รพ.บำรุงราษฎร์ ประกาศวิสัยทัศน์การทำงาน ตอกย้ำการเป็นผู้นำ World-class holistic healthcare ที่สร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรมภายในปี พ.ศ. 2565 โดยกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินงานไว้ใน 5 ปีข้างหน้า มุ่งเน้นให้ความสำคัญใน 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
- การปรับเปลี่ยนจากการรักษาผู้ป่วย เป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Care)
- การประมวลข้อมูลที่มีอยู่จำนวนมากเข้าด้วยกันเพื่อประโยชน์ของการบริบาลอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม (Big Data), ตลอดจนการนำเทคโนโลยีทางด้านปัญญาประดิษฐ์เข้ามาปรับใช้ (Artificial Intelligence) และประการสุดท้าย
- การเชื่อมโยงระหว่างกันของทุกส่วนที่เกี่ยวข้องคน เทคโนโลยี และศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง (Connected, Team)
ปัจจัยที่จะทำให้โรงพยาบาลก้าวไปสู่การเป็น World-class holistic healthcare ได้จำเป็นต้องนำเทคโนโลยีทางการแพทย์มาใช้เพื่อสุขภาพเชิงรุก ซึ่งให้ผลดีกว่าการตั้งรับรักษาอาการเจ็บป่วย โดยเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่โรงพยาบาลนำมาใช้จะคำนึงถึงผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง รวมถึงนำระบบบริหารจัดการในลักษณะ Operational Excellence มาใช้ในองค์กร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับคนไข้มากที่สุด
โดยในส่วนของเทคโนโลยีทางการแพทย์ มีรายละเอียดดังนี้
Holistic Care การดูแลสุขภาพต่อไปในอนาคต
- รพ.บำรุงราษฎร์ได้มุ่งเน้นไปที่การดูแลเชิงป้องกันไม่ให้เกิดโรค เพราะการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น
- Next-Generation Sequencing Technology (NGS) ช่วยให้สามารถคาดการณ์ความเสี่ยงในการโรค (Prediction)
- สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ DNA หาความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง หรือความเสี่ยงการแพ้ยาบางชนิด รวมถึงการนำมาใช้ในการตรวจรักษาโรคได้อย่างแม่นยำ และจำเพาะต่อตัวบุคคล เพื่อให้เข้าใจถึงรหัสพันธุกรรมของผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งจะช่วยให้สามารถกำหนดแนวทางการรักษาเพื่อดูแล
- รวมถึงส่งเสริมสุขภาพที่ดีและเหมาะสมที่สุดแก่ตัวผู้ป่วย โดยในส่วนนี้โรงพยาบาลได้ทำงานร่วมกับศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งมอบการดูแลรักษาสุขภาพที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น
- Big Data, Artificial Intelligence
- เจตคติและจุดมุ่งหมายที่โรงพยาบาล มุ่งมั่นในการเป็นผู้บุกเบิกด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง และด้วยพันธมิตรในนานาประเทศ ทำให้บำรุงราษฎร์สามารถจับแนวโน้มใหม่ ๆ ในการดูแลรักษาสุขภาพได้
- นำนวัตกรรม AI และเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เช่น ปลายปีที่ผ่านมา บำรุงราษฎร์ได้ร่วมมือกับ BIOTIA เก็บข้อมูลและค้นคว้าวิจัย โดยอาศัย NGS Technology, Big Data เพื่อศึกษาปัญหาเชื้อดื้อยา ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทยและวาระเร่งด่วนระดับโลก
- โดยทั่วโลกมีคนเสียชีวิตจากการติดเชื้อดื้อยาประมาณปีละ 700,000 ราย และหากไม่มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจังในอีก 30 ปีข้างหน้า คาดว่าการเสียชีวิตจะสูงถึง 10 ล้านคน ซึ่งการนำเทคโนโลยีเข้ามา ได้ช่วยยกระดับความสามารถในการตรวจและวิเคราะห์เชื้อก่อโรคได้รวดเร็วและแม่นยำ มีส่วนสำคัญทั้งในด้านผลการรักษา การป้องกันเชื้อดื้อยา ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษา
- Connected, Team การผนึกกำลังและเชื่อมโยงการทำงานในทุก ๆ ฝ่าย
