นิคอนเปิดตัว D7200 กล้อง DSLR รุ่นกลาง ตัวต่อของ D7100

กล้อง DSLR ฟอร์แมต DX รุ่นล่าสุดของนิคอน ฉีกข้อจำกัดเดิมด้วยอัจฉริยภาพที่ผู้ใช้วางใจได้ พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ด้วยความสามารถครบครัน ทั้งการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย การเชื่อมต่อกับโลกโซเชี่ยล จนถึงความเป็นเลิศในการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในระดับ Full HD

โดย Nikon D7200 มีสเปกดังนี้

• ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล
• ระบบประมวลผลภาพ EXPEED 4
• เซ็นเซอร์ CMOS ฟอร์แมต DX
• ISO 100 – 25,600 (ถ้าถ่ายขาวดำจะเพิ่มได้ถึง 102,400)
• ระบบโฟกัส Advanced Multi-CAM 3500 II โฟกัส 51 จุด รุ่นเดียวกับที่ใช้ใน Nikon D750 สามารถจับโฟกัสลงมาได้ถึงระดับ -3EV
• รองรับเทคโนโลยีเชื่อมต่ออย่าง Wi-Fi® ในตัวเครื่อง และ Near Field Communication (NFC) ทำให้ D7200 ถือเป็นกล้อง DSLR รุ่นแรกของนิคอนที่รองรับเทคโนโลยีนี้
• ราคาเฉพาะตัว Body อย่างเดียว $1,199.95 จะเริ่มขายในต่างประเทศเมษายนนี้ ส่วนราคาและวันวางจำหน่ายในไทยจะแจ้งอีกครั้ง

คุณลักษณะเด่นของกล้อง นิคอน D7200

1. เก็บภาพการเดินทางที่น่าตื่นตาบนภาพถ่ายที่น่าตื่นใจ

• ผลงานอันโดดเด่น: ด้วยระบบประมวลผลภาพ EXPEED 4 จึงสามารถเก็บสีและรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ให้ประสิทธิภาพที่คงเส้นคงวา ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพบุคคลที่จะให้สีผิวเปล่งประกายสวยงามตามธรรมชาติ หรือภาพทิวทัศน์อันงดงาม ภาพที่ได้จะมีความชัด คม สมจริงด้วยความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซลเหมาะกับภาพที่ต้องการเน้นรายละเอียดอย่างภาพใบไม้หรือภาพภูมิทัศน์ที่น่าหลงไหล ระบบประมวลผลภาพ EXPEED 4 เอื้อให้สามารถปรับระยะ ISO ได้ตั้งแต่ 100 ถึง 25600 พร้อมประสิทธิภาพในการลดสัญญาณรบกวนเพื่อคงรายละเอียดของภาพไว้แม้ถ่ายด้วย ISO สูง ในกรณีที่ผู้ถ่ายภาพต้องการถ่ายผลงานชิ้นเอกในแบบโมโนโครม (โทนสีเดียว) ก็สามารถปรับยืดระยะ ISO ออกไปได้อีกถึงระดับ Hi BW 1 (เทียบเท่า ISO 51200) และระดับ Hi BW 2 (เทียบเท่า ISO 102400)
• สร้างสรรค์ภาพงามตามจินตนาการ: ตัวเลือก Flat ในรายการ Picture Control จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บความละเอียดปราณีตและความสมบูรณ์ของภาพไว้ได้ในขณะที่ย่นระยะเวลาประมวลผลภาพลงได้หลายชั่วโมง ด้วยการปรับลดแสง เงาหรือความอิ่มสีที่มากเกินไปได้อย่างมีประสิทธิผลจึงทำให้ภาพที่ได้มีความสว่างและสีสันที่เป็นระดับต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีโหมดแต่งภาพที่หลากหลาย อาทิ Clarity ที่จะปรับภาพนิ่งให้คมชัด เพื่อเน้นรายละเอียดและสีสันที่เต็มอิ่มของภาพ
• แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์: ด้วยโหมด Special Effects มากมายที่ผู้ใช้สามารถดูผลได้ทันทีในระหว่างถ่ายภาพทั้งที่เป็นภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว ผู้ใช้สามารถเติมความคิดสร้างสรรค์หรือความสนุกสนานลงในทุกภาพถ่ายได้ด้วยตัวเลือกมากมาย อาทิ Night Vision, Colour Sketch, Miniature Effect, Selective Colour และอื่นๆ อีกมากมาย โดยดูผลงานที่จะถ่ายได้ทันทีก่อนการบันทึกภาพ

2. ตอบสนองทุกความต้องการแม้ในสถานการณ์ที่ท้าทาย

• ที่สุดของการออกแบบ: กล้อง D7200 ได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแรง ทนทาน ทั้งภายนอกและภายในที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง ฝาด้านบนและด้านหลังผลิตจากส่วนผสมของแมกนีเซี่ยมอัลลอยที่มีความทนทานและให้สัมผัสที่เหนือกว่า ช่วยให้กล้องมีน้ำหนักเบาแต่แกร่ง นอกจากนี้ ยังมีซีลรอบตัวกล้องเพื่อกันฝุ่นและหยดน้ำอีกด้วย
• ขนาดที่เหมาะเจาะกับการใช้งาน: ช่างภาพที่ต้องการผลงานที่โดดเด่นไม่จำเป็นต้องทนกับความเทอะทะและน้ำหนักที่มากเกินจำเป็น กล้องฟอร์แมต DX ที่ให้ผลงานสุดยอดนี้มาในขนาดที่เหมาะมือ และมีน้ำหนักทั้งสิ้นเมื่อรวมเลนส์ AF-S DX NIKKOR 16-85mm f/3.5-5.6G ED VR และแบตเตอรี่ EN-EL15 แล้วอยู่ที่ประมาณ 1,250 กรัมเท่านั้น นิคอนเข้าใจถึงความต้องการของผู้ถ่ายภาพโดยแท้จริง จึงพัฒนาระบบที่เน้นประสิทธิภาพเหมาะกับการใช้งาน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดเก็บสัมภาระและพกพาอุปกรณ์ได้อย่างชาญฉลาดและใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
• พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์: กล้อง D7200 ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ โดยยังคงคุณภาพผลงานอย่างไม่สะดุดแม้ในสภาวะที่ท้าทาย การถ่ายภาพแสงน้อยที่มักพบอุปสรรคเรื่องการจัดวางองค์ประกอบของภาพในที่ให้ดีที่สุดนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปด้วยโมดุลเซ็นเซอร์ออโต้โฟกัส Advanced Multi-CAM 3500 II ใหม่ที่ประเดิมใช้ครั้งแรกในกล้องรุ่น D750 กับความสามารถจับจุดโฟกัส 51 จุด เพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยด้วยระยะจับออโต้โฟกัสที่ขยายลงมาได้ถึง -3EV โดยการใช้ระยะออโต้โฟกัส -3 EV สำหรับการโฟกัสศูนย์กลางจุดเดียว และการใช้ระยะออโต้โฟกัส -2 EV หรือต่ำกว่า (เกิน -3 EV) ร่วมกับจุดโฟกัสอื่นอีก 50 จุดนั้น จะช่วยเพิ่มอิสระในการถ่ายภาพแบบ low-light และ low-contrast ได้อย่างเต็มที่ กล้อง DSLR ตัวนี้จึงเป็นคู่ใจที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานถ่ายภาพกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพแสงเหนือที่งดงามตระการตาหรือภาพทางเดินสู่ถ้ำใต้ดินอันแสนมืดมิด
• ช่องมองภาพที่เอื้อกับการจัดองค์ประกอบ: การดูภาพผ่านช่องมองภาพที่ช่วยให้สามารถจัดวางกรอบภาพได้ดีเกือบ 100% ด้วยอัตราการส่งผ่านของแสงและการให้สีที่ดีกว่าจึงให้ภาพเส้นสายได้อย่างสมบูรณ์แบบ เสริมด้วยจอแสดงผล LCD ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียดสูง 1,229k จุด พร้อมระบบปรับสมดุล RGBW เพื่อการแสดงผลที่ชัดเจนขึ้น ให้สีสันที่สว่างและสดชัดเมื่อผู้ใช้ต้องการดูภาพผ่านจอ
• เข้าใกล้ได้ราวกับเทเลโฟโต้: ผู้ถ่ายภาพสามารถจับภาพวัตถุที่ต้องการในขนาดที่ใหญ่ขึ้นได้ในขณะที่ยังกำหนดทางยาวโฟกัสเท่าเดิมด้วยการใช้ฟังก์ชั่นกำหนดพื้นที่ภาพ 1.3x (ขนาดภาพประมาณ 15.4 ล้านพิกเซล) ที่ถือเป็นการถ่ายภาพแบบเทเลโฟโต้อีกรูปแบบหนึ่ง ฟังก์ชั่นนี้เหมาะอย่างยิ่งกับการบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะใกล้ ระบบออโต้โฟกัส 51 จุดครอบคลุมพื้นที่ภาพ 1.3x อย่างมีประสิทธิภาพจึงสามารถตรวจจับวัตถุที่ต้องการได้ดีกว่าแม้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในพื้นที่กว้าง ดังนั้น ภาพถ่ายการทำประตูของนักฟุตบอลที่รวดเร็วว่องไวจึงไม่มีอุปสรรคอีกต่อไป

