Our score
9.0Marshall Willen & Emberton II
จุดเด่น
- ดีไซน์สวย เป็นเอกลักษณ์ของมาร์แชล ใช้ประดับโต๊ะ ประดับบ้านได้
- เสียงออกมาดังและดีเกินขนาดตัว
- กันน้ำ กันฝุ่นในระดับ IP67
- เชื่อมหลาย ๆ ลำโพงให้ส่งเสียงพร้อมกันได้ด้วย Stack Mode แถมเชื่อมข้ามรุ่นระหว่าง Willen กับ Emberton II ได้ด้วย
- แบตอึด ใช้งานได้ยาวนาน
จุดสังเกต
- ไม่มีช่อง AUX 3.5 mm
- รองรับมาตรฐานเสียงแค่ SBC ไม่รองรับ AAC ที่จะให้เสียงดีขึ้น
ต้องบอกว่า Marshall เป็นแบรนด์เครื่องดนตรีที่หันมาเอาดีด้านลำโพงไร้สายได้อย่างยอดเยี่ยม ออกมากี่รุ่นต่อกี่รุ่นก็ขายดิบขายดีจนของขาดตลาดเสมอ ๆ เพราะนอกจากเรื่องเสียงที่มีโทนเป็นเอกลักษณ์ของมาร์แชลแล้ว ดีไซน์ที่อิงมาจากตู้แอมป์กีต้าร์และปรับแต่งให้สวยงามแปลกตา ก็ดึงดูดผู้ใช้ให้เข้ามาสนใจได้ตลอด วันนี้แบไต๋จับเอาลำโพงพกพาไร้สายตัวเล็กที่สุดของแบรนด์คือน้องเล็ก Willen และตัวพี่อย่าง Emberton II ที่ปรับปรุงใหม่มารีวิวให้ดูกันว่าเสียงจะสวยเหมือนกับดีไซน์ไหม
สรุปความต่างของ Emberton II และ Willen
Emberton II | Willen | |
---|---|---|
ขนาดตัวลำโพง | 68 x 160 x 76 mm | 101.6 x 100.5 x 40.4 mm |
น้ำหนัก | 0.7 kg | 0.31 kg |
ชนิดลำโพง | ลำโพง 2 นิ้ว 10 W 2 ตัว Passive radiator 2 ชุด | ลำโพง 2 นิ้ว 10 W 1 ตัว Passive radiator 2 ชุด |
ตอบสนองความถี่เสียง | 60 – 20,000 Hz | 100 – 20,000 Hz |
Codec เสียง | SBC | SBC |
เสียง | สเตอริโอ 2 ช่องสัญญาณ | โมโน 1 ช่องสัญญาณ |
ความดังสูงสุด | 87 dB SPL ที่ระยะ 1 m | 82 dB SPL ที่ระยะ 1 m |
อายุแบตเตอรี่ | 30 ชั่วโมง | 15 ชั่วโมง |
ไมโครโฟน | ไม่มี | มี |
ราคา | 7,490 บาท | 3,990 บาท |
ดีไซน์ของมาร์แชล
มาร์แชลเป็นแบรนด์ที่ภาษาการออกแบบชัดเจนที่สุดแบรนด์หนึ่งในโลกของเครื่องเสียงนะครับ ด้วยดีไซน์ตะแกรงลำโพง สีดำ-ทองเหลือง รวมถึงโลโก้แบรนด์ Marshall ที่ติดอยู่หน้าลำโพง ของเหล่านี้เห็นปุ๊บก็รู้ทันทีว่านี่คือลำโพงของมาร์แชล ซึ่งทั้ง Emberton II และ Willen ก็มีดีไซน์ตามนี้ และก็ออกมาสวยงามจนสามารถตั้งโชว์เป็นของแต่งโต๊ะ แต่งบ้านได้ด้วย
ดีไซน์พิเศษของทั้งคู่นี้อยู่ที่ยางรอบเครื่องครับ เป็นยางป้องกันการตกกระแทกที่สามารถถอดออกได้ ซึ่งก็เสริมภาพลักษณ์ให้ดูเป็นลำโพงลุย ๆ ทั้ง 2 รุ่น ก็มาร์แชลก็ไม่ได้การันตีมานะครับว่าตกแล้วจะไม่พัง 😀 นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้ในระดับ IP67 คือตกน้ำ (ที่ไม่ลึกมาก) ก็ไม่เป็นไร หรือเอาไปใช้ฟังในห้องน้ำได้สบาย ๆ
