Synology ได้เปิดตัว DiskStation Manager 7.0 (DSM) เวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดในกิจกรรมออนไลน์ที่ 2021 AND BEYOND DSM คือระบบปฏิบัติการสมบูรณ์แบบของ NAS ที่ขับเคลื่อนโซลูชันการจัดการข้อมูลของ Synology และเวอร์ชัน 7.0 ก็มีเทคโนโลยีใหม่สำหรับการจัดเก็บข้อมูล การสำรองข้อมูล และคลาวด์แบบผสมด้วย

“มีความต้องการในการประมวลผลข้อมูลปริมาณมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) การแพทย์ทางไกล หรือนวัตกรรมอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน ทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อไลฟ์สไตล์และการดำเนินธุรกิจของเราอย่างมหาศาล ก่อให้เกิด “เศรษฐกิจข้อมูล” หมายถึง การเป็นเจ้าของข้อมูลมากขึ้นทำให้คุณสามารถแข่งขันกับผู้อื่นได้” ฟิลิป หว่อง ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Synology กล่าว

“Synology มุ่งมั่นที่จะสร้าง DSM ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักของเราเพื่อแก้ปัญหาด้านความปลอดภัย ความเสถียร และการจัดการ เราออกแบบโซลูชันสำหรับปัจเจกบุคคลไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ แม้กระทั่งสำหรับชุดข้อมูลขนาดมหึมา ทั้งหมดนี้เพื่อให้ลูกค้าของเราสามารถมุ่งเน้นเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศว่า DSM 7.0 จะพร้อมใช้งานทั่วไปในปี 2021 ซึ่งจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ใหม่ในการจัดการข้อมูล”

DSM 7.0 จะปรับปรุงระบบปฏิบัติการในทุกแง่มุม ตั้งแต่การจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและอินเตอร์เฟซผู้ใช้ ไปจนถึงฟังก์ชันการทำงานที่รองรับคลาวด์ เช่น การตรวจสอบอุปกรณ์จำนวนมาก และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ on-demand 

เทคโนโลยีภายในองค์กร

“ทีมพัฒนาของเราทำงานอย่างหนักเพื่อปรับปรุงความสามารถในการใช้งาน ความเสถียร ประสิทธิภาพและความสามารถในการปรับขยาย และพัฒนา DSM 7.0 ซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา” แดร์เรน ลู่ รองประธานบริหารฝ่ายระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันกล่าว “เริ่มจากปัจจัยพื้นฐาน เราได้ปรับปรุงระบบย่อยของพื้นที่จัดเก็บข้อมูล อินเทอร์เฟซการจัดการ และแม้กระทั่งค้นหาวิธีทำให้กระบวนการตรวจสอบยืนยันตัวตนให้ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น เรายึดหลักว่านวัตกรรมในการสร้างแอปพลิเคชันและเครื่องมือของเราต้องมีประสิทธิภาพสูงและใช้งานง่าย เพิ่มขีดความสามารถให้กับลูกค้าของเราในการจัดการข้อมูลอย่างง่ายดายและดึงคุณค่าออกมาได้มากที่สุด”

ฟีเจอร์ที่จัดเก็บใหม่บน DSM จะทำให้ขั้นตอนการทำงานของผู้ดูแลระบบง่ายและเร็วขึ้น ส่งผลให้สามารถบำรุงรักษาได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคย 

เครื่องมือไดรฟ์ที่ฉลาดและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์การเปลี่ยนไดรฟ์ใหม่ทำให้กระบวนการเปลี่ยนไดรฟ์ง่ายขึ้นมาก พร้อมกับทำให้ระบบต้องรับภาระน้อยลง เมื่อกำหนดไดรฟ์ที่ต้องการเปลี่ยนและใส่ไดรฟ์ใหม่เข้าไปยัง ไดรฟ์ Bay สำรองแล้ว DSM จะโคลนไดรฟ์เก่าไปยังไดรฟ์ใหม่โดยไม่ลดพูลพื้นที่จัดเก็บข้อมูล

ฟีเจอร์ซ่อมแซมอัตโนมัติทำให้การจัดการพูลพื้นที่จัดเก็บข้อมูลระยะไกลง่ายขึ้น เมื่อพูลลดลงและต้องเปลี่ยนไดรฟ์ เพียงแค่ลงชื่อเข้าใช้แล้วทำเครื่องหมายพูลที่ต้องการซ่อมแซมอัตโนมัติ มอบหมายให้วิศวกรในสถานที่เปลี่ยนไดรฟ์ที่ผิดปกติ และ DSM จะเริ่มสร้างอาร์เรย์ทันที

SSD แคช เป็นอีกหนึ่งวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพที่ดี และ DSM 7.0 ทำให้ผู้ใช้เพิ่มหรือลบอุปกรณ์ออกได้ทุกเมื่อโดยไม่ส่งผลกระทบกับบริการใดๆ และ SSD Cache Advisor ใหม่นี้มีความแม่นยำขึ้น วิเคราะห์รูปแบบ I/O เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้แนะนำผู้ใช้งานได้ดีขึ้น

การปรับปรุงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติม

DSM 7.0 ยังมีการปรับแต่งระบบย่อยอย่างจริงจังด้วย ส่งผลให้:

  • ประสิทธิภาพ RAID 6 เร็วขึ้นสูงสุด 80%
  • การ write-back ของ SSD แคช เร็วขึ้นสูงสุด 200%
  • ซ่อมแซม RAID ได้ฉลาดและเร็วขึ้นโดยการซ่อมแซมเฉพาะพื้นที่ที่ใช้เท่านั้น
  • ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากการแคช SSD ด้วยตัวเลือกสำหรับการปักหมุด Metadata
  • รองรับวอลุ่มสูงสุด 1 PB สำหรับเวิร์กโหลดงานการเก็บถาวร
  • (คุณสมบัติในอนาคต) การขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนต่อวอลุ่มเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพของพื้นที่จัดเก็บข้อมูล

การตรวจสอบตัวตนที่เร็วและปลอดภัยกว่า

การตรวจสอบตัวตนใน DSM 7.0 มีความยืดหยุ่นและสะดวกสบายขึ้นโดยเป็นผลมาจาก Synology Secure SignIn แอปมือถือใหม่ที่ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถป้องกันบัญชีได้อย่างง่ายดาย ผู้ใช้งาน Secure SignIn สามารถข้ามการใช้รหัสผ่านและอนุญาตคำขอการลงชื่อเข้าใช้ได้โดยตรงจากโทรศัพท์ของตน 

Secure SignIn ยังสามารถใช้เป็นวิธีการตรวจสอบตัวตนรองในโหมดยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอนได้ ทำให้ลดความยุ่งยากของการคัดลอกรหัสซึ่งเป็นวิธีปกติของรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (OTP) ทั้งยังสามารถสำรองข้อมูลไปยังบัญชี Synology ทำให้เกิดความต่อเนื่องเมื่อเปลี่ยนอุปกรณ์มือถือ 

นอกจากนี้ยังเริ่มรองรับ FIDO2 เพื่อการตรวจสอบตัวตนที่ปลอดภัยขึ้น สามารถใช้กับ ความปลอดภัยของ USB คีย์ฮาร์ดแวร์, Windows Hello, และ macOS Touch ID โดย FIDO2 สามารถแทนที่หรือเสริมรหัสผ่านได้เหมือนกับ Secure SignIn ผู้ใช้จึงมีความปลอดภัยมากขึ้นผ่านอินเตอร์เฟซน้อยที่สุด

รองรับ Fibre Channel และ SAN Manager

DSM 7.0 รองรับโปรโตคอล Fibre Channel สำหรับการปรับใช้งานความหน่วงต่ำที่สุดและการใช้งานโดยเฉลี่ย นอกจากนี้เรายังนำเสนอฟีเจอร์โฮสต์นามแฝงทำให้ไม่ต้องจดจำ IQNs หรือ WWPN เพื่อให้ตั้งค่าสิทธิ์ได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ SAN Manager มาแทนที่ iSCSI Manager สำหรับการจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเป็นบล็อกที่ครอบคลุม

การจัดการภาพถ่ายที่ดีขึ้น

Synology Photos ใหม่ล่าสุดที่สร้างจากฟีเจอร์ซึ่งใช้ AI ของ Moments และความยืดหยุ่นของ Photo Station ผู้ใช้สามารถสำรองข้อมูลภาพถ่าย เรียกดู กรองด้วยตัวเลือกหลากหลาย และจัดระเบียบภาพถ่ายได้ง่ายดายจากอุปกรณ์มือถือหรือกล้องของตนผ่านมุมมองไทม์ไลน์หรือโฟลเดอร์ หรือผู้ใช้สามารถสร้างอัลบั้มตามเงื่อนไขเพื่อให้เพิ่มภาพถ่ายที่ตรงกับเกณฑ์ที่ระบุเข้าไปยังอัลบั้มได้โดยอัตโนมัติ 

การควบคุมการแชร์แบบละเอียด รวมทั้งการปกป้องรหัสผ่านและวันหมดอายุ ทำให้สามารถแชร์ความทรงจำของสุดได้อย่างเรียบง่ายและปลอดภัย นอกจากนี้ Photos คือโซลูชันแบบภายในองค์กรทั้งหมด หมายความว่า ไม่ต้องใช้การเชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อดำเนินการงานต่าง ๆ เช่น การจดจำใบหน้า ซึ่งจำเป็นสำหรับความเป็นส่วนตัวที่สุด 

การปรับปรุง DSM และแอปพลิเคชันเพิ่มเติม

DSM 7.0 มีการปรับปรุงการใช้งานและการทำงานมากมาย ทำให้ผู้ใช้ปัจจุบันมีตัวเลือกและความสามารถในการจัดการใหม่ ๆ 

  • คอนโซลการดูแลระบบของ Synology Drive แสดงข้อมูลที่ชัดเจนและละเอียดกว่าเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ รวมทั้งอุปกรณ์ที่กำลังแชร์กับภายนอก และความถี่ในการแชร์
  • การมอบหมายผู้ดูแลทำให้ IT มีการควบคุมสิทธิ์ฟังก์ชันการดูแลโดยรวมได้อย่างละเอียด เพื่อหลีกเลียงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น
  • การให้สิทธิ์อนุญาตและติดตามการเปลี่ยนแปลงช่วยปรับปรุงความสามารถในการตรวจสอบของผู้ดูแลระบบได้อย่างมาก
  • (คุณสมบัติในอนาคต) Active Backup for Business จะรองรับงานสำรองข้อมูลเต็มรูปแบบจากแพลตฟอร์ม macOS และ Synology DSM

Synology C2 Cloud

“เรามองอนาคตของโครงสร้างพื้นฐานไอทีว่าเป็นการผสานรวมกันของทั้งระบบคลาวด์และโซลูชันในองค์กร ปัญหาท้าทายที่แตกต่างกันต้องใช้แนวทางที่แตกต่างกัน และ Synology จึงสร้างผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เพิ่มศักยภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองอย่างให้สูงสุด” เจีย-ยู่ หลิว รองประธานบริหารฝ่ายคลาวด์และการสำรองข้อมูล กล่าว “Synology C2 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคลาวด์ของเราเติบโตขึ้นมากนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อสามปีที่แล้ว และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เปิดตัวคุณสมบัติรุ่นใหม่ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้โซลูชันของเราทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและในอนาคต”

พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์แบบ on-demand

Hybrid Share เป็นโซลูชันที่ยืดหยุ่นและคุ้มค่าสำหรับการผนวกรวมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในองค์กรและในคลาวด์ โดยทำให้ผู้ใช้ขยายอาร์เรย์ภายในองค์กรของตนได้ด้วยพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์แบบon-demand ได้ทุกเวลา ซิงก์ข้อมูลอย่างรวดเร็วผ่านไซต์มากมายโดยการใช้ประโยชน์จากแบนด์วิธของไซต์เหล่านั้น และแคชข้อมูลคลาวด์ที่ดาวน์โหลดบ่อยไว้ภายในเพื่อการเข้าถึงที่รวดเร็วขึ้น

การตรวจสอบภาพรวมระบบ

Active Insight ทำให้ใช้การตรวจสอบประสิทธิภาพข้อมูลแบบรวมและเมตริควัดการใช้งานของ Synology NAS ทั้งหมดได้จากพอร์ทัลเดียว สร้างการแจ้งเตือนที่กำหนดเองเพื่อเตือนผู้ดูแลระบบเกี่ยวกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นซึ่งเกี่ยวกับโหลดโพรเซสเซอร์ การใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูล ความหน่วงของการเขียนไปยัง LUN และอีกมากมาย ผู้ดูแลระบบยังสามารถสร้างกลุ่มและช่องทางการสื่อสารที่กำหนดเองโดยอิงจากเซิร์ฟเวอร์โฮสต์ และส่งการเตือนไปยังทีมที่ระบุได้ เพื่อให้ตอบโต้ได้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

ไดเรกทอรีที่รวมเป็นหนึ่งเดียว

ไดเร็กทอรีผู้ใช้แบบกระจายในสำนักงานสาขาและบริษัทย่อยเป็นกระบวนการที่พบบ่อยทว่าน่าเบื่อ บริการไดเร็กทอรี (DaaS) ของ Synology แก้ปัญหานี้โดยใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ Synology C2 ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถรวมสำนักงานระยะไกลไว้ในไดเรกทอรีเดียวกันได้อย่างปลอดภัย C2 Directory สามารถใช้ประโยชน์จาก Synology NAS และคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรที่ติดตั้งเอเจนต์เฉพาะสำหรับการแคช ทำให้มั่นใจได้ว่ามีเวลาแฝงในการตรวจสอบสิทธิ์น้อยที่สุดและเข้าถึงได้อย่างต่อเนื่องแม้ในขณะออฟไลน์ C2 Directory จะสนับสนุนการจัดการอุปกรณ์ผ่านนโยบายกลุ่มของ Windows และเอเจนต์ที่ติดตั้งได้บนคอมพิวเตอร์ที่ใช้ macOS

ไดเรกทอรี C2 จะพร้อมใช้งานในภายหลังในปี 2021

สำรองข้อมูลได้อย่างไม่จำกัด

จากความแข็งแกร่งของ Synology C2 เราจะนำเสนอโซลูชันใหม่ในการปกป้องข้อมูล ที่ช่วยให้สามารถสำรองข้อมูลไปยัง Synology C2 ได้โดยตรง ความสามารถในการรองรับ Windows และ Windows Server, Linux, macOS, VMware และ Hyper-V hypervisors และแพลตฟอร์ม SaaS ยอดนิยมจะรับประกันการรองรับที่ครอบคลุมสำหรับสภาพแวดล้อมไอทีส่วนใหญ่ ความจุของพื้นที่การจัดเก็บสามารถปรับขนาดได้เพื่อให้คุ้มค่าใช้จ่ายอย่างเต็มที่และสมาชิกจะได้รับประโยชน์จากความยืดหยุ่นในการชำระเงินเมื่อใช้

โซลูชันสำรองข้อมูลที่ใช้ C2 จะทำให้พนักงานในสำนักงานที่อยู่ห่างไกลและที่บ้านรักษาการปกป้องข้อมูลแบบ Bare-Metal จากเครือข่ายของตนเอง ขณะที่แบนด์วิธจากสำนักงานใหญ่จะยังคงพร้อมใช้งานเพื่อมอบการเข้าถึงไฟล์ภายในและบริการบนเว็บ

ข้อมูลเพิ่มเติมจะถูกประกาศในปี 2021

ความพร้อมใช้งาน

DSM 7.0 จะพร้อมใช้งานเป็นอัปเดตฟรีให้กับอุปกรณ์ Synology ที่ทำงานร่วมกันได้ เบต้าสาธารณะจะเปิดตัวในวันพรุ่งนี้หรือ 8 ธันวาคม 2020 ที่ http://sy.to/dsm7beta

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส