รีวิว Wanbo T2 Max (new) โปรเจคเตอร์อัจฉริยะตัวจิ๋ว พกไปเที่ยวด้วยสบาย ๆ
Our score
9.0

Wanbo T2 Max (new)

จุดเด่น

  1. ตัวเล็ก พกพาง่าย ให้ความสว่างสูงเมื่อเทียบกับขนาดตัว
  2. ให้ความละเอียด 1080p ให้ภาพสีสันดีเกินราคา พร้อมโฟกัสอัตโนมัติ
  3. ลำโพงเสียงดีกว่าลำโพงในโปรเจคเตอร์ทั่วไป ให้เสียงเบสได้ลึก
  4. มี Android ในตัว เล่น Youtube, Netflix, Disney+ Hotstar, HBO และอื่น ๆ โดยไม่ต้องต่ออุปกรณ์เพิ่ม พร้อมส่งภาพผ่าน AirPlay หรือ Miracast ได้เลย
  5. ราคาดีกว่าโปรเจคเตอร์สเปกเดียวกัน

จุดสังเกต

  1. สายไฟที่ให้มาสั้นเกินไป ต้องพกไปพร้อมปลั้กพ่วงเสมอ
  2. พอร์ตเชื่อมต่ออยู่ด้านบน ควรจะอยู่ด้านล่างแทน
  3. ไม่มีขาตั้งยกเครื่องด้านหน้า ถ้าจะเชิดหน้าโปรเจคเตอร์ต้องหาอะไรมารอง
  4. ไม่มีถ่าน AAA แถมมาในกล่อง ต้องหามาใส่รีโมตเอง
  5. กระเป๋าพกพาเครื่องต้องซื้อเพิ่มเอง ขาตั้งเครื่องจะมีโปรแถมให้บางครั้ง

ถ้าคิดถึงโปรเจคเตอร์ เราจะคิดถึงอุปกรณ์ตัวใหญ่ ๆ ขนย้ายลำบาก เวลาใช้งานก็ร้อนมากด้วย แถมต้องต่อสายอะไรเต็มไปหมดเพื่อใช้งาน แต่ด้วยเทคโนโลยีของหลอด LED ในปัจจุบันทำให้โปรเจคเตอร์มีขนาดเล็กลงมาก แถมยังสามารถใส่ Android ให้ทำงานในโปรเจคเตอร์ได้ด้วย ทำให้สามารถทำงานได้แม้ไม่ได้ต่อสายสัญญาณใด ๆ ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดที่เกริ่นมาก็อยู่ใน Wanbo T2 Max (new) ที่เราจะรีวิวในครั้งนี้ครับ

ดีไซน์

ด้านหน้าตัวเครื่องพร้อมรีโมท
ด้านหน้าตัวเครื่องพร้อมรีโมต

งานออกแบบของ Wanbo T2 Max new ก็ยังคงดีไซน์เอกลักษณ์ที่แปลกตาของ Wanbo ไว้ คือโปรเจคเตอร์แนวตั้ง ไม่ได้วางเป็นกล่องแบน ๆ เหมือนเครื่องทั่วไป ซึ่งมีขนาดแค่ 113 x 146 x 156.5 mm และหนัก 1.1 kg เท่านั้นเอง ทำให้สามารถพกติดตัวไปนอกสถานที่ได้สบาย ๆ ซึ่ง Wanbo T2 Max new นั้นมีตัวเครื่องให้เลือก 2 สีคือสีน้ำเงินกับสีขาว แต่น่าจะเข้าไทยแค่สีน้ำเงินอย่างเดียวครับ

ด้านบนของเครื่องจะมีปุ่มเปิด-ปิดเครื่องอยู่ตรงกลางให้กดง่าย ๆ ครับ ส่วนด้านหน้าของ T2 Max new มีเลนส์ฉายภาพขนาดใหญ่ (แต่ไม่มีฝาปิดเลนส์มาให้นะ) แล้วก็มีช่องดูดอากาศที่เชื่อมต่อจากด้านหน้าเครื่องไปถึงหลังเครื่อง เพื่อดึงอากาศเข้าไประบายความร้อนของเครื่อง โดยไอร้อนจะออกทางด้านหน้าของเครื่องครับ และด้านหน้านี้มีกล้องตัวเล็ก ๆ ด้วยนะครับ เอาไว้โฟกัสอัตโนมัติ

ด้านหลังจะประกอบด้วยช่องด้านบนที่เป็นลำโพง 3 Watt จำนวน 2 ตัวให้เสียงสเตอริโอ แล้วก็พอร์ตเชื่อมต่อ 4 พอร์ตอยู่ด้านบน คือช่องเสียบสายไฟ DC แบบกลม (ไม่ใช่ USB-C นะ), ช่อง USB สำหรับเสียบไฟล์ไปเล่นในเครื่อง, ช่อง HDMI สำหรับต่อภาพจากภายนอกขึ้นฉาย และช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm เผื่อต่อลำโพงภายนอกได้

พอร์ตด้านหลังของ Wanbo T2 Max (new)
พอร์ตด้านหลังของ Wanbo T2 Max (new)

แต่ก็น่าสังเกตว่าพอร์ตทั้งหมดนั้นอยู่ด้านบนของเครื่องนะครับ ทำให้เวลาใช้งาน สายจะพาดผ่านช่องด้านล่างแทบตลอดเวลา และทำให้ต้องใช้ระยะสายยาวขึ้น ซึ่งการตั้งโปรเจคเตอร์บนขาตั้งบ่อยครั้งที่ตัวอะแดปเตอร์จะไม่ถึงพื้นด้วยซ้ำ เพราะพอร์ตอยู่สูงและสายไฟสั้น โดยสายจากอะแดปเตอร์ถึงตัวเครื่องยาว 1.10 เมตร ทำให้เกิดน้ำหนักถ่วงหลังโปรเจคเตอร์ จนต้องหาโต๊ะหรือเก้าอี้มาวางตัวอะแดปเตอร์อีกที

นอกจากนี้ที่ตัวโปรเจคเตอร์ยังไม่มีขาตั้งสำหรับยันด้านหน้าเพื่อเพิ่มระดับความสูงหน้าเลนส์ด้วย ทำให้การใช้งานโปรเจคเตอร์แบบตั้งบนโต๊ะเพื่อฉายไปที่ผนังอาจจะลำบากหน่อย ต้องหาอะไรมารองด้านหน้าด้วยตัวเองถ้าโต๊ะมีความสูงไม่พอ หรือใช้ขาตั้งโปรเจคเตอร์ไปเลยจะเหมาะกว่า (ซึ่งบางช่วงจะมีโปรโมชันแถมขาตั้งให้เวลาซื้อเครื่อง)

ความแตกต่างระหว่าง T2 Max และ T2 Max (new)

T2 Max เป็นโปรเจคเตอร์ยอดนิยมของค่าย Wanbo ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2020 นะครับ ซึ่งถ้าเทียบกับ T2 Max (new) ที่ออกปี 2023 แม้ว่าหน้าตาจะไม่ต่างกัน แต่ความสามารถต่างกันมาก โดยเฉพาะความสว่างที่สว่างกว่าเดิม 80% ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น จนเราแนะนำให้ซื้อรุ่นใหม่เลยดีกว่าครับ ราคาต่างกันแค่พันเดียวเอง

T2 MaxT2 Max (new)
ความสว่าง250 ANSI450 ANSI
ระบบโฟกัสด้วยตัวเองอัตโนมัติ
เลนส์แก้วแก้วที่ใสและบริสุทธิ์ขึ้น
พัดลมระบายความร้อนทำงานสปีดเดียวออกแบบให้เงียบขึ้น
ลำโพงสเตอริโอจูนใหม่ให้ดีขึ้น เสียงต่ำได้ถึง 60 Hz

เริ่มต้นใช้งาน

เมื่อแกะกล่องออกมาจะเห็นตัวเครื่องโปรเจคเตอร์, อะแดปเตอร์ไฟ พร้อมสติกเกอร์น่ารัก ๆ แถมมาให้ในกล่องครับ ส่วนรีโมตที่มาด้วยก็เป็นสีขาวหน้าตาดูดีใช้ได้ แต่ในกล่องไม่แถมถ่าน AAA สำหรับรีโมตมาให้นะครับ ถ้าที่บ้านไม่มีถ่าน ก็อย่าลืมซื้อติดมาด้วย เดี๋ยวจะหงุดหงิดว่าแกะกล่องแล้วใช้งานทันทีไม่ได้

อุปกรณ์ภายในกล่อง
อุปกรณ์ภายในกล่อง

นอกจากนี้ในกล่องจะไม่มีกระเป๋าสำหรับพกพาตัวเครื่องมาด้วย ถ้าคิดว่าจะใช้งานนอกบ้านบ่อย ๆ ก็สามารถซื้อเพิ่มเติมได้จากร้านของ Wanbo ราคาหลักร้อยครับ ไม่แพง และสำหรับการใช้งานนอกบ้านอย่าลืมพกปลั๊กพ่วงติดตัวไปด้วยเสมอนะครับ เพราะสายไฟของเครื่องค่อนข้างสั้น คือรวมความยาวสายทั้งหมดทั้งฝั่ง AC และ DC ได้ยาว 2.10 เมตร ถ้าต้องลากโปรเจคเตอร์ไปกลางห้องจะลำบาก

ระบบโฟกัสอัตโนมัติเป็นเรื่องที่ทำงานได้ดี โดยเมื่อขยับเครื่องแล้ววางลง เครื่องจะแสดงภาพเพื่อปรับโฟกัสอัตโนมัติ แล้วใช้เวลาอึดใจหนึ่งในการปรับให้ภาพชัดที่สุด ซึ่งถ้ายังไม่ถูกใจก็สามารถปรับด้วยตัวเองจากรีโมต ส่วนการปรับแก้ Keystone หรือปรับภาพเบี้ยวจากการวางเครื่องในมุมเอียง เครื่องจะสามารถปรับอัตโนมัติได้ระดับหนึ่งครับ แต่ถ้าวางเครื่องเอียงเยอะหน่อย ก็ต้องเข้าไปปรับด้วยตัวเองในหน้าตั้งค่าของเครื่อง ซึ่งในหน้าตั้งค่านี้สามารถปรับทิศทางการวางเครื่องได้ด้วย ว่าจะวางเครื่องหน้าฉาก หลังฉาก หรือแขวงเครื่องบนเพดานครับ

คุณภาพภาพและเสียง

ระยะทำงานของ Wanbo T2 Max (new) เริ่มต้นที่ 1.1 เมตรครับ จะได้ภาพขนาด 40 นิ้ว จนสามารถฉายภาพขนาด 100 นิ้วที่ระยะ 2.6 เมตร ด้วยอัตราส่วนการขยาย 1.2:1 ซึ่งที่ขนาดจอราว ๆ 70 นิ้ว ฉายที่ระยะ 1.8 เมตร ความสว่าง 450 ANSI ก็สว่างพอที่จะใช้งานในห้องที่เปิดไฟในเวลากลางคืนได้ ส่วนถ้าต้องการจอขนาดใหญ่ขึ้นก็แนะนำให้ปิดไฟช่วยด้วยจะดีกว่าครับ โดยผู้ผลิตเคลมว่าตัวหลอดไฟมีอายุการใช้งาน 20,000 ชั่วโมง ถ้าเปิดใช้งานหนัก ๆ วันละ 8 ชั่วโมงก็อยู่ได้เกือบ 7 ปี

สิ่งที่เราประทับใจคือคุณภาพภาพที่ได้ออกมาดีเลย คมชัด สีสันสวย ไม่รู้สึกว่าเป็นโปรเจคเตอร์ที่ให้สีทึม ๆ เอาไปดูหนังก็รู้สึกว่าสีสันสมจริงเหมือนดูหนังในโรงภาพยนตร์ครับ ซึ่งถ้าได้ฉากรับภาพที่ดีกว่าการฉายลงบนกำแพง ก็จะให้ภาพที่สวยขึ้นไปอีก (แน่นอนว่า Wanbo มีขาย) โดยความละเอียดภาพของโปรเจคเตอร์เครื่องนี้อยู่ที่ 1080p ที่เป็นมาตรฐานภาพชัดในยุคนี้ ส่วนถ้าต้องการความละเอียด 4K ทาง Wanbo ก็ยังมีเครื่องรุ่นใหญ่กว่านี้ให้เลือกครับ

ส่วนคุณภาพเสียงนั้น ดีกว่าโปรเจคเตอร์ทั่วไปจริง ๆ ทั้งความดัง ความครบ และเบสของเสียง ที่สามารถใช้ลำโพงของ T2 Max new ดูหนังทั้งเรื่องจนจบได้สบาย ให้เสียงดังไปทั่วห้องโรงแรมขนาดนอน 2 คนอย่างชัดเจน แต่ถ้าถามว่าคุณภาพเสียงดีเท่าลำโพงแยกไหม ก็ถ้าเป็นลำโพงตัวเล็ก ๆ ที่มีดอกเดียว เสียงจากโปรเจคเตอร์อาจจะดีกว่า แต่ถ้าเป็นลำโพงขนาดย่อม ๆ ที่มี 2 ดอกลำโพง Wanbo ก็อาจแพ้ในเรื่องมิติเสียงครับ

การใช้งาน Android ในเครื่อง

หน้าโฮมของ Android ภายในเครื่อง
หน้าโฮมของ Android ภายในเครื่อง

Wanbo T2 Max มาพร้อม Android 9.0 ที่โมมาพิเศษสำหรับการใช้งานแบบโปรเจคเตอร์ครับ ก็มีหน้าโฮมที่ดูสวยงามดี การตอบสนองเวลากดรีโมตก็ทำได้เร็วพอสมควร แม้ว่าจะมีแรมแค่ 1 GB กับพื้นที่ในเครื่อง 16 GB ครับ

นอกจากนี้เราสามารถลงแอปจาก Play Store ใช้ได้เลย ซึ่งที่เราลองแล้วใช้ได้ก็ Netflix, Disney+ Hotstar, Bilibili, HBO Go, Spotify พวกนี้ใช้งานได้เหมือน Android TV เลย ดูหนังโดยตรงจากโปรเจคเตอร์ได้ทันทีโดยไม่ต้องต่ออุปกรณ์ภายนอก

ส่วน Youtube เราทดลองแอปในเครื่องก็รู้สึกว่าภาพจะแตกกว่าปกติอยู่บ้างครับ แม้ว่าเราจะเลือกคุณภาพเป็น 1080p แล้ว แต่ถ้าดูจากระยะห่างก็ยังรู้สึกว่าให้ภาพที่โอเคอยู่ แต่แอปที่ใช้งานไม่ได้เลยคือ VIU เพราะเป็นแอปที่เลือกอุปกรณ์ที่ใช้งานด้วยพอสมควร ต้องหาทางแคสภาพมาใช้แทน

ส่วนการส่งภาพจากสมาร์ตโฟนไปขึ้นโปรเจคเตอร์แบบไร้สาย ก็รองรับ AirPlay ของแอปเปิ้ลผ่านแอป iMirror ที่เปิดแล้วแคสต์จอจากไอโฟนขึ้นได้เลย นอกจากนี้ยังรองรับ Miracast ที่ยิงภาพจาก Windows หรือ Android ขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรเพิ่มเติม

สรุป Wanbo T2 Max (new) คุ้มไหม

ด้วยราคาของ Wanbo T2 Max (new) แค่ 6,590 บาท แต่ได้โปรเจคเตอร์ความละเอียด 1080p ความสว่าง 450 ANSI พร้อม Android ในตัว แถมตัวเล็ก พกง่ายอีก ถือว่าหาคู่แข่งระดับเดียวกันยากครับ ถ้าคุณคิดจะเริ่มต้นดูเนื้อหาผ่านเครื่องฉายภาพในราคาไม่ถึงหมื่นบาท T2 Max (new) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส