ผลการสำรวจจาก Counterpoint Research เกี่ยวกับสถิติยอดส่งออกสมาร์ตโฟนในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 เผยว่า realme ยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องโดยครองอันดับ 7 จากยอดการส่งมอบสมาร์ตโฟนในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 หลังจากเปิดตัวเป็นอันดับ 7 ในไตรมาสที่ 3 ในปี 2562
นอกจากนี้ผลสำรวจจาก Counterpoint ยังระบุว่าตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ได้รับผลกระทบเชิงลบซึ่งส่งผลให้ยอดขายสมาร์ตโฟนทั่วโลกลดลง 13% แต่ในทางกลับกัน realme ถือเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนเพียงแบรนด์เดียวที่ยังคงเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเติบโตขึ้น 157% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 1 ในปี 2562 การเติบโตอย่างรวดเร็วส่งผลให้ realme ถือเป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก นอกเหนือจากยอดการส่งออกสมาร์ตโฟนทั่วโลกแล้ว ในไตรมาสที่ 1 ในปี 2563 realme ยังมีส่วนแบ่งตลาด 2% ซึ่งมีการเติบโต 100% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นับเป็นการตอกย้ำถึงความเติบโตอย่างต่อเนื่องและก้าวขึ้นสู่แบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 7 ของโลก
ในเดือนพฤษภาคม 2562 realme ได้ก้าวขึ้นสู่อันดับ 7 แบรนด์สมาร์ตโฟนของโลกจากอันดับที่ 47 ภายในระยะเวลาเพียง 18 เดือน นับแต่ปีที่ก่อตั้ง ทั้งนี้ผลยอดการส่งออกสมาร์ตโฟนทั่วโลกของ realme ในปี 2562 นั้นมีมากถึง 25 ล้านเครื่องต่อปี ทั้งนี้ Counterpoint ยังระบุให้ realme เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และในปี 2563 ภายใต้สถานการณ์ COVID-19 และการลดลงของการส่งออกสมาร์ตโฟนทั่วโลก แต่ realme ยังคงเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันทรงประสิทธิภาพครองอันดับ 7 ของโลก ทั้งนี้ realme ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าภายใต้แนวคิด “Dare to Leap” และพร้อมมอบประสบการณ์ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมสำหรับคนรุ่นใหม่ทั่วโลก เพื่อเป็นแรงผลักดันเส้นทางการพัฒนาอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนระดับโลกต่อไป
พัฒนากลยุทธ์ระดับโลก รุกตลาดอย่างรวดเร็วสู่ 27 ประเทศ
ปัจจุบัน realme เปิดตัวเข้าสู่ตลาดถึง 27 ประเทศ ได้แก่ จีน ยุโรป อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ รัซเซียตะวันออกกลาง แอฟริกาและประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ realme มีความตั้งใจที่จะสร้างโครงข่ายตลาดเชิงกลยุทธ์ระดับโลกจากตลาดใหม่สู่ตลาดที่ผู้บริโภคมีความพร้อมสูง หรือ Mature market
ในส่วนของความแตกต่างของตลาดทั่วโลก realme พร้อมสร้างประสบการณ์การใช้งานให้ตรงกับลักษณะตลาดที่แตกต่างกัน โดย realme เดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดท้องถิ่นมากขึ้น นอกจากนี้ realme ไม่เพียงแต่ดำเนินงานตามโมเดลธุรกิจเดิม แต่ยังคงมองหาโอกาสและช่องทางการจำหน่ายอื่น ๆให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดในปัจจุบันอีกด้วย
ในตลาดประเทศจีน realme เข้าสู่ยุค 5G อย่างเต็มรูปแบบและผลิตภัณฑ์จำนวนมากได้รับการยอมรับอย่างทั่วถึง ไม่เพียงเท่านั้น ในประเทศอินเดีย realme ถือเป็นแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพที่ดี และสามารถสร้างส่วนแบ่งการตลาดออนไลน์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 พร้อมทั้งมีส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมใหญ่เป็นอันดับ 4 ในประเทศสเปน realme ได้ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟน 5 อันดับแรกทันทีหลังจากที่ได้เข้าสู่ตลาดในเวลาเพียง 6 เดือนหรือแม้แต่ในประเทศอียิปต์ realme ได้ก้าวขึ้นสู่อันดับ 5 แบรนด์สมาร์ตโฟน นอกจากนี้ในอนาคต realme ยังมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าเข้าสู่ตลาดอื่น ๆอีกทั่วโลกอีกด้วย
ขึ้นแท่นผู้นำเทรนเทคโนโลยีเพื่อคนรุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยกลยุทธ์ 1+1 : Smartphone + AloT
สำหรับกลยุทธ์การเติบโตระดับโลกในปี 2563 realme จะวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์แบบ “Popularizer of Tech Trendsetter Life” ในการเป็นผู้นำเทรนเทคโนโลยีสำหรับคนรุ่นใหม่เพื่อสร้าง Smart Trensetter Life ผ่าน
กลยุทธ์ realme 1+1 : Smartphone + AloT
realme สามารถผลิตกลุ่มสมาร์ตโฟนในทุกระดับราคาได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับเรือธงและยังคงยืนยันที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องภายใต้สโลแกน “Dare to Leap” พร้อมเปิดประสบการ์ณให้กับผู้ใช้งานทั่วโลกกับทุกระดับราคา นอกจากนี้ในฐานะผู้นำที่เหนือว่าในยุค 5G ทาง realme ได้วางแผนการผลิตสมาร์ตโฟนที่รองรับ 5G ได้อย่างรวดเร็ว โดย realme ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรองรับ 5G รุ่นแรก อย่าง realme X50 5G ในเดือนมกราคม 2563 และ realme X50 Pro 5G สมาร์ตโฟนเรือธงรองรับ 5G รุ่นแรก ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ในอนาคต realme จะมีการพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่รองรับ 5G ให้ครอบคลุมทั่วโลกและร่วมมือกับผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการอินเทอเน็ต นักพัฒนาแอปพลิเคชันและพาร์ตเนอร์ เพื่อผลักดัน 5G ให้ตอบโจทย์และเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วโลก
ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ AloT นั้นทาง realme ยังให้ความสำคัญกับการใช้งานทุกระดับไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล ครอบครัว และการเดินทาง เพื่อสร้างการทำงานร่วมกันภายใต้แนวคิด 3 in 1 Tech Trendsetter Life มอบประสบการณ์การใช้งานที่ครอบคลุมทุกรูปแบบ โดยผลิตภัณฑ์ AloT รุ่นแรกอย่าง realme Buds Air เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคม 2563 และภายในปีนี้จะมีผลิตภัณ์ AloT อีกมากมายที่พร้อมเปิดตัวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและยกระดับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้ใช้งานให้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่าจะมีผลกระทบเชิงลบในตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกในไตรมาสแรกของปี 2563 แต่ realme ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถขึ้นแท่นครองตำแหน่งสมาร์ตโฟนอันดับ 7 ของตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก ภายใต้แนวคิด “Dare to Leap” อันเป็นจุดแข็งของแบรนด์ ทำให้ realme เป็นสมาร์ตโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และ realme จะคงยึดหลักแนวคิดนี้เป็นแรงผลักดันและก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งกว่า