- ร่วมกันเป็นทีมสหสาขาวิชาชีพ ซึ่งเป็น Key Success ของการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยในส่วนนี้จะมี New Core Value 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่
- Agility / Innovation / Caring
- รพ.บำรุงราษฎร์ ได้ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบัน เข้ามาช่วยพัฒนาการสื่อสารในการเชื่อมโยงบุคลากรทางการแพทย์ และทีมงานให้สามารถเข้าถึงผู้ป่วย เพื่อการดูแลที่มีคุณภาพและตรงต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น โดยอาศัยเทคโนโลยีอุปกรณ์เข้ามามีส่วนช่วย อาทิ Telehealth ซึ่งเป็น Communication platform ที่ให้ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ที่มีความสามารถ และความชำนาญตรงต่อโรคและความต้องการของผู้ป่วย
- สามารถให้ความรู้และคำแนะนำที่ถูกต้องเข้าใจง่าย เข้าถึงได้ง่าย , Tele Medicine & Tele Consultation เทคโนโลยีการแพทย์ทางไกลที่ร่วมกับ iDoctor เข้ามาช่วยให้คำปรึกษาผู้ป่วย และลดข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง และช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งสามารถเชื่อมต่อสำนักงานตัวแทนในต่างประเทศ (Referral Office) ที่มีอยู่ 40 แห่งทั่วโลกได้ด้วย
- และระบบ Remote Interpreter เป็นระบบที่เข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ล่ามในการแปลภาษาให้กับผู้ป่วยผ่านอุปกรณ์การสื่อสาร โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปอยู่กับแพทย์หรือผู้ป่วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ล่ามของทางโรงพยาบาลจะต้องผ่านการอบรมและทดสอบการแปลความหมายที่ถูกต้องในทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการสื่อสารถึงข้อมูลในการรักษาที่ถูกต้องและครบถ้วน ผ่านการบริการที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
- ร่วมกันเป็นทีมสหสาขาวิชาชีพ ซึ่งเป็น Key Success ของการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยในส่วนนี้จะมี New Core Value 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่
ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่เราตัดสินใจเปลี่ยนระบบ Hospital Information System (HIS) ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ทำให้เราเชื่อมต่อ Interface กับระบบต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และเพิ่มความปลอดภัยของผู้ป่วยได้ เพราะช่วยให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในแผนกต่างๆ ของโรงพยาบาลสามารถเข้าถึงข้อมูลเดียวกันของผู้ป่วยแต่ละรายได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยในแบบเรียลไทม์ และรพ.บำรุงราษฎร์ มีนโยบายด้านคุณภาพและความปลอดภัยต่าง ๆ ภายในโรงพยาบาลเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด ซึ่งถือเป็นศาสตร์แรกในแขนงเพื่อยับยั้งความผิดพลาดในการรักษาพยาบาล และยังช่วยลดอัตราผู้ป่วยเสียชีวิตจากการติดเชื้อภายในโรงพยาบาลได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ การตรวจสอบระบบห้องแยกโรคแพร่เชื้อทางอากาศ การตรวจการส่งกำจัดของเสียของสารเคมีอันตราย ความปลอดภัยจากการใช้ยา การควบคุมคุณภาพของยา ตลอดจนการส่งมอบยาที่มีคุณภาพจนถึงมือผู้ป่วย โดยได้มีการนำหุ่นยนต์มาช่วยในการจัดยา (Pharmacy robot) สำหรับผู้ป่วยในมาตั้งแต่ปี 2551 ด้วยงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท นับเป็นเทคโนโลยีการจัดการยาที่มีความแม่นยำสูง รวดเร็ว และช่วยป้องกันความคลาดเคลื่อนจากการจัดจ่ายยาให้กับผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี ผู้ป่วยจะได้รับยาที่ถูกต้อง ถูกขนาด ถูกเวลา เป็นไปตามที่แพทย์สั่ง ช่วยลดระยะเวลาการรอรับยา โดยมีแผนกำลังจะขยายการใช้หุ่นยนต์จัดยาสำหรับผู้ป่วยนอกภายในปลายปี 2562 อีกด้วย