ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญแห่งหนึ่งของนูทานิคซ์ จากการที่องค์กรไทยเปิดรับ ให้ความสนใจและนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้อย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีของนูทานิคซ์ ทั้งนี้
นูทานิคซ์ได้จัดงาน .NEXT ON TOUR BANGKOK เป็นปีที่ 5 ในประเทศไทยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการสื่อสาร แจ้งให้ทราบถึงทิศทางด้านเทคโนโลยีของ
นูทานิคซ์ ทั้งในส่วนที่เป็นการอัปเกรด การเปลี่ยนแปลง หรือนวัตกรรม ให้กับพันธมิตรและลูกค้าในประเทศไทยได้รับทราบ
นูทานิคซ์เป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ (Hyperconverged Infrastructure: HCI) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวมเอาระบบประมวลผล, สตอเรจ, เน็ตเวิร์คกิ้ง, เวอร์ชวลไลเซชั่น, และระบบรักษาความปลอดภัย มาไว้ด้วยกัน และใช้ซอฟต์แวร์พื้นฐานของ นูทานิคซ์ที่ชื่อว่า ‘อะโครโพลิส (Acropolis)’ ทำการเชื่อมโยงและผสานการทำงานทั้งหมดเข้าด้วยกัน
ทั้งนี้ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ของนูทานิคซ์ ออกแบบมาเพื่อทรานสฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่อยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ ซอฟต์แวร์ของนูทานิคซ์เปรียบเสมือนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ที่สามารถนำไปไว้ในสมาร์ทโฟนแบรนด์ใดก็ได้ ซอฟต์แวร์ของนูทานิคซ์ก็สามารถ
นำไปใช้กับฮาร์ดแวร์ใด ๆ ที่นูทานิคซ์ให้การรับรองได้เช่นกัน ซึ่งล่าสุดที่นูทานิคซ์เป็นพันธมิตรร่วมกับเอชพีอี (HPE) เป็นต้น ทั้งยังสามารถเชื่อมโยงแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ให้ทำงานร่วมกันได้
นูทานิคซ์มีความคิดที่ว่า HCI คือวิธีคิดใหม่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ต้องมีแนวทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่การนำเทคโนโลยีเดิมที่มีอยู่มาประกอบเข้าด้วยกัน สำหรับนูทานิคซ์ HCI ไม่ใช่การแข่งขัน แต่เป็นแรงบันดาลใจให้กับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ซึ่งเป็นเป้าหมายของนูทานิคซ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ความเป็นผู้นำด้าน HCI ของนูทานิคซ์พิสูจน์ได้จากการได้รับการยกย่องจากการ์ทเนอร์ให้เป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ จากรายงาน Magic Quadrant ประจำเดือนพฤศจิกายน 2562 และนับว่านูทานิคซ์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำในรายงาน Magic Quadrant ด้านนี้ตลอดมาตั้งแต่การ์ทเนอร์ได้เริ่มจัดทำรายงานด้านนี้
นอกจาก HCI แล้ว แพลตฟอร์ม Nutanix Enterprise Cloud ยังสร้างมาตรฐานการดูแลจัดการระบบคลาวด์ต่าง ๆ ได้จากส่วนกลางด้วยระบบบริหารจัดการเดียวผ่านทางเว็บบราวเซอร์ที่ใช้งานง่ายและไม่จำเป็นต้องเสียเวลาติดตั้ง สามารถรองรับแอปพลิเคชันทุกรูปแบบ และปรับขยายได้อย่างไร้ข้อจํากัด ไม่ว่าองค์กรจะใช้งานไพรเวท, พับลิค และดิสทริบิวเต็ตคลาวด์
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่นูทานิคซ์ให้ความสำคัญ ณ งาน .NEXT ON TOUR BANGKOK ปีนี้ และมองว่าเป็นอนาคตขององค์กรในทุกอุตสาหกรรม คือเรื่องของ Edge Computing หรือการประมวลผลที่ต้นทางของข้อมูล ที่นับวันจะได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมีมากมายมหาศาล ทั้งอุปกรณ์ที่อยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์ นอกดาต้าเซ็นเตอร์ หรืออยู่บนพับลิค คลาวด์ นอกจากนี้ปริมาณข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ IoT เหล่านี้นั้นมีมากกว่าข้อมูลที่อยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์อย่างมหาศาล
ความท้าทายในยุคของ Edge Computing ที่องค์กรกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันและอนาคต คือจะบริหารจัดการอุปกรณ์ปลายทางที่แยกกันเป็นชิ้น ๆ ที่มีมาตรฐานต่างกัน ใช้งานอยู่คนละสถานที่ อย่างจริงจังได้อย่างไร จะใช้เทคโนโลยีใดเข้ามาควบคุมดูแลและทำให้อุปกรณ์เหล่านั้นให้เชื่อมโยงกันได้อย่างราบรื่น ดังนั้นแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่จะสามารถรองรับและขจัดความท้าทายเหล่านี้ จะต้องมีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่น คล่องตัว ง่าย ทำงานได้แบบเรียลไทม์ ปลอดภัย ปรับขนาดได้ตามต้องการ และมีความเสถียร ซึ่งซอฟต์แวร์ของนูทานิคซ์ตอบโจทย์ได้อย่างครบวงจร