ท่ามกลางหลากหลายนวัตกรรมที่มีอยู่บนโลกนี้ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นที่สุด ก็คือ “วิวัฒนาการของสมาร์ตโฟน” เพราะในปัจจุบัน สมาร์ตโฟนเพียงเครื่องเดียวก็สามารถเป็นหนทางเพื่อเข้าสู่โลกอุตสาหกรรมดิจิทัลได้อย่างมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น การทำงานระยะไกล (Remote work) การเรียน ความบันเทิง หรือแม้กระทั่งการออกกำลังกาย พร้อมทั้งทุกคนยังสามารถบันทึกความทรงจำ สำรวจค้นคว้าสิ่งใหม่ หรือสื่อสารกับคนอื่น ๆ บนโลกได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้ว
เราทราบดีว่า ‘สมาร์ตโฟน’ คือประตูสู่ความก้าวหน้าที่ไม่มีวันสิ้นสุด ดังนั้น ซัมซุงจึงไม่เคยหยุดพัฒนานวัตกรรมอันล้ำสมัย ซึ่งไม่เพียงแต่เพื่อให้เท่าทันโลก แต่ยังต้องคิดไปถึงอนาคตข้างหน้า ว่าเทคโนโลยีนั้นจะมาช่วยเปลี่ยนแปลงโลกและชีวิตของผู้คนให้ง่ายขึ้นได้อย่างไร นี่คือเหตุผลที่ซัมซุงมุ่งเดินหน้าผลักดันนวัตกรรมเพื่อให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของสมาร์ตโฟนอยู่เสมอ
ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการสมาร์ตโฟน
ในปี 2011 ซัมซุงได้เปิดตัว Galaxy Note ที่มาพร้อมกับความแปลกใหม่ ด้วยการรวมจุดเด่นของสมาร์ตโฟนที่สะดวกสบาย พกพาสะดวก เข้ากับหน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว ซึ่งถือว่าใหญ่มากในขณะนั้น และฟีเจอร์การจดบันทึกแบบแท็บเล็ตเข้าไว้ในเครื่องเดียว ซึ่งหลังจากการมาถึงของ Galaxy Note ทั้งวงการก็ได้เปลี่ยนไป เพราะหน้าจอขนาดนี้ได้กลายมาเป็นมาตรฐานใหม่จนถึงปัจจุบัน
ต่อมาในปี 2019 ซัมซุงก็ได้สร้างนิยามใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Galaxy Z Fold Series ฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนวิธีการใช้งานสมาร์ตโฟนของผู้คนไปอย่างสิ้นเชิง โดย Flex Mode ได้ทำให้การวิดีโอคอลล์แบบแฮนด์ฟรีเป็นไปได้อย่างง่ายดาย รวมถึงฟีเจอร์การเปิดใช้งานหลายแอปพลิเคชันพร้อมกันได้ในครั้งเดียวก็รองรับชีวิตแบบมัลติทาส์กกิ้งได้เป็นอย่างดี ซึ่งนับจากวันนั้นบริษัทผู้ผลิตสมาร์ตโฟนหลายแบรนด์ก็ได้มีซัมซุงเป็นต้นแบบพร้อมนำเสนอสมาร์ตโฟนหน้าจอพับได้ให้กับผู้บริโภค และทำให้ฟอร์มแฟกเตอร์นี้กลายเป็นสิ่งใหม่ที่น่าจับตามองยิ่งขึ้น
นวัตกรรมที่เกิดจากการรับฟังเสียงของผู้บริโภค
เราตั้งใจจับตามองทุกเทรนด์ที่เกิดขึ้น รวมถึงรับฟังทุกความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริง เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับทุกคน ซึ่งซัมซุงทราบดีว่าเหล่ากาแลคซี่แฟนคงรู้สึกประหลาดใจที่เราไม่ได้เปิดตัว Galaxy Note เมื่อปีที่ผ่านมา เพราะสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ เป็นหนึ่งในรุ่นที่หลายคนตั้งตารอคอย เพราะชื่นชอบในความสามารถของการมอบพื้นที่ความคิดสร้างสรรค์ผ่านประสิทธิภาพอันเหนือชั้น พร้อมสามารถเปลี่ยนคุณจากเกมเมอร์ฝีมือดีให้เป็นสุดยอดคนทำงานสายโปรดักทีฟได้ในชั่วพริบตา รวมถึง S Pen ที่ให้ความรู้สึกเสมือนใช้งานปากกาจริง ซึ่งเราไม่เคยลืมเลยว่าฟีเจอร์เหล่านี้คือสิ่งที่ทุกคนรักในสมาร์ตโฟนซัมซุง กาแลคซี่
ก้าวต่อไปของซัมซุง กาแลคซี่ได้มาถึงแล้ว
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซัมซุงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราสามารถทำสิ่งที่ทุกคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครเคยคิดว่าจะได้เห็นบนสมาร์ตโฟน ปากกาสไตลัสที่หลายคนคิดว่าไม่จำเป็นในชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งกล้องระดับมืออาชีพบนสมาร์ตโฟนที่สามารถถ่ายภาพยามค่ำคืนได้แบบคมชัด
ซึ่งในวันนี้ ซัมซุงจะมากำหนดเส้นทางของอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนขึ้นใหม่อีกครั้ง โดยภายในงาน Samsung Galaxy Unpacked ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซัมซุงจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับสมาร์ตโฟน Galaxy S Series ที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยการผสานสุดยอดประสบการณ์การใช้งานของสมาร์ตโฟนซัมซุง กาแลคซี่ทุกรุ่นที่คุณรักมารวมไว้ในเครื่องเดียว
ด้วยสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่นี้ ทุกค่ำคืนจะเป็นไปอย่างที่คุณต้องการ (Own the night) ด้วยการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอที่คมชัดและสว่างสดใสที่สุดเท่าที่สมาร์ตโฟนเครื่องหนึ่งจะทำได้ รวมถึงยังมาพร้อมกับประสิทธิภาพอันทรงพลัง ความเร็วแรงไม่มีใครเทียบ และฟีเจอร์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน ภายใต้การใช้งานอย่างราบรื่น ลื่นไหลในกาแลคซี่ อีโคซิสเต็ม ซึ่งคุณคือคนหนึ่งที่จะร่วมขีดเขียนอนาคตของสมาร์ตโฟนร่วมไปพร้อมกับเราอีกครั้ง
เตรียมต้อนรับประสบการณ์สุดพิเศษระดับ Ultra ไปพร้อมกันในเดือนกุมภาพันธ์นี้