อาลีบาบา กรุ๊ป เดินหน้าบรรยายพิเศษภายใต้หลักสูตร อาลีบาบา โกลบอล คอร์ส (Alibaba Global Course) ใน ประเทศไทย เป็นครั้งที่ 2 สานต่อพันธกิจการพัฒนาธุรกิจยุคดิจิทัล หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการจัดการบรรยายครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยกิจกรรมการบรรยายพิเศษจะถ่ายทอดกลยุทธ์และเทคนิค เสริมสร้างความรู้ พัฒนาศักยภาพ และเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทยให้ประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล นอกจากนี้ อาลีบาบา ยังเตรียมต่อยอดการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ SME ไทย ด้วยการประกาศเปิดตัวโครงการ “ลาซาด้า สตาร์” (Lazada Star) ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง วิทยาลัยธุรกิจอาลีบาบา มหาวิทยาลัยเถาเป่า และ ลาซาด้า เพื่อขยายฐานความรู้เกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น พัฒนาผู้ค้าที่มีศักยภาพให้กลายเป็นวิทยากรมืออาชีพที่ได้รับการรับรอง พร้อมเผยแพร่ความรู้และประสบการณ์ต่อไป
การบรรยายพิเศษในหัวข้อ “เส้นทางการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล” (Path to Digital Transformation) ภายใต้หลักสูตร อาลีบาบา โกลบอล คอร์ส ครั้งที่ 2 จัดขึ้นโดยวิทยาลัยธุรกิจอาลีบาบา และ ลาซาด้า ประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟังการบรรยายครั้งนี้มากกว่า 700 คน ในฐานะตัวแทนของธุรกิจไทยกว่า 300 ราย จัดขึ้นเป็นระยะเวลา 1 วันเต็ม ณ โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท เนื้อหาการบรรยายกล่าวถึง ภาพรวมเชิงกลยุทธ์ของอาลีบาบาในด้านการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการไทย รวมถึงแนวทางของลาซาด้าในการสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้าผ่านความเชี่ยวชาญของผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มออนไลน์ นอกจากนี้ครอบคลุมถึงบทบาทของ การชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) และ โซลูชั่นส์โลจิสติกส์อัจฉริยะ (intelligent logistics solutions) เพื่อยกระดับธุรกิจอีคอมเมิร์ซสำหรับ SME รวมถึงเพิ่มโอกาสใหม่ ๆ ทางการค้าระหว่างประเทศในยุคของค้าปลีกยุคใหม่
มร. ลูอิส หลิว ประธานฝ่ายโกลบอล เทรนนิ่ง มหาวิทยาลัยเถาเป่า กล่าวว่า “หลักสูตรอาลีบาบา โกลบอล คอร์ส เป็นการเน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ของอาลีบาบาในการมอบโอกาสเพื่อการพัฒนาให้กับทุกคนทั่วโลก และเป็นการต่อยอดความพยายามของเราในการส่งเสริมความเข้าใจและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กในประเทศไทย ภายใต้บันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลไทย สำหรับการบรรยายพิเศษครั้งที่ 2 นี้ จะมีเนื้อหาที่เจาะลึกเกี่ยวกับโซลูชั่นส์จากอีโคซิสเต็มของอาลีบาบามากยิ่งขึ้น รวมถึงความรู้เชิงลึกจากผู้บริหารของเราและผู้ค้าที่ประสบความสำเร็จ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่ยุคดิจิทัล”
มร. ไอโมเน่ ริป้า ดิ เมอาน่า ประธานฝ่ายปฏิบัติการ ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าว“ลาซาด้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับวิทยาลัยธุรกิจอาลีบาบา ในการจัดโครงการที่อัดแน่นด้วยเนื้อหาสาระอันเป็นประโยชน์ พร้อมขับเคลื่อน ธุรกิจ SME ไทย ให้ก้าวหน้าและเติบโตไม่ใช่เพียงในตลาดไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกได้อีกด้วย เรายังคงมุ่งมั่นเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการให้ก้าวสู่ความสำเร็จ ด้วยแพลตฟอร์มการซื้อขายที่โดดเด่นและแตกต่าง ระบบโลจิสติกส์อันทรงประสิทธิภาพ การบริหารจัดการสินค้า แคมเปญ และผู้ขายบนมาตรฐานสูงสุด และเทคโนโลยีล้ำสมัย”
ตลอดระยะเวลา 5 เดือนแรกของปี 2561 มูลค่าการส่งออกของธุรกิจ SME ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 7.8% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 2.547 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ยังเป็นที่คาดการณ์ว่ากระแสการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จะเปิดช่องให้ SME ไทยได้คว้าโอกาสสำคัญในการเติบโตสู่ความสำเร็จ ท่ามกลางสภาพตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
นายเดชา จตุธนานันท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “ธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลางมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก โดยคิดเป็น 41.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ดังนั้น การพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้ประกอบการจึงถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งสำหรับประเทศไทย ตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา เราได้ทำงานร่วมกับอาลีบาบา กรุ๊ป ในการพัฒนาโครงการฝึกอบรมที่ช่วยเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการ SME มีทักษะความรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลและประสบความสำเร็จ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคอร์สการฝึกอบรมในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการ SME ไทย”
นายพรวิช ศิลาอ่อน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เสริมว่า “กระทรวงพาณิชย์ ได้ทำงานร่วมกับอาลีบาบาในโครงการส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการจำนวนมากมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจ SME ไทย ในการค้าระหว่างประเทศและการเติบโตทางธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัล โดยอาลีบาบาและลาซาด้าถือเป็นพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งสามารถช่วยส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรในระยะยาว”
นอกเหนือจากการบรรยายเกี่ยวกับแผนกลยุทธ์ของอาลีบาบาและลาซาด้า ยังครอบคลุมถึงการแบ่งปันความรู้เชิงลึกสำหรับผู้ประกอบการในการสร้างโอกาสทางธุรกิจจากตลาดจีน โดยผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ นายดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหารของมิสทีน และ นายบุญชัย ลิ่มอติบูลย์ รองประธานกรรมการของบลูมารีน