปอเรชัน ในราคา 12.9 พันล้านเยน ทำให้หุ้นที่โตชิบาถือในทีวีเอสลดลงเหลือ 5% การซื้อกิจการนี้ จะทำให้ไฮเซ่นส์ได้ธุรกิจทีวีเพิ่ม ทั้งการผลิต การวิจัยและพัฒนา และการขาย ในขณะที่ทีวีเอสได้สิทธิ์ในการใช้
แบรนด์โตชิบาสำหรับสินค้าและบริการของทีวีเอสทั่วโลก ในระยะเวลา 40 ปี โดยร่วมกันพันธมิตรทางธุรกิจที่มีอยู่ในยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่น ๆ
ด้วยประวัติยาวนาน 142 ปี โตชิบา เป็นผู้นำเทคโนโลยีการแสดงภาพทั้งในญี่ปุ่นและในระดับโลก และ แบรนด์โตชิบาเป็นแบรนด์ติดอันดับแบรนด์เทคโนโลยีระดับโลก (Global Technology Brand List) และเป็นที่รู้จักดีในประเทศจีน ซึ่งลูกค้าสามารถจดจำได้แม้กระทั่งเนื้อเพลงในโฆษณาโตชิบาสมัยก่อน ทีวีเอส ดำเนินธุรกิจโทรทัศน์ของโตชิบา และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การแสดงภาพสำหรับการค้าและการโฆษณา โดยมีโรงงานสองแห่งในญี่ปุ่น มีพนักงานวิจัยและพัฒนาหลายร้อยคน รวมทั้งยังมีทรัพย์สินทางปัญญาทางด้านธุรกิจโทรทัศน์ เช่น สิทธิบัตรทางด้านคุณภาพของภาพโทรทัศน์และระบบเสียง
นายหลิวหงซิน ประธานกลุ่มบริษัทไฮเซ่นส์ กล่าวว่า “ไฮเซ่นส์จะได้ประโยชน์จากทรัพยากรของทีวีเอส ทั้งทางด้านวิจัยและพัฒนา ห่วงโซ่อุปทาน และช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วโลก โดยไฮเซ่นส์และทีวีเอส จะร่วมมือและสนับสนุนกันและกันในด้านเทคโนโลยีการแสดงภาพ เพื่อร่วมกันแข่งขันให้บริการเนื้อหาสำหรับสมาร์ททีวีในตลาดโลก และรักษาการเติบโตที่ต่อเนื่องและรวดเร็วในตลาดญี่ปุ่น”
จากข้อมูลที่รวบรวมโดย IHS ยอดขายของโทรทัศน์โตชิบาสูงเป็นอันดับ 3 ในตลาดญี่ปุ่นในปี 2559 ในขณะที่โทรทัศน์ไฮเซ่นส์มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดสำหรับแบรนด์ต่างชาติในตลาดญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อไฮเซ่นส์ได้ซื้อกิจการทีวีเอสแล้ว ส่วนแบ่งการตลาดจะเป็น 20% ทำให้สามารถตั้งเป้าหมายได้เป็นผู้นำอันดับ 2 ของตลาดญี่ปุ่น ส่วนในตลาดโลก IHS รายงานว่าโทรทัศน์สีของไฮเซ่นส์อยู่ในอันดับ 3
ไฮเซ่นส์ เป็นแบรนด์อันดับ 1 ในประเทศจีนนานถึง 13 ปีต่อกัน และดำเนินกลยุทธ์ระดับโลกโดยเป็นผู้สนับสนุนงานกีฬาชั้นนำ เช่น การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 (UEFA Euro 2016) , และ ฟุตบอลโลก ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ™ 2018 การซื้อกิจการนี้จะทำให้ไฮเซ่นส์สามารถพัฒนาและขยายธุรกิจโทรทัศน์ในตลาดโลก ทั้งทางด้านการวิจัยและพัฒนา แบรนด์ และการตลาด ภายใต้หลายแบรนด์ ส่วนการร่วมมือกันของไฮเซ่นส์และโตชิบาจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการโทรทัศน์
โทรทัศน์ไฮเซ่นส์ เข้าตลาดไทยในปี 2559 โดยชูเทคโนโลยีสมัยใหม่และการออกแบบ รวมทั้งคุณภาพสินค้า และการบริการหลังการขายถึงที่ในระดับพรีเมียมนาน 3 ปี โดยวางจำหน่ายในพาวเวอร์บาย และ เทสโก้ โลตัส ส่วนในอนาคต ไฮเซ่นส์ วางแผนจะเข้าช่องทางโมเดิร์นเทรดทั้งหมดในช่วง ฟุตบอลโลก ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ™ 2018