นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า“ดีแทคในปัจจุบันนี้มีชุดคลื่นความถี่ทั้งหมดจำนวน 50 MHz ที่ถือครองมากพอสำหรับการให้บริการดิจิทัลสำหรับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ดีแทคจะไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 900 MHz ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเพื่อความมั่นใจในการเติบโตอย่างยั่งยืน ดีแทคมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะจัดหาคลื่นความถี่เพิ่มขึ้นอย่างเพียงพอที่จะรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของความต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตของฐานลูกค้าก่อนที่จะมีคลื่นความถี่ตามชุดที่ถือครองหมดสัมปทานประมาณปี พ.ศ. 2561 เพิ่มเติมจากคลื่น 2100 MHz ที่ดีแทคยังถือครองใบอนุญาตซึ่งมีอายุใช้งานถึงปี พ.ศ.2570
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ประกอบการทุกรายและการใช้งานดิจิทัลของลูกค้า คลื่นความถี่ต่างๆ ควรถูกนำออกมาประมูลล่วงหน้าก่อนที่จะหมดอายุสัมปทาน เพื่อไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังเผชิญเช่นนี้ โดยจำเป็นต้องมีแผนการจัดสรรคลื่นความถี่ (Spectrum roadmap) ซึ่งภาครัฐสามารถใช้ในการบริหารจัดการคลื่นความถี่ ด้วยความจำเป็นอย่างเร่งด่วนเพื่อการสร้างรากฐานที่ยั่งยืนสำหรับธุรกิจโทรคมนาคม”
“ด้วยคลื่นความถี่ที่มีในปัจจุบัน ดีแทคกำลังจะขยายเครือข่าย Super 4G บนคลื่นความถี่ 1800MHz ด้วยแบนด์วิธที่เพิ่มจาก 15 MHz เป็น 20 MHz ในพื้นที่กรุงเทพเพื่อเพิ่มความเร็วในการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิมประมาณกลางปีนี้ ลูกค้าดีแทคจะสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นและสนุกกับการใช้งานเพิ่มขึ้นไม่สะดุดบนโครงข่ายที่แบนด์วิธกว้างรองรับได้ในคลื่นเดียว (Single network) นอกจากนั้นดีแทคยังพร้อมให้บริการ 4G บนคลื่น 2100 MHz ทั้ง 878 อำเภอทั่วไทยภายในไตรมาส 3 ปีนี้ และ Super 4G บนคลื่น 1800MHz ทั้ง 77 จังหวัดทั่วไทยราวกลางปีนี้อีกด้วย ทั้งหมดนี้ลูกค้าดีแทคที่ใช้งานในพื้นที่หรือเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทยจะสัมผัสได้กับประสบการณ์ใช้งานดิจิทัลบนมือถือในด้วยคุณภาพสูงสุดจากโครงข่ายดีแทค Super 4G” ลาร์ส กล่าวในที่สุด