และงานออกแบบเอกลักษณ์อีกอย่างของ 2 รุ่นนี้คือ Control Knob หรือปุ่มกลม ๆ สีทองเหลืองที่โยกได้ ทำให้ลำโพงดูน่าสนใจ แล้วยังเป็นปุ่มควบคุมสารพัดประโยชน์ด้วย นอกจากนี้ก็มีแผงไฟแสดงแบตเตอรี่อยู่ด้านบน ซึ่งลักษณะการวิ่งขึ้นแสดงสถานะแบตนี้ก็เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ครับ
ส่วนดีไซน์พิเศษของ Willen อยู่ที่ด้านหลังครับ เป็นสายรัดที่สามารถปลดออกมาเพื่อรัดกับเสา จักรยาน หรืออะไรก็ได้ ทำให้เราสามารถใช้ Willen ได้อย่างยืดหยุ่น ส่วน Emberton II ก็ต้องวางโต๊ะอย่างเดียวครับ
ลำโพงทั้งคู่จะชาร์จผ่านพอร์ต USB-C นะครับ ซึ่งในกล่องก็จะมีสายชาร์จ USB-A ไป USB-C มาให้ แต่ไม่มีหัวชาร์จให้นะครับ ก็ใช้กับหัวชาร์จสมาร์ตโฟนที่มีอยู่แล้วได้เลย
การควบคุมลำโพง
อย่างที่เราเล่าไปว่าทั้ง Marshall Emberton II และ Willen มี Control Knob ด้วยกันทั้งคู่ การสั่งงานส่วนใหญ่จึงทำผ่านปุ่มกลมๆ สีทองเหลือง โดยมีคำสั่งดังนี้
- กดค้าง – เปิด/ปิดลำโพง
- กดสั้น ๆ – เล่นเพลง/หยุดเพลง
- เฉพาะ Willen กด 1 ครั้งเพื่อรับสาย กด 2 ครั้งเพื่อตัดสาย
- โยกขึ้น – เร่งเสียง
- โยกลง – ลงเสียง
- โยกไปทางขวา – เปลี่ยนเพลง
- โยกไปทางซ้าย – เล่นเพลงเดิม
- โยกซ้ำเพื่อเล่นเพลงก่อนหน้านี้อีกรอบ
นอกจากนี้ยังมีอีกปุ่มหนึ่งคือปุ่ม Bluetooth ที่กดค้างเพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใหม่ และใช้งาน Stack Mode หรือการเชื่อมลำโพงหลายตัวให้เล่นเพลงได้พร้อมกันโดยกดดังนี้
- ที่ลำโพงหลักให้กดปุ่ม Bluetooth 3 ครั้งเพื่อเริ่ม Stack Mode
- ที่ลำโพงลูกที่จะเชื่อมเสริมเข้าไป ให้กดปุ่ม Bluetooth 2 ครั้งเพื่อจับเข้ากลุ่ม
- สามารถเพิ่มลำโพงได้เรื่อย ๆ มากกว่า 2 ตัว
โดยทั้ง Emberton II และ Willen สามารถเชื่อม Stack Mode ระหว่างกันได้ด้วยครับ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นรุ่นเดียวกัน แต่ปัจจุบันนี้มาร์แชลมีแค่ 2 รุ่นนี้ที่เชื่อมต่อกันได้ ยังไม่สามารถทำ Stack Mode กับรุ่นอื่น ๆ ของแบรนด์ได้
นอกจากนี้เรายังสามารถปรับแต่งลำโพงทั้ง 2 รุ่นได้อีกนิดหน่อยผ่านแอป Marshall Bluetooth ครับ ที่สามารถปรับ EQ เสียงได้ 3 แบบคือ
- Marshall – เสียงมาตรฐาน ที่จูนมาให้เหมาะสำหรับดนตรีทุกแนว
- Push – เร่งเสียงเบสและเสียงแหลมขึ้น สำหรับคนที่ต้องการอะไรตึบๆ
- Voice – เน้นเสียงกลาง ให้เหมาะสำหรับการฟังเสียงพูด หรือฟัง Podcast
นอกจากนี้ยังสามารถใช้แอปเพื่ออัปเดตเฟิร์มแวร์ของลำโพงได้ด้วย
เสียงของ Marshall
เสียงของลำโพงทั้ง 2 รุ่นไปในโทนเดียวกันนะครับ เป็นเสียงที่โปร่งกว้าง ฟังง่าย เป็นเสียงของมาร์แชลที่ละมุนกว่าเสียงจากหูฟัง Marshall Minor III ที่ไปทางแหลมสาก ๆ แห้ง ๆ โดยรายละเอียดเสียงจากลำโพงทั้ง 2 รุ่นแตกต่างกันดังนี้
