Our score
7.7SENNHEISER IE 200
จุดเด่น
- หูฟัง in-ear ที่ให้เสียงเที่ยงตรง ไม่กระโชกโฮกฮาก
- น้ำหนักเบามากแค่ 4 กรัม
- ซาวด์สเตจไม่คับแคบ รายละเอียดน่าพอใจเมื่อเทียบกับราคา
- ใส่สบายด้วยดีไซน์เดียวกับรุ่นพี่
- มีจุกให้เลือกใส่ 2 แบบ แบบละ 3 ขนาด
จุดสังเกต
- วัสดุหลักเป็นพลาสติก ดูบอบบางไม่แข็งแรง
- สาย, หูฟังไม่มีรีโมตสั่งการ ฟังได้อย่างเดียว ไม่มีไมค์ในสาย
- รายละเอียดเสียงแม้จะได้ยินครบ แต่ต้องตั้งใจฟัง
- ไม่ได้แถมกล่องใส่หูฟังมาให้ ได้เป็นซองใส่หูฟังแทน
-
คุณภาพเสียง
8.7
-
คุณภาพวัสดุ
6.5
-
ความคล่องตัวในการใช้
6.5
-
ความคุ้มค่า
9.0
เรียกได้ว่า Sennheiser ดูจะรักหูฟังตระกูลนี้มาก ๆ หลังแบไต๋รีวิวทั้ง IE 900, IE 600, IE 300 ไปแล้ว ล่าสุดแบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังจากเยอรมันยังออกรุ่นใหม่ IE 200 อีก ซึ่งราคาถูกที่สุดในตระกูลนี้อยู่ที่ราว ๆ ครึ่งหมื่นเท่านั้น… หูฟัง IE 200 จะเป็นอย่างไร แตกต่างจาก IE 900 แค่ไหน ไปแบไต๋กันเลย!
แกะกล่อง
ต้องยอมรับว่ากล่องใหญ่มากครับ ส่วนดีไซน์ก็ปกติทั่วไป สิ่งที่อยู่ในกล่อง รอบนี้ให้มาพอดีกับราคาครับ
- ตัวหูฟัง IE 200 ทั้งซ้ายและขวา
- สายหูฟังแบบถัก ยาว 1.25 เมตร เสริมแรงด้วย para-aramid
- จุกหูฟังซิลิโคน 3 ขนาด S M L
- จุกหูฟังโฟม 3 ขนาด S M L
- คู่มือ
- ซองใส่หูฟัง
ในรุ่นนี้ไม่ได้ให้สาย 4.4 mm. มานะครับ ให้มาแค่ 3.5 mm ความพิเศษของสายคือเป็นเป็นทองแดงแบบปลอดอ็อกซิเจนซึ่งจุดเด่นของโลหะนี้คือการนำไฟฟ้า ส่วนต่อหัวแบบ MMCX นั่นหมายความว่าเราสามารถหาสายมาเปลี่ยนได้เหมือนรุ่นอื่น ๆ ในตระกูล IE เลย ส่วนกล่องใส่หูฟังก็ไม่ได้ให้มา แต่เปลี่ยนเป็นซองใส่หูฟังแทน ส่วนตัวรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้กล่องเหมือนรุ่นพี่ในตระกูล แม้ซองที่ให้มาจะดูเหนียวแน่นและดีไซน์มาถูกจริตผมมาก ๆ ก็เถอะ (หัวเราะ)
ดีไซน์, วัสดุ
ตัวหูฟังรุ่นนี้มาแนวมินิมอลของจริงเลย คือสีดำ เรียบ ๆ มีสัญลักษณ์ Sennheiser ประดับที่ภายนอก ส่วนภายในสลักตัวอักษร IE 200 เอาไว้ โดยมีดีเทลเล็ก ๆ คือสีที่คาดไว้บริเวณข้อต่อหูฟังคือสีดำ (ข้างซ้าย) สีแดง (ข้างขวา) อาจช่วยให้เราแยกข้างหูฟังได้ง่ายขึ้นกระมัง ส่วนวัสดุเป็นพลาสติกล้วนครับ ต่างจากรุ่นพี่ IE 900 ที่จะเป็นอะลูมิเนียม ยิ่ง IE 600 นี่เป็นวัสดุระดับหัวขุดเจาะดาวอังคารเลย พูดง่าย ๆ ก็คือแกร่งกว่าเหล็กอีก และด้วยเหตุที่ทำมาจากพลาสติกเลยทำให้ IE 200 มีน้ำหนักเบามาก ตามสเปกอยู่ที่ 4 กรัมเท่านั้น
และเช่นเคยหูฟังตระกูล IE ใส่จุกหูฟังได้ 2 ระดับครับ แบบจุกลึกกับจุกตื้น เลือกได้ตามสไตล์เลย ส่วนการเชื่อมต่อสายกับตัวหูฟังใช้ขั้วแบบ MMCX เคลือบทอง ส่วนการยึดกันก็ต้องบอกว่าแน่นหนาครับ ถ้าไม่ได้ตั้งใจดึงก็ไม่หลุดง่าย ๆ ฟังได้สบายใจเลย เพียงแต่ตัวสายแม้จะเป็นสายถัก แต่ด้วยความรู้สึกยามสัมผัสก็ต้องยอมรับว่าดูไม่ได้แข็งแรงเท่าสายของรุ่นพี่ ครั้นจะทดสอบด้วยการดึงเราเองก็ใจไม่ถึงพอ (หัวเราะ) แต่คิดว่าถ้าใช้ในชีวิตประจำวันไม่น่ามีปัญหาครับ
เรื่องเสียง
สถาปัตยกรรมเสียงของ IE 200 เน้นเรื่องของความเรียบง่ายไม่ซับซ้อน เป็นไดรเวอร์ตัวเดียวเฉกเช่นกับรุ่นพี่ในตระกูล ให้มาเป็นไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 7 ม.ม. (The 7 mm extra-wideband True Response transducer) ในเชิงอธิบาย Sennheiser บอกว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะทำให้พื้นฐานเสียงมีความแม่นยำ ไม่ผิดเพี้ยนจากไฟล์เพลง ช่วยให้ได้ยินทุกเสียงที่ศิลปินตั้งใจใส่ไว้ ที่สำคัญวิศกรเสียงของ Sennheiser ตั้งใจอย่างมากที่จะไม่ให้หูฟังตัวนี้เสียงพีก (Peak) จนไปทำลายรายละเอียดดนตรี โดยรองรับความถี่ 6 – 20,000Hz ความต้านทาน 18 Ω และความไวที่ 119dB SPL
ในการรีวิวเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่สมบูรณ์ที่สุดผู้ฟังฟังผ่าน DAC ในรุ่น Chord Mojo 2 เป็น DAC ชื่อดังที่นักฟังเพลงให้การยอมรับ ฟังผ่าน Apple Music ในคุณภาพไฟล์ Hi-Res Lossless และสายเป็นแบบ 3.5 mm.
เรื่องเสียงคาแรกเตอร์โดยรวมต้องบอกว่าเป็นไปตามคำกล่าวของ Sennheiser เพราะโทนโดยรวมค่อนข้าง Flat บางคนที่มาลองฟังด้วยกันบอกว่าเสียงค่อนข้างแห้งด้วยซ้ำ นั่นหมายถึงเสียงของไฟล์เพลงเป็นอย่างไร IE 200 จะถ่ายทอดไปแบบนั้น โดยไม่ได้ปรุงแต่งใด ๆ ถามว่าฟังเพราะไหม อันนี้พูดได้เต็มปากว่าอยู่ที่คนชอบจริง ๆ
บางคนอาจจะชอบหูฟังที่คาแรกเตอร์เสียงเบสหนา ๆ หรือเสียงเกรี้ยวกราดพลังงานพุ่ง ไปจนถึงเสียงชุ่มฉ่ำมีมิติ แต่ผู้ฟังดันชอบเสียง Flat ที่ไม่ได้ปรุงแต่งเยอะ ก็ต้องบอกว่าเสียงของ IE 200 ค่อนข้างถูกจริตเลย นั่นหมายความย่านจะสูง จะต่ำไม่ได้หวือหวาหรือดำดิ่งลงไปจนสุดทาง แต่สร้างความสมดุลในการฟังได้อย่างพอดิบพอดี
ในเรื่องของซาวด์สเตจก็ต้องบอกว่าให้มาพอดีตัว ไม่ได้กว้างขวางแบบพี่ใหญ่ IE 900 แต่ก็ไม่ได้อึดอัดคับแคบจนฟังแยกชิ้นไม่ได้ หากตั้งใจจะได้ยินและรับรู้ได้ว่าชิ้นใดอยู่ตรงไหน เสียงร้องหลัก, ร้องประสานเป็นอย่างไร IE 200 สามารถถ่ายทอดได้ครับ เรื่องเบสก็ไม่ได้คมขนาดนั้น ไม่ได้ฟังเป็นเม็ด หรือเคลียร์หู แต่ก็ไม่ได้มัวจนฟังไม่รู้เรื่อง เรียกว่าแต่ละย่านสูง กลาง ต่ำ ให้ ‘บรรยากาศ’ ได้ครบถ้วน
และเพื่อหลากหลายในการฟัง ผู้ฟังลองเปลี่ยนดีไวซ์จากสมาร์ตโฟนเป็นโน้ตบุ๊ก แต่ไม่ได้ผ่าน DAC พูดตามตรงว่าเสียงที่ได้แตกต่างจากการฟังผ่านสมาร์ตโฟน กล่าวคือมิติเสียงดีขึ้น แม้สเตจเสียงจะไม่ได้กว้างขึ้น แต่ทุกสุ้มเสียงดูจะเคลียร์ชัดขึ้น จนพอจะจับสังเกตได้ว่า IE 200 เน้นถ่ายทอดเสียงตามคุณภาพแหล่งกำเนิดเสียง ยิ่งต้นทางดี ปลายทางอย่าง IE 200 ก็จะดีตาม คำถามคือแล้วถ้าเรามีอุปกรณ์ที่ไม่พร้อม ไฟล์เพลงที่คุณไม่สูง รวมไปถึงไม่มี DAC เหมาะไหมที่จะใช้รุ่นนี้ คำตอบคือใช้ได้ครับ โดยพื้นฐานตัว IE 200 มีความเสถียรเที่ยงตรงในตัวเองอยู่แล้ว คุณจะได้ยินทุกชิ้นครบถ้วนแน่นอน ไดนามิกต่าง ๆ ไม่ได้แย่หรือแบนราบ ยังฟังแล้วรู้สึกถึงการลื่นไหลของแต่ละเสียงได้อยู่ ที่สำคัญฟังสบายหูมากครับ ไม่ได้ปวดหรือล้าหูเลย อาจเป็นเพราะน้ำหนักเบา รวมไปถึงโทนไม่ได้หวือหวา เลยทำให้เราฟังได้นาน
แต่รีวิวที่ดีต้องมีข้อสังเกต ข้อสังเกตที่เด่นชัดที่สุดคงเป็นเรื่องคาแรกเตอร์เสียง อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าบางคนมาฟังแล้วรู้สึกว่า IE 200 เสียงแห้งเลยทีเดียว นั่นหมายความว่าถ้าคุณชอบความหวือหวา เบสหนา ๆ ตุ้บ ๆ เสียงพลุ่งพล่าน ชวนตื่นใจ IE 200 อาจไม่ใช่คำตอบ แต่ถ้าคุณชอบความพอดี ฟังได้นาน ๆ เน้นบาลานซ์ทุกย่านเสียง แถมเก็บรายละเอียดได้ไม่เลว น่าจะชอบตัวนี้ได้ไม่ยาก
