บริษัท เลกาซี่ ไพร์ม เมด และ บริษัท เอวีเอส อินโนเวชั่น ภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ร่วมกันพัฒนาสูตรน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสภายใต้เทคโนโลยี “i-Sol+ Tech” ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นอีกทางเลือกของคำตอบในการกำจัดไวรัสชนิดต่างๆรวมถึงโคโรนาไวรัสได้ถึง 99% ออกฤทธิ์ปกป้องพื้นผิวนานถึง 24 ชม. พกพาสะดวก ฉีดได้ทั้งหน้ากากและพื้นผิวสัมผัสต่างๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการปกป้องและฆ่าเชื้อไวรัส
รศ.ดร.นพ.กำพล ศรีวัฒนกุล ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งบริษัท เอวีเอส อินโนเวชั่น จำกัด ภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ที่ได้มีการแพร่กระจายไปทั่วโลกและเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น เพื่อเป็นการควบคุมการระบาดและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต รวมทั้งลดความตื่นตระหนกของประชาชน จำเป็นต้องมีนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสและเชื้อโรคชนิดต่างๆ ไม่ให้กระจายวงกว้างมากขึ้น และต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประชาชนสามารถใช้ได้อย่างทั่วถึงและไม่เกิดอันตราย
เพื่อให้มีทางเลือกของผลิตภัณฑ์ป้องกันเชื้อไวรัสที่มากขึ้น ทางบริษัทจึงได้พัฒนาเทคโนโลยี i-Sol+ Tech (ไอโซ-เทค) สิทธิบัตรเฉพาะของบริษัท ซึ่งเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสปราศจากแอลกอฮอล์ มีสารออกฤทธิ์สำคัญที่ National Environment Agency (NEA) ได้ให้คำแนะนำว่าเป็นสารที่สามารถฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัสได้ถึง 99%
โดยเป็นการใช้เทคโนโลยีนาโนซึ่งเป็นสิทธิบัตรเฉพาะ ในการสร้างอนุภาคไอออนเพื่อเข้าทำลายเมมเบรน หรือเปลือกห่อหุ้มไวรัสที่เรียกว่า แคปซิด (Capsid) และสารพันธุกรรมของไวรัสซึ่งมีองค์ประกอบของนิวคลิอิกแอซิด (Nucleic acid) โดยจะเข้าไปยับยั้งทำให้ไวรัสไม่สามารถแพร่กระจายสู่เซลล์ของมนุษย์ และทำให้ไวรัสตายในที่สุด ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อไวรัสทั้งแบบมีเปลือกห่อหุ้ม (enveloped virus) และไม่มีเปลือกห่อหุ้ม (ไวรัสเปลือย) (non-enveloped virus) โดยโคโรนาไวรัส หรือไวรัสที่ก่อให้เกิดโรค COVID-19 จัดเป็นไวรัสกลุ่มมีเปลือกห่อหุ้ม
และจุดเด่นที่สำคัญของ i-Sol+ Tech คือเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดโดยทั่วไปที่มักมีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ (alcohol-based) เป็นหลัก แม้ว่าแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในตลาดจะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคได้ดี และได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกว่าสามารถฆ่าเชื้อโคโรนาได้ แต่แอลกอฮอล์นั้นออกฤทธิ์ในการฆ่าไวรัสได้ไม่เกิน 1 นาที เนื่องจากระเหยได้ง่าย อีกทั้งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ผิวแห้งในผู้ใช้บางราย โดยเมื่อฉีด i-Sol+ Tech แล้ว สามารถออกฤทธิ์บนพื้นผิวสัมผัสทุกชนิด รวมถึงการพ่นบนหน้ากากอนามัย และการฉีดทำความสะอาดมือได้นานถึง 24 ชม.
อีกทั้ง i-Sol+ Tech เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก จึงเหมาะกับทุกคนแม้แต่ผู้ที่แพ้ง่าย ผู้ใช้สามารถฉีดสเปรย์ลงบนหน้ากากและพื้นผิวสัมผัสต่างๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการปกป้องและฆ่าเชื้อไวรัส หน้ากากอนามัย สำหรับผู้ที่ใช้หน้ากากอนามัยประเภทซักได้ สามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการนำกลับมาใช้ซ้ำโดยการซักทำความสะอาดและฉีดสเปรย์ลงบนหน้ากากเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องและฆ่าเชื้อไวรัสก่อนใช้งานทุกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่หน้ากากอนามัยขาดตลาด และยังเป็นการช่วยลดขยะจากหน้ากากอนามัยได้อีกด้วย
ด้านนายอภิวัฒน์ เฟื่องฟู กรรมการ บริษัท เลกาซี่ ไพร์ม เมด จำกัด (Legacy Prime Med) กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายหลักในการสนับสนุนศักยภาพของงานวิจัยจากนักวิจัยไทย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญต่อการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้ให้การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาร่วมกับนักวิจัยของบริษัท เอวีเอส อินโนเวชั่น จำกัด ภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย เพื่อพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสและเชื้อโรคภายใต้เทคโนโลยี i-Sol+ Tech (ไอโซ-เทค) ซึ่งเป็นนวัตกรรมสูตรน้ำสำหรับฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และ เชื้อรา เพื่อการเข้าถึงสุขภาวะที่ดีของทุกคน โดยน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสดังกล่าวปราศจากแอลกอฮอล์และอยู่ภายใต้สิทธิบัตรของบริษัท เลกาซี่ ไพร์ม เมด จำกัด โดยในขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการจดสิทธิบัตร และหลังจากจดสิทธิบัตรแล้ว จะสามารถผลิตและออกจำหน่ายออกสู่ตลาดได้
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะวางจำหน่าย มีให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ ขนาดพกพา 20 มล. ขนาด 250 มล. สามารถใช้ได้ในบ้าน และขนาดใหญ่ 1,000 มล. เพื่อใช้ภายในสำนักงานหรือองค์กร
นอกจากนี้เพื่อเป็นการสานต่อนโยบายของบริษัท เลกาซี่ ไพร์ม เมด จำกัด ในการสนับสนุนการคิดค้นและพัฒนางานวิจัย ภายในงานยังได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสและเชื้อโรค ระหว่าง บริษัท เลกาซี่ ไพร์ม เมด จำกัด โดยนาย อภิวัฒน์ เฟื่องฟู กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายชิงตะ แซ่หว่าง กรรมการบริษัท และ บริษัท เอวีเอส อินโนเวชั่น จำกัด ภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย โดย นายอนุวัฒน์ หลายกิจรุ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และดร.สรวง สมานหมู่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ร่วมลงนามความร่วมมือทั้ง 2 หน่วยงาน และพร้อมร่วมสนับสนุนบริจาคผลิตภัณฑ์ หนึ่งล้านมิลลิลิตรแรก ให้กับหน่วยงานภาครัฐด้านการแพทย์ทั้งในไทยและในประเทศจีน เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงที่ร่วมสนับสนุนมาตรฐานการ การควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคและสุขภาวะที่ดีของประชาชน
ติดตามข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ และข้อมูลการจัดจำหน่าย “i-Sol+ Tech” ได้ที่ isoltechspray.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส