ถ้าพูดถึงสมาร์ตโฟนจอพับจากแบรนด์ OPPO หลายคนน่าจะนึกถึง OPPO Find N2 Flip ที่แบไต๋เคยแกะกล่อง ‘พับที่ดีกว่า’ และรีวิวไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี ครั้งนี้คือสมาร์ตโฟนจอพับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจาก OPPO บอกล่วงหน้าตรงนี้เลยว่า ‘สมการรอคอย’ นี่คือ OPPO Find N3 ที่เราจะมาแบไต๋กัน สามารถติดตามได้ในบทความนี้

การพับ

OPPO Find N3 รุ่นนี้เขาเคลมว่านี่คือ ‘นิยามใหม่ของการพับ’​ เขามาพร้อมกับบานพับ Flexion Hinge รุ่นที่ 3 แล้ว ถ้าทุกคนจำกันได้ คือที่ผ่านมา OPPO พยายามพัฒนาเรื่องบานพับที่ทำให้มีรอยน้อยมาโดยตลอด และได้คำตอบออกมาเป็นการพับแบบ Waterdrop Design หรือแบบหยดน้ำ ที่ทำให้กาง และพับได้เรียบมากขึ้น เห็นรอยพับน้อยลงจนแทบจะมองไม่เห็น ซึ่งในรุ่นที่ 3 นี้เขาใช้วัสดุบานพับที่อัปเกรดใหม่ ใช้โลหะผสมจากเซอร์โคเนียมและเหล็กกล้าเกรดอากาศยานที่พัฒนาขึ้นมาเอง ทำให้การพับเรียบเนียน ไร้รอยพับ และมีความแข็งแรงกว่าเดิม ซึ่งสถาบัน TÜV Rheinland รับรองว่าพับไป 1 ล้านครั้ง ก็ยังใช้งานได้ (ใน N2 Flip ยังได้ 400,000 ครั้ง)

ส่วนเรื่องการกางที่เราเคยเจอข้อสังเกตใน N2 Flip ว่ามันยังกางมาก ๆ แล้วโดนน้ำหนักถ่วงจนตกลงมาอยู่นั้น ระยะการกางและพับทำได้ดีขึ้นอยู่พอสมควรเลย แถมรอยพับก็น้อยลงจนถ้ามองตรง ๆ คือไม่เห็นเลย ต้องส่องไฟถึงจะเห็น

ดีไซน์

สัมผัสแรกที่ได้ลองใช้มา OPPO Find N3 รุ่นนี้ทำเรื่องความเบา และบางได้ดีมาก คือแค่ตาเห็นก็รู้เลยว่าบางจริง ถ้าเราเอามาวัดความหนาระหว่างกาง เครื่องจะหนาที่ 5.8 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนตอนพับก็จะได้ ส่วนน้ำหนักเครื่อง จะอยู่ที่ 239 กรัมเท่านั้นเอง คือบางและเบาจนเกือบเท่าสมาร์ตโฟนปกติแล้ว

ส่วนนิยามใหม่อีกอย่างคือกล้องถ่ายภาพ ดีไซน์ของกรอบกล้องหลัง ที่ปรับเป็นแบบกลม ๆ อันนี้เรียกว่า ‘Cosmos Ring’ ว่ามันดูคลาสสิกดีนะ แต่สเปกกล้องนี่ไม่คลาสสิกเลย จัดเต็มระดับเรือธงทุกเลนส์เลย
อย่างด้านบน เป็นกล้องถ่ายภาพหลักเซนเซอร์เรือธงใหม่สุดของ Sony ที่ชื่อ ‘Sony LYTIA-T808’ ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มีกันสั่น OIS

ด้านซ้ายคือกล้องซูมแบบ Periscope เรามีกล้อง Periscope ในสมาร์ตโฟนจอพับกันแล้ว เป็นกล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ที่มีกันสั่น OIS, ซูมแบบ Optical ได้ 3 เท่า และทำ Lossless Zoom หรือซูมแบบไม่เสียความละเอียดได้ 6 เท่า และกล้องมุมกว้างมากด้านล่าง เซนเซอร์ Sony IMX581 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ถ่ายได้กว้าง 114 องศาครับ

กล้อง

อย่างที่รู้กันว่า OPPO เขาจับมือกับ Hasselblad แบรนด์กล้องระดับโลกในการร่วมทำซอฟต์แวร์ถ่ายภาพ ซึ่งภาพจะดีแค่ไหน เดี๋ยวให้ดูภาพที่ถ่ายในงาน Thailand Game Show 2023 x Wonder Festival 2023 Bangkok กัน

การถ่ายภาพบุคคลสามารถถ่ายได้ในระยะ 1 2 และ 3 เท่า โดยภาพที่ออกมา บอกได้เลยว่าสวยงามมากจริง ๆ มีการเก็บการเบลอหลังได้เป็นธรรมชาติ ใกล้เคียงกล้องใหญ่เลย

ส่วนการถ่ายภาพทั่วไป ก็ได้สีที่สวยแบบสมาร์ตโฟนเรือธงเลย เซนเซอร์กล้อง LYTIA ทำได้ดีเลยทีเดียว สีสวย ไม่เว่อเกิน มีการเบลอหลังตามธรรมชาติตามระยะที่เราถ่ายด้วย คือพกเครื่องนี้เครื่องเดียว ใช้ได้เลยหรือจะถ่าย XPAN Mode ที่กองบก.เรารักมากก็ยังมีให้ได้เล่นเหมือนเดิม

ด้านภาพถ่ายซูม นี่เป็นอีกจุดเด่นที่สุดของ OPPO Find N3 เครื่องนี้เลย คือพอเรามีกล้อง Periscope ในสมาร์ตโฟนจอพับเช่นนี้ ทำให้การถ่ายภาพซูมดีขึ้นแบบก้าวกระโดดคือซูมด้วยเลนส์ หรือ Optical ได้ 3 เท่า และใช้ซอฟต์แวร์เพื่อทำ Lossless Zoom ได้ 6 เท่าเลย ลองดูภาพเทียบคู่นี้ดู เพราะนี่คือ 1 เท่า กับ 6 เท่าแล้ว ! ส่วนระยะหวังผลการซูม ให้อยู่ที่ 30 เท่าเลย ถ้าแสงดี ๆ แต่ซูมไกลสุดได้ที่ 120 เท่า

OPPO Find N3 ถ่ายภาพกลางคืนได้ผ่านโหมดกล้องถ่ายภาพทั่วไป และ Night Mode เลยซึ่งแม้จะเป็นโหมดกลางคืน ก็ยังถ่ายภาพกลางคืนแบบซูมได้ด้วยนะ ลองดูภาพเทียบกันดู

ส่วนการถ่ายวิดีโอ สามารถถ่ายได้ความละเอียดสูงสุด 4K 60FPS แล้วพอมีกล้องดี ๆ บนสมาร์ตโฟนจอพับแบบนี้ เราก็สามารถถ่ายแบบกางเครื่อง ใช้กล้องนี้เป็นกล้องถ่ายวิดีโอแบบเห็นตัวเอง ถ่าย Vlog ต่าง ๆ เองได้สบายเลย

กล้องหน้าของ OPPO Find N3 มี 2 ตัว คือกล้องหน้าของจอนอก 32 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าจอใน 20 ล้านพิกเซล ซ่อนอยู่ด้านบนขวาสุดนี้ ซึ่งกล้องหน้าจอใน อยู่ในระดับที่พอใช้ประชุมกับหน้าจอในตอนกางได้ ถ้าใช้กล้องจอนอกจะได้คุณภาพที่โอเคกว่า หรือจะทำอย่างวิดีโอ ที่กางจอนอกมาใช้เป็น viewfinder กล้องหลังถ่ายเซลฟี่ ก็ออกมาสวยเลย

ติดเล็กน้อยตรงที่กล้องหน้าทั้ง 2 ตัวนี้ ถ่ายภาพวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 30FPS เท่านั้น (วิดีโอกล้องจอใน) และไม่ว่าจะความละเอียดไหน ก็ถ่าย 60FPS ไม่ได้เลยซักเลนส์ คุณผู้ชมลองดูคุณภาพภาพและเสียงกัน ว่าแบบนี้โอเคไหม

หน้าจอ

หน้าจอของ OPPO Find N3 แบ่งออกเป็น 2 หน้าจอคือจอนอก และจอใน แต่ไม่ว่าจะจอไหน ก็จัดสเปกมาเต็มทั้งคู่ จอนอก AMOLED ขนาด 6.3 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz แบบ LTPO ความละเอียด 2484×1116 ความสว่างสูงสุด 2800 Nit จอใน AMOLED ขนาด 7.8 นิ้วรีเฟรชเรต 120Hz แบบ LTPO ความละเอียด 2440×2268 ความสว่างสูงสุด 2800 Nit ด้วย

จากที่ลองใช้มา คือคุณภาพของจอด้านนอกและด้านในคือสีสันสวยงาม และสมจริงจากโหมดสี Natural แต่ถ้าอยากได้แบบสีสดใส แนะนำให้ตั้งค่า Vivid สีสดแน่

แน่นอนว่าถ้าแค่ภาพสวย อาจจะหาได้ง่าย ๆ แต่การเป็นสมาร์ตโฟนจอพับใหญ่ที่เป็น ‘นิยามใหม่’ ด้าน Productivity ก็ต้องดีด้วยสิ ! OPPO Find N3 ใช้ ColorOS ที่เขาได้ปรับแต่งมาสำหรับสมาร์ตโฟนจอพับใหญ่แบบนี้มาแล้ว คือมีแถบ Taskbar ด้านล่างให้ได้ใช้ทำงานได้ดีขึ้น โดยเรา

ใช้ปุ่มล่างซ้ายกดเข้าแอปฯต่าง ๆ ได้ทุกแอปฯ แล้ว แถมยังมี Taskbar ด้านล่างให้เลือกแอปฯที่ด้านล่าง (หมุดได้ 4 แอปฯ และโชว์แอปฯที่เปิดล่าสุดได้ 3 แอปฯ) ซึ่งเราสามารถ Multitask ด้วยการใช้ไอคอนล่างซ้าย เลือกแอปฯมาเปิดด้านข้าง คือ Split View แต่พอเราแตะเลือก Expand จะสามารถขยายทั้ง 2 แอปฯ ให้เป็นขนาดจอเต็ม ๆ เหมือนเปิดแอปฯเดียว แล้วเราก็แตะข้ามแอปฯไปมาได้ เรียกว่า ‘Boundless View’ แต่มันไม่จบแค่นั้น เพราะเรายังเพิ่มได้อีกจอด้านล่าง กลายเป็น Boundless View เล่นเต็มจอได้ 3 จอสลับกันเลย ทั้งหมดนี้ว่าสะดวกมาก ๆ กับการใช้ทำงาน หรือเข้าแอปฯต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จากหน้าจอที่ใหญ่ได้ดีเลย ส่วน Split View ก็ Split ออกมาได้ 3 แอปฯ เหมือนกัน ใช้วิธีเดียวกับ Boundless View 3 จอ ก็จะเปิดได้ 3 แอปฯ พร้อมกันเลย

วัสดุรอบเครื่องของ OPPO Find N3 เป็นอัลลูมิเนียมแบบแบนที่สวยงามดีนะ จับถือโอเคเลย ส่วนวัสดุของจอนอก และฝาหลัง อันนี้เป็นกระจกทั้งคู่เลย แต่ฝาหลังเป็นกระจกขัดด้าน ซึ่งสีที่รีวิวอยู่นี้คือ สี Champagne Gold (ทองแชมเปญ) แต่ OPPO ยังมีอีกสีที่นำมาจำหน่ายคือสี Classic Black (ดำคลาสสิค) ที่ใช้วัสดุฝาหลังเป็นหนังแทน ซึ่งจะไม่ใช่เรียบ ๆ แต่มีลายแบบหนังแทน ซึ่งงานประกอบทำออกมาแน่นหนา แต่เบาและบางจริง ตัวเครื่องกันน้ำมาตรฐาน IPX4 เรียบร้อยแล้วด้วย

ส่วนรอบ ๆ ตัวเครื่อง (ตอนกาง) นอกจากปุ่มเปิดปิดที่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ – ปุ่มเพิ่มลดเสียงแบบทั่วไปแล้ว ด้านข้างมี ‘Alert Slider’ ให้สมารถเปลี่ยนโหมดระหว่างเปิดเสียง, เปิดโหมดสั่น และปิดเสียงและสั่น ในการสไลด์ครั้งเดียวได้ด้วยนะ กับพอร์ต USB-C ด้านล่าง

สเปก

และสุดท้าย สมาร์ตโฟนจอพับจะเป็นนิยามใหม่ได้ ‘สเปก’ ต้องดีด้วย OPPO Find N3 ใช้ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 เรือธงเบอร์สุดของปีนี้ พร้อมแรม 16GB และรอมขนาด 512GB อีกด้วย คือระดับเรือธงเบอร์สุดนี่แหละ

ซึ่งการทดสอบ CPU ผ่าน Geekbench 6.2 ได้คะแนน Multi Core ที่ 4,697 คะแนน คือเป็นคะแนนระดับเรือธง ที่ซื้อมาแล้วใช้ได้อีกนานแน่นอน โดยเฉพาะสายทำงาน

ส่วนการทดสอบกราฟิกบน 3D Mark Wildlife Stress Test ที่เน้นทดสอบกราฟิก 20 นาทีต่อเนื่องก็ได้คะแนนสูงสุดที่ 12,518 คะแนน และต่ำสุดที่ 8,313 คะแนน นิ่งที่ 66.4% เป็นตัวเลขที่โอเคอยู่ แต่เกิดความร้อนสูงระหว่างเล่น และเกิดการ Throttle จนความเร็วลดลงไป

ส่วนการทดสอบเล่นเกม Genshin Impact ถ้าปรับสูงสุดที่ 60FPS สามารถเล่นได้โอเคเลย ตัวเครื่องโชว์เฟรมเรตประมาณ 40-50 fps ได้ แถมตอนกางเล่น จอใหญ่แถมไม่เห็นรอยตอนเล่นด้วย แต่เครื่องจะอุ่นเร็วหน่อยนะ

แบตเตอรี่ของ OPPO Find N3 อยู่ที่ 4805 มิลลิแอมป์ เป็นปริมาณที่ถือว่าทำมาได้โอเคเลยสำหรับสมาร์ตโฟนจอพับ ส่วนอายุการใช้งานแบตเตอรี่ คือถ้าใช้งานทั่วไป แบบใช้กล้องถ่ายรูป เล่นโซเชียล ทำงานต่าง ๆ ยาวตั้งแต่ 7.00 จะใช้ได้ถึง 4 ทุ่มเลย (Screen On Time ประมาณ 3 ชั่วโมง) เอาจริง ๆ ตัวเลขนี้ถือว่าพอได้ แต่ชาร์จกลับผ่านหัวชาร์จ​ SUPERVOOC ได้ 67W ที่แถมในกล่องเลย

ข้อสังเกต

ข้อสังเกตที่กองบรรณาธิการแบไต๋เราได้ถือใช้ OPPO Find N3 มาซักระยะหนึ่งคือตัวเครื่องมีกรอบกล้อง Cosmos Ring ที่ค่อนข้างใหญ่ คือถ้าเราใช้ตอนพับเครื่องอยู่ เวลาถือแนวตั้งใช้ได้สบาย ๆ แน่ แต่ถ้าเล่นเกมแนวนอน มือเราอาจจะไปโดนตรงกรอบกล้อง ทำให้ต้องเช็ดกรอบกล้องนี้ก่อนเอาไปถ่ายภาพ

โดยสรุปแล้ว OPPO Find N3 เป็นสมาร์ตโฟนอีกรุ่นที่ทำได้ดีมาก ๆ ในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะกล้องที่ดีถึงขนาดเรียกว่าเป็น King of Photography เลยก็ว่าได้ และเป็นนิยามใหม่ของการพับอย่าง OPPO ไทยว่าไว้จริง ๆ ทั้งเบา ทั้งบาง ทั้งทรงพลัง

ราคา

OPPO ประเทศไทยวางราคาจำหน่ายสมาร์ตโฟนจอพับใหญ่ พับใหม่ครั้งแรกของค่ายในระดับโลก OPPO Find N3 อยู่ที่ราคา 69,990 บาท แน่นอนว่ามือถือเปิดตัวใหม่ทั้งที ของแถมก็ต้องจุก ๆ ด้วย ใครที่สั่งซื้อ OPPO Find N3 ล่วงหน้าระหว่างวันนี้ – 30 ตุลาคมนี้ รับของแถมรวมมูลค่า 44,898 บาทเลย ประกอบไปด้วย OPPO Find N3 Protective Set (เคส PU ที่ไม่เหมือนกับที่แถมในกล่อง และฟิล์ม) OPPO Enco Air3 Pro และ E-VIP Card (2 ปี) แถมไปด้วย เรียกได้ว่าการมาของ OPPO Find N3 นี้ คุ้มค่าการรอคอยจริง ๆ