เสียงของ Marshall Willen
เนื่องจากเป็นลำโพงเล็ก เราจึงไม่ได้หวังว่าเสียงเบสจะตึบมากนัก แต่ก็ถือว่าให้เบสในระดับที่พอดี กระชับเก็บตัวเป็นลูก ๆ ได้ ก็ต้องยกความดีให้ Passive Radiator 2 ตัวในลำโพงที่ทำให้ได้เบสละมุนแบบนี้ ฟังใกล้ ๆ ในระยะสัก 1 เมตรแล้วไม่รู้สึกว่าเบสล้นจนอึดอัด ส่วนเสียงกลาง-สูง ทำได้โปร่งสดใสดีมาก โดยให้เสียงโปร่งกว่า Emberton II อีกครับ เสียงร้องเด่นกว่าด้วย เพราะไม่มีเบสที่หนากว่ามากวน
เมื่อเปิดเสียงดังสุด ถือว่าดังใช้ได้สำหรับลำโพงตัวแค่นี้ แต่ถ้าเปิดดังเกินราว ๆ 80% จะรู้สึกว่าเสียงพร่า ส่วนตัวคิดว่าเปิดสุดสัก 60-70% เสียงกำลังสวยครับ หรือเอามาฟังใกล้ ๆ แล้วเปิดเสียงไม่ดังมาก จะเหมาะสำหรับลำโพงรุ่นนี้
เสียงของ Marshall Emberton II
เทียบกับ Willen แล้ว Emberton II ให้เสียงได้หนาหนักแน่นกว่า ด้วยเบสที่เยอะกว่าครับ ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการฟังใกล้เท่า Willen แต่ถ้าวางห่างๆ สัก 2 เมตรขึ้นไป จะให้เสียงที่กลมกล่อมมากขึ้น และเสียงเติมเต็มห้องได้มากกว่า Willen ที่กำลังน้อยกว่า ซึ่งความหนาของเบสจะไปกวนเสียงร้องอยู่หน่อย ๆ แต่ไม่ได้เยอะครับ เสียงร้องยังคงเคลียร์อยู่ เสียงสูงก็ยังเด่นอยู่ครับ
เมื่อเปิดเสียงดังสุด ได้เสียงดังกว่า Willen แต่เสียงก็จะพร่า ๆ เหมือนกัน ถ้าอยากได้รายละเอียดเสียงครบ ๆ ก็ควรลดความดังลงมาต่ำกว่า 80% ดีกว่าครับ และแม้ว่า Emberton II จะเป็นลำโพงสเตอริโอ แต่แยกเสียงซ้าย-ขวาได้ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ใครหวังมิติเสียงแบบสเตอริโอ อาจจะต้องลองฟังกันอีกทีครับ
สรุปซื้อรุ่นไหนดี
Marshall Willen และ Marshall Emberton II เจาะกลุ่มผู้ใช้ลำโพงพกพาที่แตกต่างกันชัดเจนนะครับ ทำให้เลือกไม่ยากเลย
ซื้อ Marshall Willen ถ้าคุณ…
- ต้องการลำโพงขนาดเล็กจริง ๆ สามารถพกติดกระเป๋าได้แบบไม่ลำบาก
- ต้องการลำโพงเอาไว้ฟังใกล้ ๆ เช่นตั้งบนโต๊ะระหว่างทำงาน เรียน หรืออ่านหนังสือ
- ต้องการลำโพงที่ลุยได้ (บ้าง) เอาไว้รัดติดกับจักรยาน หรือจุดต่าง ๆ ในห้อง
- ต้องการ Speaker Phone สำหรับคุยโทรศัพท์ได้
- แต่ถ้าฟังในระดับห้อง อาจให้กำลังเสียงไม่มากพอที่จะเติมเต็มห้องได้
ซื้อ Marshall Emberton II ถ้าคุณ…
- ต้องการลำโพงเล็ก พกสะดวก เผื่อยกไปฟังนอกบ้าน
- ต้องการลำโพงที่มีกำลังเสียงที่มากพอที่จะเติมเสียงในห้องขนาดย่อม ๆ ได้
- รักเสียงเบส อยากได้ลำโพงเล็กที่ให้เบสแน่น ๆ
- แต่ถ้าใช้ฟังใกล้ ๆ แบบ Willen อาจรู้สึกอึดอัดจากเบสได้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส