Kingston XS2000 ขนาดกะทัดรัด กับความแรงระดับ 2,000 MB/s ที่ต้องเช็กก่อน!

Our score

9.0

Kingston XS2000

จุดเด่น

1. ความเร็วในการอ่านเขียนสูงระดับ 2,000 MB/s จริงๆ
2. ราคาไม่ต่างจาก SSD ในระดับความเร็ว 1,000 MB/s
3. ขนาดเล็ก พกพาง่าย น้ำหนักเบา
4. แถมเคสยางหุ้มตัว SSD มาให้ด้วย

จุดสังเกต

1. ไม่ใช่ทุกเครื่องที่จะใช้งานความเร็วระดับ 2,000 MB/s ได้ ต้องเป็นเครื่องที่รองรับ USB 3.2 Gen 2x2 ขึ้นไปเท่านั้น
2. ไม่มีสาย USB-A มาให้ แถมมาเฉพาะสาย USB-C

วันนี้เราอยู่กับ External SSD (Solid State Drive) รุ่นใหม่อย่าง Kingston XS2000 ที่มีขนาดความจุให้เลือกตั้งแต่ 500GB – 4TB พร้อมความเร็วระดับ 2,000 MB/s (ทั่วไปเร็วแค่ 1,000 MB/s) ซึ่งเร็วพอที่จะทำงานบนตัดต่อบน External SSD ได้เลย แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่ทำให้ดึงความเร็วออกมาใช้ได้ไม่เต็มที่ เรื่องนี้ต้องเช็กดูให้ดี

สเปกของ Kingston XS2000

• พอร์ตเชื่อมต่อ: USB 3.2 Gen 2×2
• ความเร็ว: อ่าน 2,000 MB/s เขียน 2,000 MB/s
• ความจุ: 500GB, 1TB, 2TB, 4TB
• การรับประกัน/บริการ: ประกันแบบจำกัดเงื่อนไข 5 ปี
• ระบบปฏิบัติการที่รองรับ: Windows 11, 10, 8.1, macOS (v.10.14.x +), Linux (v. 2.6.x +), Chrome OS

ดีไซน์กะทัดรัด พร้อมเคสยางกันกระแทก 

ปกติแล้วดีไซน์ของ External SSD ที่คุ้นตา มักจะมาในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบแบนๆ แต่ดีไซน์ของ Kingston XS2000 จะดูแตกต่างไปสักหน่อย เพราะใช้ดีไซน์ค่อนข้าง “สั้นและป้อม” ซึ่งความสั้นเกือบ ๆ เท่าแฟลชไดรฟ์ เพียงแต่จะดูหนากว่าครับ ตามสเปกแล้วสัดส่วนอยู่ที่ 69.54 x 32.58 x 13.5 มม. รวมถือว่ากะทัดรัดอยู่นะ หยิบจับสะดวกเลย 

สำหรับวัสดุตัวเครื่อง แม้ทาง Kingston จะไม่ได้ระบุว่าทำจากอะไร บอกแค่เพียงเป็นโลหะ แต่จากที่ลองสัมผัสดูแล้วให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กับบอดี้ของโน้ตบุ๊กที่ทำจากอะลูมิเนียม ส่วนตัวเลยคิดว่าน่าจะทำจากอะลูมิเนียมเหมือนกัน ซึ่งข้อดีคือทนทาน ในขณะเดียวกันก็ยังได้น้ำหนักที่ค่อนข้างเบา น้ำหนักของ Kingston XS2000 อยู่ที่ 28.9 กรัม (1TB) อันนี้ถือว่าเบากว่าในท้องตลาดหลายรุ่นเลยล่ะ

ด้วยความที่บอดี้เป็นโลหะ เวลาพกใส่กระเป๋าเอาไปใช้งานนาน ๆ ก็มีโอกาสเกิดรอยขูดขีด รวมถึงการตกหล่นด้วย ทาง Kingston ก็เลยแถมเคสยางที่สามารถกันได้ทั้งริ้วรอยและกันกระแทกมาให้ เวลาใส่แล้วหน้าตาก็จะประมาณนี้เลย 

ส่วนการกันน้ำกันฝุ่นก็อยู่ในระดับ IP55 ซึ่งสามารถกันฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าใช้นาน ๆ ก็อาจจะมีหลุดรอดเข้าไปอยู่ภายในได้ ส่วนการกันน้ำก็ป้องกันน้ำที่ฉีดใส่ตัวเครื่องได้จากทุกทิศทาง ส่วนตัวแล้วโดยรวมด้านดีไซน์ถือว่าให้มาโอเคเลยนะ แม้จะดูแปลกตาไปสักหน่อย แต่ก็เหมาะกับการถือใช้งานแน่นอน 

พอร์ตเชื่อมต่อ แรง แต่แรร์

มาดูพอร์ตเชื่อมต่อกันบ้าง ปกติแล้ว External SSD ทั่วไปก็มักจะให้พอร์ตมาเป็น USB-C 3.2 Gen 2 ที่มีความเร็วสูงสุด 1,000 MB/s หรือ 10Gbps ความเร็วเท่านั้นก็ครอบคลุมการใช้งานทั่วไปแล้วครับ แต่ Kingston XS2000 ตัวนี้มีความเร็วที่สูงกว่าเท่าตัว เพราะมาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C 3.2 Gen 2×2 ที่สามารถโอนถ่ายข้อมูลได้สูงสุด 20Gbps หรือ 2,000 MB/s และสาย USB-C ทั้งสองหัว (Type C to Type C)

ตัวเลขที่ได้จากพอร์ตนี้คือ 2,000 MB/s ต้องยอมรับว่า เร็วจริง แต่ก็แรร์เช่นกัน เพราะพอร์ตที่เอามาต่อ (ฝั่งรับ) ต้องเป็น USB-C 3.2 Gen 2×2 เหมือนกัน จากที่เรารีวิวโน้ตบุ๊กมาหลายรุ่นพอร์ตนี้หาใช้ค่อนข้างยาก เรียกว่าเป็นของแรร์ในช่วงเวลานี้ก็ได้ เพราะส่วนใหญ่จะเป็น USB-C 3.2 Gen 1 ไม่ก็เป็นตัว Gen 2 หรือก็เป็น Thunderbolt 4 หรือไม่ก็โดดเป็น USB-4 ซึ่งถ้าเราเอา Kingston XS 2000 ไปต่อก็จะใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

แล้วคำถามคือตอนนี้มีอุปกรณ์ที่ใช้ USB-C 3.2 Gen 2×2 เยอะไหม คำตอบก็คือยังไม่เยอะเท่าไร เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ โน้ตบุ๊กที่เปิดตัวในปีนี้ส่วนใหญ่เลยไม่ได้ใส่มาให้ครับ ที่เจอบ่อย ๆ จะเป็นโน้ตบุ๊กแนวเกมมิง ซึ่งใครที่จะซื้อมาใช้แล้วอยากได้การทำงานเต็มประสิทธิภาพก็ต้อง “เช็กก่อน” นะ

ประสิทธิภาพการอ่าน-เขียนข้อมูล 

เมื่อเรารู้แล้วว่าการที่จะได้ประสิทธิภาพเต็ม ๆ ทั้งฝั่งส่งและฝั่งรับต้องเป็น USB-C 3.2 Gen 2×2 เหมือนกัน เราก็เลยลองเอา Kingston XS2000 ไปลองทดสอบ (Benchmark) บนหลาย ๆ อุปกรณ์ ทั้ง Windows, MacBook ซึ่งผลที่ออกมาก็เป็นไปตามตารางด้านล่างเลย

จากที่สังเกตจะเห็นว่ามีแค่ Dell G15 5520 เท่านั้นที่ทำความเร็วได้แตะระดับ 2,000 MB/s ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ อันนี้ก็ได้ความเร็วลดหลั่นกันไป รวมถึง MacBook Air M2 ที่ทำความเร็วได้แบบเดียวกับ Air M1

ส่วนใครที่สงสัยว่าถ้าเราเอา USB-C 3.2 Gen 2×2 ไปเสียบใช้กับ USB 4 เวอร์ชันที่ใหม่กว่า ความเร็วจะถึง 2,000 MB/s หรือไม่ เรื่องนี้เราทดสอบกับทั้ง MacBook Air M1 และ M2 ที่เป็นพอร์ต USB 4 ที่เว็บแอปเปิ้ลอ้างว่ารองรับความเร็วสูงสุดถึง 40 Gb/s ก็ปรากฎว่าเชื่อมต่อได้ในระดับ USB 3.1 Gen 2 ที่ MacBook รองรับที่ 10 Gb/s เท่านั้น ซึ่งข้อมูลการทดสอบ Benchmark จากเว็บ Kingston ก็ออกมาในแนวทางเดียวกันคือความเร็วจะอยู่ที่ 1,069.43 MB/s และ 1,044.11 MB/s แปลว่าแม้จะเป็นเวอร์ชันใหม่กว่าก็ไม่สามารถดึงความสามารถออกมาได้สุด ๆ อยู่ดี

ลองใช้แทนความ SSD ในเครื่อง

นอกจากนี้เรายังลองตัดต่อและ Export วิดีโอความละเอียด 4K จาก Adobe Premiere Pro ลงทั้งบน SSD บนตัวเครื่อง และ Kingston XS2000 เพื่อเทียบให้เห็นความต่าง ผลปรากฏว่า การ Export ลง Kingston XS2000 ใช้เวลาไป 6.34 นาที ส่วนการ Export ลงตัวเครื่องใช้เวลา 6.18 ซึ่งช้ากว่ากันหลักสิบวินาทีเท่านั้น นั้นหมายความว่าเราสามารถเสียบใช้งานแทนหน่วยความจำตัวเครื่องได้ในระดับหนึ่งเลยครับ

ราคาค่าตัว

สรุปนะครับ Kingston XS2000 ถือเป็น External SSD ที่พกพาสะดวก และมาพร้อมกับความเร็วสูงสุดถึง 2,000 MB/s ซึ่งเหมาะกับการใช้งานหลากหลายประเภท โดยเฉพาะงานที่ต้องโอนถ่ายข้อมูลบ่อย ๆ เช่น สายครีเอเตอร์ อย่างงาน ตัดต่อ แต่งภาพ แต่อุปกรณ์ที่เอาไปเสียบใช้งานก็ต้องรองรับเช่นกันถึงจะดึงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ แนะนำให้เช็กก่อนซื้อนะว่าพอร์ตเชื่อมต่อของเราเป็น USB-C 3.2 Gen 2×2 หรือไม่ ถ้ารองรับคุณจะได้พบกับความเร็วระดับที่เทียบเคียงกับ SSD ในเครื่องคุณได้เลย

ทีนี้เรามาพูดถึงราคากันบ้าง Kingston XS2000 ถือว่าทำราคามาค่อนข้างดี ราคาไม่ต่างจาก SSD ความเร็วระดับ 1 TB/s จึงถูกกว่าหลายแบรนด์ในตลาดเลยนะครับ โดยที่ขายแบบออนไลน์จะมีอยู่ 3 สเปกคือ 500GB ในราคา 3,090 บาท, ความจุ 1TB ในราคา 5,290 บาท, และ ความจุ 2TB ในราคา 9,390 บาท (หมายเหตุราคาอาจจะต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์ม) ส่วนความจุ 4TB อันนี้เท่าที่ลองหาดูยังไม่มีขายในไทย

สำหรับใครที่สนใจอยากได้ Kingston XS2000 ไปใช้งาน หรืออยากอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปที่ลิงก์ด้านล่างได้เลย https://www.kingston.com/th/ssd/xs2000-portable-usb-c-solid-state-drive

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส