realme แบรนด์สมาร์ตโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงแห่งปี 2021 อย่างเป็นทางการกับ realme GT 5G ในงานเปิดตัวสู่สายตาผู้ใช้งานทั่วโลกครั้งแรก ในฐานะผลิตภัณฑ์ของ realme ภายใต้ซีรีส์ GT ที่ขับเคลื่อนด้วย Qualcomm Snapdragon 888 รุ่นแรก โดย realme GT 5G พร้อมมอบประสบการณ์และคุณภาพที่เหนือกว่าผลิตภัณฑ์เรือธงที่ผ่านมา ตลอดจนความสามารถในการเข้าถึงและคุณสมบัติหลักสามประการ ได้แก่ ความสวยงามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความเร็ว พลังเสียงอันทรงพลัง และประสิทธิภาพที่ยั่งยืน เพื่อกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมใหม่สำหรับกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลางถึงระดับไฮเอนด์

ในระหว่างการกล่าวเปิดงานในงานเปิดตัว Sky Li  CEO ของ realme ให้กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นมากกับการส่งมอบสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของเราสู่ผู้ใช้งานทั่วโลก โดย realme GT 5G ตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนแปลงวงการกลุ่มสมาร์ตโฟนระดับกลางถึงระดับไฮเอนด์ ด้วยการนำเสนอคุณสมบัติโดดเด่นสูงสุดสำหรับผู้บริโภคที่มีงบประมาณจำกัด การเปิดตัว realme GT 5G ทั่วโลกสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเราในการส่งมอบเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ทั่วโลกได้มากขึ้น และด้วยเหตุนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ในชีวิตประจำวันของพวกเขา”

realme GT 5G

ความสวยงามที่ได้แรงบันดาลใจจากความเร็ว

การออกแบบของ realme GT 5G มีพื้นฐานมาจากแนวคิดหลักของรถสปอร์ตแกรนด์ทัวเรอร์ (GT) ซึ่งสร้างขึ้นสำหรับความเร็วสูง การขับขี่ทางไกล ผสมผสานกับสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมและคุณสมบัติที่หรูหรา ด้วยแนวคิดนี้ สมาร์ตโฟนซีรีส์ GT รุ่นเรือธงจึงนำเสนอการออกแบบที่หุ้มด้วยกระจกพร้อมรูปแบบสะท้อนแสง 3 มิติที่ด้านหลัง บวกกับรุ่นที่หุ้มด้วยหนังวีแกนพร้อมสัญลักษณ์การเร่งความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดความยาวของโทรศัพท์ ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของรถแข่ง .

สำหรับฝาหลังแบบ Glass มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Dashing Silver และ Dashing Blue และประดับด้วยลวดลายลูกศรยิงที่ด้านหลังของโทรศัพท์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเร็วและความฉับพลัน ในขณะเดียวกัน รุ่นหนังวีแกนก็มีให้ในสี Racing Yellow ซึ่งเป็นสีหายากสำหรับดีไซน์โทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเป็นการตอบสนองผู้บริโภครุ่นใหม่มีความท้าทายและสร้างสรรค์ตัวเองขึ้นมาใหม่อยู่เสมอ ใช้การออกแบบเครื่องหนังแบบทูโทนรุ่นแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งไม่เพียงแต่ให้รูปลักษณ์ที่หรูหราและเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์ในการใช้งาน เช่น การต้านทานรอยนิ้วมือ และคุณสมบัติป้องกันกลิ่นเหม็นและป้องกันการแตกร้าว

พลังสายฟ้า

realme GT 5G มาพร้อมกับ Qualcomm Snapdragon 888 ซึ่งเป็นชิปที่ล้ำสมัยที่สุดที่มี LPDDR5 RAM ที่มีประสิทธิภาพสูงใหม่และตัวจัดเก็บข้อมูล UFS 3.1 ที่เร็วที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ realme ในการมอบประสิทธิภาพระดับเรือธงให้กับผู้ใช้งานทั่วโลก

ด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลขั้นสูงสุดบนชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 ขนาด 5nm ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของ realme GT 5G และพลังการประมวลผล AI เมื่อรวมกับคอร์ Cortex-X1 ที่แข็งแกร่งและใหญ่ขึ้นและคอร์ A78 ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่สามคอร์ ประสิทธิภาพของ CPU ของโทรศัพท์ก็เพิ่มขึ้น 20% และการใช้พลังงานลดลง 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

ที่สุดแห่งประสิทธิภาพ

ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อสร้าง ‘888 ที่โดดเด่นที่สุด’ โดย realme GT 5G ใช้ระบบระบายความร้อน VC สแตนเลสรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Stainless Steel Colling System ซึ่งมีบทบาทสำคัญสำหรับประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับความทนทานของตัวสมาร์ตโฟน โดยใช้สแตนเลสเพื่อปรับโครงสร้างการกระจายความร้อนของโทรศัพท์ให้เหมาะสม ในระหว่างการทดสอบ ระบบระบายความร้อน แสดงให้เห็นถึงพลังความเย็นที่เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนทองแดง VC แบบดั้งเดิม และสามารถลดอุณหภูมิแกน CPU ได้ถึง 15°C นอกจากนี้ แม้ตัวเครื่องบางเฉียบจะมีน้ำหนักน้อยกว่า 186 กรัม แต่ realme GT ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,500 mAh และรองรับการชาร์จ 65W SuperDart Charge ทำให้สามารถชาร์จสมาร์ตโฟนเต็ม 100% ได้ในเวลาเพียง 35 นาที

คุณ Alessio Bradde, realme Product Marketing Manager กล่าวว่าพวกเราภูมิใจอย่างมากที่ได้เปิดตัว realme GT 5G ในทั่วโลก ซึ่งเป็นสินค้าที่ดีที่สุดแห่งปี เช่นเดียวกับรถ GT ที่แสวงหาความเร็วอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งมีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูง ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์เหนือขั้นกับสมาร์ตโฟนเรือธง พวกเราหวังว่าประสิทธิภาพของ realme GT 5G รุ่นนี้จะจุดประกายไฟความหลงใหลของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในการผลักดัน เพิ่มขีดจำกัดของตัวเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและตระหนักถึงศักยภาพสูงสุดของพวกเขา

คุณสมบัติอื่น ๆ

  • Flagship Screen : realme GT 5G มาพร้อมจอแสดงผล Samsung Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว อัตรา Refresh Rate 120Hz ที่สามารถให้การตอบสนองสูง เป็นที่ต้องการของนักเกมเมอร์
  • Dual Light Sensors :  ระบบเซ็นเซอร์ปรับความสว่างอัตโนมัติโดยมีทั้งด้านหน้าและด้านหลังให้ค่า 4,096 ระดับ
  • Greater Connectivity : นอกเหนือจากแบรนด์สมาร์ตโฟน 5G หลักๆ แล้ว realme GT 5G ยังรองรับ Wi-Fi ที่เร็วที่สุดและเทคโนโลยีบลูทูธล่าสุดอีกด้วย
  • Immersive Audio : มาพร้อมลำโพงคู่ Dolby Atmos Dual Stereo มีไฟล์เสียงคุณภาพสูง,และหัวแจ๊คขนาด 3.5 mm ที่มีความหน่วงและค่ารบกวนต่ำ
  • Flagship Camera : realme GT 5G มาพร้อมกล้องหลัวสามตัวของ Sony 64MP Sony ด้วยโหมดถ่ายภาพบุคคลตอนกลางคืนใหม่ล่าสุด และความสามารถของ AI เพื่อส่งมอบภาพถ่ายระดับมืออาชีพ
  • Operating System : realme GT 5G เป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนอันดับต้น ๆ ที่รองรับการใช้งานของระบบ Android 12 Beta 1ซึ่ง realme จะยังคงมุ่งมั่นใช้งานโปรแกรม Android 12 Developer Preview เพื่อรับฟังผลตอบรับของผู้ใช้ก่อนที่จะมีการเปิดตัวฟีเจอร์ realme UI บนสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ในปลายปีนี้
  • Exclusive GT Mode : มีเฉพาะใน realme GT series เท่านั้น โหมด GT มาสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดรวมถึงการครอบคลุมโหมดประสิทธิภาพสูงแบบเต็มฉากและการเพิ่มประสิทธิภาพเพิ่มเติมของการเล่นเกมอัตราเฟรมสูง การจัดการทั้งหมดมอบประสบการณ์การใช้งานที่ไหลลื่นและประสบการณ์การเล่นเกมอัตราเฟรมสูงที่ทนทานและเสถียรยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ realme เข้าสู่การพัฒนา AIoT 2.0 อย่างเต็มรูปแบบด้วยกลยุทธ์ขั้นสูง  ‘1+5+T’ โดยกลยุทธ์ใหม่ 1+5+T’ คือความก้าวหน้าจากกลยุทธ์ครั้งก่อน ‘1+4+N’ และขยาย realme’s AIoT ecosystem และกลุ่มผลิตภัณฑ์จากกลยุทธ์ ‘1+5+T’ คือ

  • 1 หมายถึง สมาร์ตโฟน เนื่องจากสมาร์ตโฟน realme เป็นศูนย์กลางของ AIoT ecosystem
  • 5 หมายถึง หมวดหมู่หลักสำหรับผลิตภัณฑ์  AIoT ของ realme รวมถึง True Wireless Stereo (TWS), อุปกรณ์สวมใส่, ทีวี, ลำโพงอัจฉริยะ และแล็ปท็อป
  • T ย่อมาจาก TechLife แพลตฟอร์มแบบใหม่ของ realme ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อรองรับ AIoT ผ่านการเผยแพร่ช่องทางการขาย โดยผลิตภัณฑ์ของ reamle TechLife มุ่งเน้นไปกับสินค้า 3 หมวดหมู่ ได้แก่ Smart Entertainment (เช่น กล่องทีวี โพรเจกเตอร์ ลำโพง และอุปกรณ์เกม) Smart Care (เช่น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เครื่องฟอกอากาศ และเครื่องชั่งน้ำหนักไขมันในร่างกาย)  และ Smart Connect (เช่น ซ็อกเก็ตอัจฉริยะ  หลอดไฟอัจฉริยะ และกล้อง)

โดยทั้งหมดนี้จะมี realme Link แอปพลิเคชันเชื่อมต่อระหว่างกัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของ realme’s AIoT ecosystem ในอนาคตสินค้าทั้งหมดจะเชื่อมต่อกับ realme Link เพื่อมอบประสบการณ์ AIoT ที่สมบูรณ์ให้กับผู้ใช้

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.realme.com/global/