3. แบ่งปันประสบการณ์ได้ทันที

• แชร์ภาพถ่ายได้ง่ายดาย: ผู้ใช้สามารถเลือก ส่ง และอัพโหลดภาพถ่ายคุณภาพสูงไปยังโซเชี่ยลมีเดียได้อย่างสะดวกง่ายดาย เพราะกล้อง D7200 ช่วยให้การเชื่อมต่อเป็นเรื่องง่ายด้วย Wi-Fi®*1 ที่มาในตัวกล้องและยังรองรับเทคโนโลยี NFC*2 ผู้ถ่ายภาพสามารถแชร์และอัพโหลดภาพที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ด้วยการถ่ายโอนข้อมูลแบบไร้สายสู่อุปกรณ์สมาร์ท ดีไวซ์ ผ่านแอพพลิเคชั่น Wireless Mobile Utility*1 ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายและใช้ได้กับทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS หรือแอนดรอยด์ นอกจากนี้ Wi-Fi® ในตัวกล้องยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถกดถ่ายภาพผ่านสมาร์ทดีไวซ์ได้ ซึ่งจะมีประโยชน์มากเมื่อต้องถ่ายภาพในมุมยากโดยไม่ให้กล้องสั่น
• ไม่พลาดทั้งงานและเรื่องส่วนตัว: ด้วยคุณสมบัติในการเชื่อมต่อเต็มรูปแบบ นักถ่ายภาพมืออาชีพสามารถใช้อุปกรณ์เสริมไร้สายเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้การทำงานเป็นเรื่องง่ายได้เต็มประสิทธิภาพ อาทิ การใช้รีโมทคอนโทรลไร้สาย WR-1/WR-R10/WR-T10 เพื่อช่วยถ่ายภาพในสตูดิโอ หรือใช้ WT-5A/B/C/D Wireless Transmitters ร่วมกับ UT-1 Communication Unit เพื่อช่วยโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูงตรงเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์หรือ FTP Servers ได้ทันที

4. สร้างสรรค์ได้ไม่จำกัด

• สุดยอดของการถ่ายภาพต่อเนื่อง: สู่อิสรภาพแห่งการสรรค์สร้างและทดลองถ่ายภาพแบบต่อเนื่องที่มากกว่า เช่น การเก็บภาพเส้นทางแสงหรือภาพการเปลี่ยนแปลงในลักษณะเดียวกัน ด้วยขนาดบัฟเฟอร์ที่ใหญ่ขึ้นจึงสามารถบันทึกภาพต่อเนื่องได้มากขึ้นอย่างไม่ธรรมดาถึง 100 ภาพ*3 ในแบบ JPEG fine-format ขนาดใหญ่ หรือ 18 ภาพในแบบ RAW 14-bit แบบบีบอัดโดยไม่สูญเสียคุณภาพ หรือ 27 ภาพในแบบ RAW 12-bit แบบบีบอัดโดยไม่สูญเสียคุณภาพนอกจากนี้ยังสามารถบันทึกภาพได้อย่างต่อเนื่องไม่จำกัดตราบใดที่แบตเตอรี่และ memory card ยังมีเหลือเมื่อเลือกใช้โหมด CH หรือ CL ถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่า 4 วินาที
• ตื่นตากับ Time-lapse: กล้อง D7200 เป็นกล้อง DSLR ฟอร์แมต DX ตัวแรกของนิคอนที่มาพร้อมความสามารถในการบันทึกวีดีโอแบบ time-lapse และด้วยความสามารถในการปรับตัวแปรการรับแสงที่ลื่นไหลตลอดการถ่ายภาพแบบ time-lapse และถ่ายภาพเว้นช่วงเวลา จึงทำให้ผู้ใช้สามารถบันทึกภาพที่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพแสงมากๆ อาทิ ช่วงพลบค่ำหรือยามโพล้เพล้ได้อย่างสวยงามโดยแทบไม่สะดุด

5. เก็บช่วงเวลาที่ดีที่สุดลงในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว

• มหัศจรรย์การสรรค์สร้างภาพยนตร์: ผู้ใช้สามารถเลือกบันทึกวีดีโอในฟอร์แมต DX ที่เทียบเท่าการถ่ายภาพยนตร์ด้วยฟิล์มฟอร์แมต super-35 หรือจะเลือกถ่ายแอ็คชั่นแบบซูมชัดๆ ด้วยเลนส์ซูมเทเลโฟโต้และฟังก์ชั่นกำหนดพื้นที่รับภาพ 1.3x การบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบ Full HD 1080/60p ในฟอร์แมต 1.3x ผ่านระบบประมวลผลภาพ EXPEED 4 จะช่วยให้มีสัญญาณรบกวนน้อยที่สุดแม้จะบันทึกด้วยการตั้งค่า ISO ไว้สูงก็ตาม ในกรณีที่ผู้ถ่ายภาพต้องการปรับระดับความต่อเนื่องอย่างช้าๆ เพื่อให้มีความเต็มอิ่มของแสงและสี ก็สามารถเลือกใช้ฟังก์ชั่น Flat ใน Picture Control กับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการเลือกโหมด M ที่ช่วยให้การควบคุมค่า ISO เป็นอัตโนมัติในระหว่างบันทึกภาพ ช่วยให้กล้องสามารถปรับค่าความไวแสงและการรับแสงได้เองโดยอัตโนมัติเมื่อมีการกำหนดความเร็วชัตเตอร์และค่ารูรับแสงคงที่ไว้แล้ว เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ถ่ายภาพสามารถถ่ายภาพยนตร์ได้อย่างต่อเนื่องแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงจากที่มืดมาสู่ที่สว่างก็ตาม
• ตัวช่วยที่สมบูรณ์แบบ นอกเหนือไปจากนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีแล้ว กล้อง D7200 ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายในการช่วยให้การถ่ายภาพยนตร์เป็นเรื่องง่าย มีเมนูเฉพาะสำหรับการบันทึกภาพยนตร์ช่วยให้การตั้งค่าต่างๆ ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ผู้ใช้มุ่งความสนใจไปยังสิ่งที่กำลังถ่ายได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเสียเวลากับการปรับค่าในกล้อง ฟังก์ชั่นแสดงผลไฮไลท์เพิ่มเติมช่วยระบุจุดที่อาจมีปัญหาแสงเกินในระหว่างการบันทึกภาพ และเพื่อเป็นการเสริมประสิทธิภาพของวีดีโอ กล้อง D7200 ยังได้รับการพัฒนาในเรื่องของเสียงด้วยระบบลดเสียงลมรบกวนเมื่อใช้การบันทึกผ่านสเตอริโอไมโครโฟนที่มาพร้อมในตัวกล้อง จะให้เสียงที่คมชัดไร้คลื่นรบกวน ผู้ใช้สามารถเลือกระดับความถี่ของไมโครโฟนได้ตามต้องการเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น ใช้โหมด Wide สำหรับบันทึกเสียงบนท้องถนนและงานดนตรี หรือโหมด Voice สำหรับการบันทึกบทสัมภาษณ์หรือบทพูด เป็นต้น
• คุณภาพเสียงดุจมีชีวิต: อุปกรณ์เสริมไมโครโฟนไร้สาย ME-W1 ที่เมื่อใช้ร่วมกับ D7200 จะช่วยให้บันทึกเสียงได้ชัดใส ไร้เสียงรบกวน โดยเฉพาะเมื่อต้นกำเนิดเสียงอยู่ในระยะไกลเกินกว่าไมโครโฟนในตัวกล้อง หรือไมโครโฟนที่เชื่อมต่อเพิ่มเติมจากตัวกล้องจะสามารถเก็บบันทึกได้ ไมโครโฟนไร้สาย ME-W1 มีคุณสมบัติกันน้ำ และใช้ได้กับกล้องนิคอน DSLR ในรุ่นอื่นๆ รวมไปถึง Nikon 1 และกล้องคอมแพคในตระกูลคูลพิกซ์ที่มีช่องเชื่อมต่อไมโครโฟนภายนอก รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth® ในแบบ Power Class 1 ที่สามารถเก็บบันทึกเสียงได้ในระยะไกลประมาณ 50 ม. เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงทั้งในระยะใกล้และไกล รวมทั้งยังรองรับการสื่อสารระหว่างต้นกำเนิดเสียงกับช่างภาพวีดีโอผ่านทางอุปกรณ์หูฟัง นอกจากนี้ยังสามารถเก็บบันทึกเสียงในระบบสเตอริโอได้เมื่อใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมสเตอริโอ ไมโครโฟน ME-1 (จำหน่ายแยก)

6. ตอบโจทย์สำหรับผู้หลงใหลกล้องฟอร์แมต DX ของนิคอน

• เก็บรายละเอียดได้มากกว่าด้วยประสิทธิภาพของเลนส์ NIKKOR: การผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความละเอียดที่ 24.2 ล้านพิกเซลเมื่อใช้ร่วมกับเลนส์ AF-S NIKKOR 70-200mm f/4 G ED VR จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถของเลนส์เทเลโฟโต้ทำให้ได้ภาพถ่ายที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ร่วมกับเลนส์ NIKKOR รุ่นอื่นๆ ที่มีให้เลือกได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น AF-S DX NIKKOR 16-85mm f/3.5-5.6G ED VR เพื่อการถ่ายภาพมุมกว้าง หรือ AF-S NIKKOR 20mm f/1.8G เพื่อการถ่ายภาพแบบโคลสอัพที่งดงามพร้อมเบลอฉากหลังได้อย่างลงตัว หรือ AF-S NIKKOR 300mm f/4E PF ED VR ใหม่ ที่เป็นเลนส์ออโต้โฟกัสขนาด 300 มม ที่เบาที่สุดในโลก*4 ที่ช่วยเสริมการทำงานของ D7200 ได้อย่างดีเยี่ยมเป็นพิเศษ ให้ภาพที่สวยกระจ่าง คมชัด และมีความพร่าสีหรือสีเพี้ยนน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
• สวยงามในทุกสภาวะแสง: เช่นเดียวกับกล้องตัวอื่นๆ ในตระกูล DSLR ของนิคอน กล้อง D7200 สามารถใช้งานได้ดีกับระบบ Creative Lighting System ของนิคอน ผู้ถ่ายภาพสามารถควบคุมการถ่ายภาพได้เต็มที่ด้วยอุปกรณ์เสริมและตัวเลือกมากมายในการจัดแสงหรือแฟลชเพื่อให้เหมาะสมกับทุกโอกาส
• สู่ประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานภาพเต็มรูปแบบ: เปิดประสบการณ์เต็มรูปแบบของการถ่ายภาพชั้นเลิศด้วยตัวช่วยและระบบสนับสนุนมากมายของนิคอน อาทิ นิคอนซอฟต์แวร์ที่มีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ ViewNX-i ใหม่เพื่อการดูภาพนิ่งและภาพยนตร์ได้อย่างสะดวกง่ายดาย ไปจนถึง ViewNX-Movie Editor ที่รวบรวมฟีเจอร์มากมายเพื่อการแปลงไฟล์ สร้าง หรือแม้แต่แก้ไขไฟล์ภาพยนตร์ นอกจากนี้ ยังมีซอฟต์แวร์ Capture NX-D ที่ช่วยให้ช่างภาพสามารถเปรียบเทียบรูปถ่ายก่อนและหลังการแก้ไข ปรับค่าแสง สมดุลแสงขาว และโทนสี รวมถึง Picture Control ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อการจัดการภาพได้แบบไร้รอยต่อตั้งแต่ต้นจนจบ