Our score
8.7[รีวิว] SIGMA 20mm F1.4 และ 24mm F1.4 DG DN | Art ถ่ายดาวก็ดี ถ่ายคนก็ได้ คุณภาพสุดจัด ในขนาดตัวเล็กเบากว่าเดิม!
จุดเด่น
- ความคมของภาพ
- วัสดุแข็งแรงทนทาน
- มีซีลกันละอองน้ำละอองฝุ่น
- ขนาดและน้ำหนักตัว balance กำลังดี
- ใส่ฟิลเตอร์ท้ายเลนส์ได้
- สวิชต์บนตัวเลนส์มีมาให้แบบครบ ๆ
- 20mm F1.4 DG DN | Art ใส่ฟิลเตอร์หน้าเลนส์ได้แล้ว (ตอนเวอร์ชัน DSLR ใส่ไม่ได้)
จุดสังเกต
- ขอบมืดเยอะไปนิด โดยเฉพาะ 20mm F1.4 DG DN | Art
ก็เปิดตัวกันไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยครับ สำหรับ 2 เลนส์ซีรีส์ Art รุ่นใหม่จากค่าย SIGMA ’20mm F1.4 DG DN | Art’ และ ’24mm F1.4 DG DN | Art’ ที่รอบนี้ออกแบบมาสำหรับกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมโดยเฉพาะ ในขนาดตัวกับน้ำหนักที่เบาลงกว่าเดิมมาก
ซึ่งทางแบไต๋เราก็ได้มารีวิวพร้อมกันถึง 2 ตัวเลย ส่วนการใช้งานจริงคุณภาพจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปหาคำตอบกันได้เลยครับ!!
ต้องเกริ่นก่อนว่าทางผู้เขียนเคยใช้งานเจ้า 20mm F1.4 DG HSM | Art ตัวเก่าสำหรับกล้อง DSLR มาก่อนครับ ตัวนั้นก็ถือว่าทำได้ดีอยู่แล้วนะ แต่หน้าเลนส์ค่อนข้างใหญ่โต ใส่ฟิลเตอร์ก็ไม่ได้ แถมน้ำหนักก็ดุเอาเรื่องแถว ๆ 950 กรัม
แต่พอมายุคมิเรอร์เลสแล้วเลนส์ต่าง ๆ ก็ออกแบบได้ง่ายขึ้น คุณภาพดีกว่าเดิมในขนาดตัว และน้ำหนักที่เบาลง คนใช้งานก็ happy แรกสัมผัส 20mm ตัวใหม่คือแอบหลงรักเลย (อาการนี้คือรอระยะนี้มานานแหละ ดูออก)
มาดูกันที่ขนาดตัวเลนส์ 20mm F1.4 กับ 24mm F1.4 ขนาดตัวประมาณฝามือเดียวเองครับ โดยที่ 20mm มีน้ำหนักอยู่ที่ 650 กรัม และ 24mm ที่ 520 กรัม มีให้เลือกถึง 2 เมาท์ ได้แก่ Sony E-mount และ L-mount ซึ่งทั้ง 2 เมาท์ก็จะมีน้ำหนักที่ต่างกันเล็กน้อยครับประมาณ 5-10 กรัมเท่านั้น
หน้าตาตัวเลนส์นี่ออกแบบมาคล้ายกันเลยครับ เพียงแต่ 20mm จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า 24mm อีกนิดหนึ่ง มาพร้อมกับแหวนรูรับแสงและสวิชต์ข้างกระบอกเลนส์แบบครบ ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- สวิชต์ AF/MF
- ปุ่ม AFL ที่สามารถปรับตั้งค่าต่าง ๆ ได้ผ่านตัวกล้อง
- สวิชต์ล็อกแหวนโฟกัส
- สวิชต์ปรับคลิกรูรับแสง
- สวิชต์สำหรับล็อกรูรับแสง
อ้อ ที่ท้ายเลนส์ยังซีลช่วยป้องกันละอองน้ำละอองฝุ่นและยังสามารถใส่ฟิลเตอร์ท้ายเลนส์ได้ด้วยนะ SIGMA เขาจะมีแผ่นสำหรับสำหรับตัด ‘soft filter’ แถมมาให้เลยด้วยในกล่อง
แถม 2 รุ่นนี้ยังรองรับฟีเจอร์ AF assist กับกล้อง Sony รุ่นใหม่ ๆ อย่าง a7IV, FX6 ซึ่งเวลาที่เราใช้งาน manual focus ในโหมดวิดีโอ เมื่อหยุดหมุนโฟกัสตัวกล้องจะสลับไปใช้งานระบบ AF ให้เองแบบอัตโนมัติเพื่อความต่อเนื่องนั้นเอง (อันนี้เห็นว่าเลนส์ตัวอื่น ๆ จะมีเฟิร์มแวร์ออกมาให้ทีหลัง)
แต่ตัว 20mm จะพิเศษหน่อยคือออกแบบมาให้ใช้งานกับ ‘lens heater retainer’ อุปกรณ์ทำความร้อนสำหรับการถ่ายภาพดาว ที่จะช่วยลดความชื้นของตัวเลนส์ขณะถ่ายภาพตอนกลางคืนเป็นเวลานาน ที่อาจทำให้เกิดพวกฝ้าหรือน้ำค้างที่หน้าเลนส์นั้นเอง ทำให้กระบอกหน้าเลนส์จะยืด ๆ หน่อย จะได้มีพื้นที่ไว้รัดอุปกรณ์ดังกล่าว
สเปก 20mm F1.4 DG DN | Art
- ทางยาวโฟกัส 20mm
- รูรับแสง F1.4-16
- โครงสร้างชิ้นเลนส์ 17 ชิ้น 15 กลุ่ม (2 SLD, 3 aspherical)
- ใบเบลดรูรับแสง 11 ใบ
- ระยะโฟกัสใกล้สุด 0.23 เมตร
- กำลังขยายสูงสุด 1: 6.1
- ขนาดฟิลเตอร์ 82mm
- รองรับ AF assist สำหรับกล้อง Sony
- รองรับ lens heater retainer
- มีซีลกันละอองน้ำละอองฝุ่น
- ใส่ฟิลเตอร์ท้ายเลนส์ได้
- แถม lens hood มีปุ่มล็อก
- ขนาดตัวเลนส์ 87.8 x 111.2mm (E-mount 113.2mm)
- น้ำหนัก 635 กรัม (E-mount 630 กรัม)
สเปก 24mm F1.4 DG DN | Art
- ทางยาวโฟกัส 24mm
- รูรับแสง F1.4-16
- โครงสร้างชิ้นเลนส์ 17 ชิ้น 14 กลุ่ม (1 SLD, 2 FLD, 4 aspherical)
- ใบเบลดรูรับแสง 11 ใบ
- ระยะโฟกัสใกล้สุด 0.25 เมตร
- กำลังขยายสูงสุด 1: 7.1
- ขนาดฟิลเตอร์ 72mm
- รองรับ AF assist สำหรับกล้อง Sony
- มีซีลกันละอองน้ำละอองฝุ่น
- ใส่ฟิลเตอร์ท้ายเลนส์ได้
- แถม lens hood มีปุ่มล็อก
- ขนาดตัวเลนส์ 75.7 x 95.5mm (E-mount 97.5mm)
- น้ำหนัก 520 กรัม (E-mount 510 กรัม)
การใช้งาน
ทั้ง 2 ตัวถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเกือบทุก ๆ ด้านเลยครับ โดยตัว 20mm มาพร้อมกับโครงสร้างชิ้นเลนส์ 17 ชิ้น 15 กลุ่ม มีชิ้นเลนส์พิเศษ SLD 2 ชิ้น, aspherical 3 ชิ้น ในขณะที่ 24mm มีชิ้นเลนส์ 17 ชิ้น จัดเป็น 14 กลุ่ม ชิ้นเลนส์ SLD 1 ชิ้น, FLD2 ชิ้น และ aspherical อีก 4 ชิ้น จัดเต็มแบบจุก ๆ
ซึ่งชิ้นเลนส์พิเศษพวกนี้มีไว้ช่วยลดความคลาดทรงกลม ทำให้ภาพมีความคมชัดสูงตั้งแต่กลางภาพจรดขอบภาพ แถมยังช่วยคุมเรื่องของม่วงขอบเขียวอีกด้วยครับ
คนที่เคยใช้เลนส์ SIGMA Art มาก่อนจะรู้ดีเรื่องความคม ให้ character สีสันที่หนักแน่นสวยงาม คอนทราสจัด ใครชอบคม ๆ บอกเลยไม่ผิดหวัง คมตั้งแต่รูรับแสงกว้างสุด
แม้จะเป็นเลนส์มุมกว้างแต่ด้วยรูรับแสง F1.4 ถ่ายอะไรใกล้ ๆ ก็ยังสามารถทำละลายได้ค่อนข้างดีเลยครับ ทั้ง 2 ตัวสเปกโฟกัสใกล้สุดไม่ได้ใกล้ขนาดที่ต้องร้องว้าว (20mm ที่ 0.23 เมตร / 24mm ที่ 0.25 เมตร) แต่แค่นี้ก็จ่อแทบจะทิ่มเข้าไปที่หน้าเลนส์อยู่แล้ว
ด้านระบบโฟกัสเป็นแบบ stepping motor ทำงานได้อย่างรวดเร็วเสียงโฟกัสเงียบ แต่ด้วยความที่เป็นเลนส์ F1.4 ชิ้นเลนส์ใหญ่ เวลาโฟกัสในที่เงียบ ๆ ก็อาจจะได้ยินเสียงบ้างเล็กน้อยแต่ไม่ได้ดังถึงขนาดรบกวน ความเร็วก็ถือว่าทำได้ดีครับ แม้จะไม่ได้เร็วขนาดเลนส์เกรด GM ของค่าย Sony ที่มีมอเตอร์หลายตัว แต่อันนี้ก็ถือว่าเหลือกินเหลือใช้แล้ว
ด้วยทางยาวโฟกัสที่ดูเหมือนใกล้กันมาก แต่จริง ๆ ให้ภาพที่ต่างกันพอสมควร ตัว 24mm ก็จะให้ระยะใกล้เคียงกับเลนส์หลักบนสมาร์ตโฟนมากกว่าครับ กว้างแบบจัดองค์ประกอบง่าย ถ่ายคนแล้วไม่ค่อยบวม
ส่วน 20mm ก็จะให้มุมภาพที่ดูหลวมขึ้นมาหน่อย ดูหวือหวาแปลกตามากกว่า เอาไปเดินถือถ่าย VLOG ก็คือเหมาะ (ถ้าถือถ่ายไหว 😂) เฟรมก็จะดูไม่แน่น เหมาะสำหรับเล่าบรรยากาศโดยรอบ
การที่มีเลนส์ wide ช่วง 20mm หรือ 24mm ไวแสงดี ๆ แบบนี้ติดกระเป๋าไว้ก็อุ่นใจครับ บางครั้งไปเจอมุมสวย ๆ แต่สถานที่ค่อนข้างแคบ พกไว้ก็ยังเก็บภาพมาได้ หรืออย่างในกรณีสตูดิโอที่ค่อนข้างมีพื้นที่จำกัดแล้วอยากได้ภาพหมู่หลายคนแบบนี้ก็ไหว
(หรี่รูรับแสงนิดเดียว ไฟแฟลชที่ขอบภาพขึ้นเป็นแฉกเลย!)
มุมภาพของ 20mm F1.4 DG DN | Art
มุมภาพของ 24mm F1.4 DG DN | Art
โบเก้ (Bokeh)
ด้วยใบเบลดรูรับแสงที่ใส่มาถึง 11 ใบ เรื่องความกลมของโบเก้ในแต่ละช่วงรูรับแสงนี่คือกลมกิ๊กเลยครับ มี character โบเก้กลมตรงกลางภาพ ส่วนที่ขอบภาพโบเก้จะออกรึเล็กน้อยเหมือนกันทั้ง 2 ตัว 20mm และ 24mm ส่วนเรื่อง onion ring ก็ยังมีอยู่บ้างเล็กน้อยครับ ไม่ถึงขั้นโบเก้คลีนสะอาดแบบพวกเลนส์ G Master แต่แค่นี้ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว
ความคลาดสี (Chromatic Aberration)
ด้านความคลาดสีหรือขอบม่วงของเลนส์ทั้ง 2 ตัว เวลาถ่ายภาพทั่วไปนี่แทบจะไม่เจออาการนี้เลยครับ (ถ้าเราไม่จงใจแกล้งมันจริง ๆ อะนะ) จะขึ้นก็ขึ้นแบบบาง ๆ ไม่ได้น่าเกลียดอะไร แต่สำหรับใครที่ซีเรียสหน่อยหรี่รูรับแสงไปสัก F4 ก็หายหมดแล้ว หรือจะเอาไปแก้ในโปรแกรมเอาก็ได้ ไม่ยาก
ขอบมืด (Vignette)
ข้อสังเกตของเลนส์ทั้ง 2 ตัว หลัก ๆ ก็คือเรื่องขอบมืดนี่แหละครับ ด้วยความที่เป็นเลนส์รูรับแสงกว้าง ก็เป็นธรรมดาที่จะมีขอบมืดบ้าง ซึ่งตัว 20mm ที่รูรับแสงกว้างสุด F1.4 มีขอบมืดค่อนข้างหนัก และดีขึ้นหลังหรี่ไปที่ F4 ขึ้นไป ส่วน 24mm ที่ F1.4 แสดงอาการขอบมืดน้อยกว่าตัว 20mm นิดหน่อยครับ และดีขึ้นหลัง F4 เช่นกัน
ถ้าเปิดฟังก์ชันแก้ขอบมืดในตัวกล้องอาการนี้ก็ถูกซอฟต์แวร์แก้ให้เสร็จสรรพเลย แต่ครั้งนี้เราปิดไว้เพื่อมา test ให้ดูกัน
ความบิดเบี้ยวของภาพ (Distortion)
มาพูดถึงเรื่อง distortion กันบ้างครับ ตัว 20mm มีอาการป่องกลางที่เห็นได้ชัดเจน ส่วนของ 24mm ที่ขอบภาพจะหุบเข้าเล็กน้อย ดูได้จากภาพ gif ด้านล่างได้เลยครับ
เริ่มที่ 20mm กันก่อน
ต่อด้วย 24mm
Conclusion
โดยรวมทั้ง 2 ตัวถือว่าเป็นเลนส์ SIGMA ที่ทำได้ดีสมชื่อซีรีส์ Art จริง ๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นความคม โบเก้ ขอบม่วง มีข้อสังเกตอย่างเดียวคือเรื่องขอบมืดที่มีเยอะไปนิดแค่นั้น สำหรับใครที่อยากได้เลนส์คุณภาพดี ๆ ราคาสมเหตุสมผลก็ไปจัดกันได้ครับ โดยเฉพาะระยะ 20mm F1.4 ในตลาดฟูลเฟรมมิเรอร์เลสก็มีตัวเลือกไม่มากนัก ตัวนี้น่าจะเด็ดสุดแล้วล่ะครับ
ราคา
- 20mm F1.4 DG DN | Art – 35,900 บาท
- 24mm F1.4 DG DN | Art – 31,900 บาท
เตรียมวางจำหน่ายวันที่ 26 สิงหาคม 2565
สุดท้ายต้องขอบคุณทาง บริษัท สริชทิ ดิจิไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยครับที่ให้ยืมเลนส์ทั้ง 2 ตัว มารีวิวในครั้งนี้ 🙏