บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เดินหน้าปรับกลยุทธ์ทางการตลาด โดยการนำเทคโนโลยีและโซลูชันของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Interactive Flat Panel (IFP) นวัตกรรมจอแสดงภาพแบบ Touch screen resolution ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารทางไกลให้สะดวกรวดเร็วที่ครอบคลุมการใช้งาน Distance Learning ของภาคการศึกษา
นายวัชรพงษ์ วงษ์มา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์เปิดเผยถึงการปรับกลยุทธ์การตลาดในปีนี้ว่า “ สำหรับปี 2563 ทั่วโลกได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 19 หรือ โควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจรวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคหลังจากการแพร่ระบาดโควิดเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงปัญหานี้มาโดยตลอด จึงได้ทำการปรับกลยุทธ์ใหม่ภายใต้แนวคิด Distance Learning Solution โดยนำเอาข้อดีของจอ IFP ของ BenQ ผนวกเข้ากับ Software
เพื่อการเรียนรู้ระยะไกลพร้อมอุปกรณ์กล้องผลักดันเข้าสู่ตลาดโรงเรียนในช่วงไตรมาสที่สองของปี โดยในส่วนยอดขายที่ผ่านมาของผลิตภัณฑ์ จอ IFP ของ BenQ นั้นค่อยๆ มีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2017 เบ็นคิวมีส่วนแบ่งทางการตลาดของธุรกิจจอ IFP อยู่ที่ 3% และสามารถปิดตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดได้ที่ 6% ในสิ้นปี 2019 ที่ผ่านมา ”
“ ในช่วงวิกฤตเช่นนี้ในแต่ละธุรกิจจำเป็นต้องปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ เพื่อช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย จึงเป็นที่มาของการเพิ่มระยะห่างของคนในสังคม หรือ Social Distancing อีกทั้งยังสนับสนุนให้บุคลากรทั้งภาครัฐและเอกชนปฏิบัติงานที่บ้าน หรือ Work From Home โดยมุ่งเน้นการใช้ Platform Online ซึ่งทดแทนการพบปะพูดคุยระหว่างกัน เช่น การติดต่อผ่านสมาร์ตโฟน การใช้แอปพลิเคชันพวก Skype, Cisco Webex, Google Hangout, ZOOM, Go To Meeting และ Microsoft Teams เพื่อการประชุมงานออนไลน์หรือการปรับรูปแบบการเรียนการสอนของสถาบันการศึกษา ”
“ ทางเบ็นคิวเราเป็นผู้นำในการพัฒนาโซลูชันต่างๆ เพื่อตอบสนองภาคการศึกษาในรูปแบบ Distance Learning จึงพร้อมให้บริการทางด้านนวัตกรรมสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์มัลติมีเดียและระบบซอฟแวร์ นั่นคือ ผลิตภัณฑ์ จอภาพอัจฉริยะ Interactive Flat Panel (IFP) ตระกูล RP01-Series นวัตกรรมจอแสดงภาพแบบ Touch Screen ที่ออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกในการเรียนการสอนของคุณครูโดยมีจุดเด่นทั้ง Hardware และ Software โดยในส่วน Hardware หน้าจอ IFP ของ BenQ มีการเคลือบสาร Ionic Silver Coating ซึ่งสามารถป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและไวรัสจากนิ้วมือหรือลายนิ้วมือ
รวมทั้งหน้าจอให้การสัมผัสที่ดีและลื่นไหลซึ่งง่ายต่อการเขียน และ Software จอ IFP ของ BenQ มี Cloud Whiteboard ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอนด้วยการโต้ตอบระหว่างนักเรียนและคุณครู ซึ่งหน้าจอหลักจะใช้จอ IFP ของ BenQ ของคุณครูเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตของนักเรียน รองรับฟังก์ชั่นการเรียนแบบ Collaboration ให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้อย่างไม่มีข้อจำกัดนอกจากนี้ ยังได้นำระบบ Account Management System (AMS) เพื่อรองรับการจัดการบัญชีของผู้ใช้งานให้สามารถเชื่อมต่อฐานข้อมูลจาก Google, Onedrive หรือ Dropbox ได้ และเพิ่มขีดความสามารถด้วยการ์ด NFC ที่ออกแบบโดย เบ็นคิว
เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการเข้าสู่ระบบของผู้ใช้งาน และจอ IFP ของ BenQ ยังสามารถต่อเข้ากับไมโครโฟนและกล้องเพื่อทำประชุมทางไกลแบบ Video Conference หรือการเรียนการสอนระยะไกลสำหรับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงสถาบันการศึกษา โดยสามารถทำการนำเสนองาน หรือทำการเรียนการสอนพร้อมกับทำการเขียนลงในข้อมูลพรีเซนเทชันได้ไปในตัวเพื่อประสิทธิภาพในการเรียนการสอนและการประชุมรูปแบบใหม่ ” นายวัชรพงษ์ กล่าวปิดท้าย
สำหรับการทดลองสินค้าหรือเข้าชมการสาธิตของ Distance Learning Solution จากจอ Interactive Flat Panel ของ BenQ โดยผู้เชี่ยวชาญในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา19 ท่านสามารถติดต่อและทำการนัดหมายเพื่อทดลองสินค้าได้โดยตรงที่ BenQ ประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) ชั้น 28 เลขที่ 77/119 อาคารสินสาทรทาวเวอร์ ถนนธนบุรี แขวงคลองต้นไทร อำเภอคลองสาน กรุงเทพ หรือโทร 02-700-5861