เปรียบเทียบกับ IE 900 และ IE 600
ในมุมมองส่วนตัวรู้สึกว่า IE 200 ได้ยิน ‘ครบ’ ในแบบที่ IE 900 ได้ยิน แต่ในเชิงคุณภาพต้องบอกว่าต่างกันมาก ก็แน่แหละราคาห่างเกินเกือบ 10 เท่า (หัวเราะ) ยกตัวอย่างเพลง True Friends ของ Bring Me The Horizon เสียงของ IE 900 เราจะได้ยินแฉหรือฉาบอย่างชัดเจน คม เคลียร์ แต IE 200 แฉเราจะได้ยินแบบพร่ามัว ไม่ได้คมกริบเท่า ไปจนถึงริฟฟ์กีตาร์ที่เล่นคู่ประสานอยู่ไกล ๆ ใน IE 900 จะเห็นเป็นมวลเสียงหนา ๆ ระอุอยู่ข้างหู ฟังรู้เรื่องว่าเล่นอะไร แต่ IE 200 จะเป็นเหมือนเสียงอะไรขมุกขมัวอยู่ไกล ๆ ไปจนถึงซาวด์สเตจที่กว้างกว่าอย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือ IE 900 เป็น IE 200 ในเวอร์ชันที่เสียงมีชีวิตชีวามากกว่า เสียงคมมากกว่า ซาวด์สเตจกว้างมากกว่า รวมไปถึงไดนามิกหรือมวลเสียงต่าง ๆ IE 900 ทำมิติเสียงได้โดดเด่นกว่าจริง ๆ เหมือนปั้นเสียงเป็นตัวเลย เบสกระชับกว่า มาเป็นลูก ๆ กีตาร์ก็มาคลื่นหนา ๆ ส่วน IE 200 แม้จะพยายามทำให้ได้แบบนั้นแต่ยังห่างจากรุ่นพี่อยู่พอสมควร
พูดง่าย ๆ ก็คือถ้าไม่ได้ฟัง IE 900 มาก่อน แล้วฟัง IE 200 อย่างเดียวคุณจะหลงรักน้องเล็กอย่างแน่นอน แต่พอฟังเปรียบเทียบก็ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น นอกจาก IE 900 แล้ว ผู้ฟังยังมีโอกาสได้รีวิว IE 600 ด้วย ถ้าถามเทสต์ส่วนตัว ผู้ฟังชอบ IE 200 มากกว่าเพราะเสียงจืด ๆ กลาง ๆ มันถูกรสหูผมมากกว่า ส่วนตัว IE 600 ดูจะทรงพลัง เกรี้ยวกราดมากไปหน่อย คือถ้าใครชอบความสนุกสนานลองไปทาง IE 600 จะตอบโจทย์กว่าครับ
ถ้าจะสรุปก็จะได้ว่า
- IE 200 น้องเล็กสุดที่ยังกำลังค้นหาตัวเอง ไม่เด่นด้านใด แต่แทนไว้ด้วยความเที่ยงตรงของเสียง อยู่ด้วยแล้วสบายใจ โดยมีพี่ชาย IE 900 เป็นต้นแบบ
- IE 300 เป็นน้องชายคนเล็กที่ยังขี้อาย เน้นเบสเพราะไม่กล้าแสดงออก ย่านกลางและสูงเลยไม่เด่น
- IE 600 กำลังวัยแตกเนื้อหนุ่ม มีชีวิตชีวา พุ่งทะยาน สนุกสนาน พลังงานสูง ย่านกลาง แหลม แข็งแรง
- IE 900 เหมือนผู้ใหญ่ที่เริ่มมีวุฒิภาวะ ไม่ร้อนเกินไป ไม่เย็นเกินไป นุ่มลึก สวยงามครบมิติทุกย่านเสียง
สุดท้ายนี้รีวิวที่ดีต้องมีราคา
Sennheiser IE 200 เปิดตัวที่ 6,290 บาท อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส