โนเกีย ประกาศแต่งตั้งคุณธนัตถ์ เตชะธนบัตร ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โนเกีย ประจำประเทศไทยและกัมพูชา โดยคุณธนัตถ์จะประจำการอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และบริหารจัดการภาพรวมทั้งหมดของโนเกียทั้งสองประเทศภายใต้บทบาทใหม่ของเขา
คุณธนัตถ์ มีประสบการณ์การทำงานในแวดวงอุตสาหกรรมด้านการสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมามากกว่า 30 ปี ทั้งในประเทศออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
ที่โนเกีย คุณธนัตถ์ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัทมานานร่วมสองทศวรรษ และได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในบทบาทการเป็นผู้นำที่สำคัญมากมายในบริษัท ไม่ว่าจะเป็น การบริหารพัฒนาธุรกิจ การบริหารจัดการโครงการ การให้บริการด้านการขายและดูแลลูกค้าทั้งในประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และภูมิภาคเอเชียเหนือ โดยก่อนที่หน้าที่จะมาร่วมงานกับโนเกีย คุณธนัตถ์เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงมากมายในอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งในประเทศออสเตรเลีย กัมพูชา ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม เมื่อไม่นานมานี้คุณธนัตถ์ได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารนำทีมดูแลลูกค้าสำหรับ เอไอเอส ในประเทศไทย
นอกจากนี้ คุณธนัตถ์ ยังได้สั่งสมประสบการณ์มากมายและมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในธุรกิจและเทคโนโลยีของโนเกีย ตลอดจนมีความชำนาญและคุ้นเคยกับตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญในการต่อยอดการขยายธุรกิจในประเทศไทยและกัมพูชา โดยบทบาทของเขามีความสำคัญอย่างยิ่งในการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนธุรกิจของโนเกีย โดยการนำเสนอนวัตกรรมและโซลูชั่นอันโดดเด่นจากโปรไฟล์อันเป็นเอกลักษณ์ของบริษัท ซึ่งรวมถึง เทคโนโลยี 5G และโซลูชั่นเครือข่ายไร้สายแบบส่วนตัวความเร็วสูง ให้แก่ตลาดในประเทศไทยและกัมพูชา
คุณธนัตถ์ เตชะธนบัตร ได้กล่าวถึงบทบาทใหม่ของเขาว่า “ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เดินหน้าต่อยอดเรื่อง 5G ในขณะที่กัมพูชาเองได้แสดงให้เห็นถึงความจำนงในการเปิดตัวให้บริการ 5G ของตนเอง โดยทั้งสองประเทศยังได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (The Fourth Industrial Revolution) ผมมุ่งหวังที่จะขยายฐานการทำธุรกิจของโนเกียในตลาดเหล่านี้ และตั้งตารอที่จะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าพันธมิตรในระบบนิเวศท้องถิ่น เพื่อให้คำปรึกษาและสนับสนุนความมุ่งมั่นของพวกเขาในการพัฒนา 5G และเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมดิจิทัลในภูมิภาค”