Our score
7.5OPPO Watch X
จุดเด่น
- หน้าจอ AMOLED สวยชัดเจน
- เคสดูพรีเมียม แข็งแรง
- ชาร์จไว
จุดสังเกต
- เชื่อมต่อ iOS ไม่ได้
-
เรือนสวย ติดขัดการเชื่อมต่อ ยังมีช่องให้พัฒนาอีกเยอะ
7.5
ทุกวันนี้หลายคนมี Gadget ติดตัวมากกว่า 1 ชิ้นหากไม่นับรวมสมาร์ตโฟนที่ทุกคนต้องมีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาและขาดไม่ได้อีกชิ้นคือสมาร์ตวอตช์ ที่ช่วยเชื่อมต่อการใช้งานให้ครบวงจรมากขึ้น แบรนด์ OPPO เองก็ขอเข้าร่วมตลาดนี้ด้วยการเปิดตัวสมาร์ตวอชต์เรือธงอย่าง OPPO Watch X ที่จะเข้ามาเติมเต็ม ecosystem ของแบรนด์ให้ครบยิ่งขึ้น แถมใช้ Google WearOS ด้วย
ดีไซน์
OPPO Watch X สมาร์ตวอตช์ที่ออกแบบมาสำหรับค่าย Android ที่พูดเช่นกันไม่เกินจริง เพราะพัฒนาขึ้นภายใต้ระบบของ WearOS และใช้งานคู่กับแอปพลิเคชัน OHealth ที่รองรับแค่ระบบ Android เท่านั้น ทำให้ยังไม่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนของ Apple ได้เลย แต่จุดเด่นตามสไตล์ค่ายแอนดรอยด์คือมักจะให้อะไรมาเยอะเสมอ อย่างเช่น การใช้ Dual Chipset ครั้งแรกของโลกสมาร์ตวอตช์คือ Snapdragon W5 Gen 1 และ BES2700 เข้ามาช่วยจัดการแบตเตอรี่ขนาด 500 mAh ให้สามารถใช้งานได้สูงสุด 100 ชั่วโมง หรือ 12 วันในโหมด Power Saver (2 วันในโหมด Always on display) แถมยังมาพร้อมกับระบบการชาร์จไวแบบ Watch VOOC ชาร์จเต็มภายใน 60 นาที หรือชาร์จเพียง 10 นาทีก็สามารถใช้งานได้ทั้งวันแล้ว

ตัวเรือนมาพร้อมเคสอะลูมิเนียมและกระจก Crystal Sapphire ที่ดูแข็งแรงทนทาน มาพร้อมระบบ GPS ความถี่คู่ ที่ช่วยจับเส้นทางในการออกกำลังกายได้แม่นยำ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์สำหรับสายสุขภาพอย่าง การตรวจวัดการนอน อัตราการเต้นของหัวใจ ความเครียด รวมถึงวัดปริมาณออกซิเจนในเลือด SpO2 ได้ด้วย

ทดสอบวิ่ง
เราได้ทดสอบการใช้งานสมาร์ตวอตช์ตั้งแต่งาน OPPO Watch X Bangkok City Run งานวิ่งระยะ 5K ที่ทาง OPPO จัดขึ้นให้เหล่านักวิ่ง วิ่งชมบรรยากาศยามเช้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นรอบวัดพระแก้ว พร้อมทดสอบประสิทธิภาพความแม่นยำของระบบ GPS ด้วยการวิ่งตามเส้นทางที่ออกแบบมาเป็นรูป OP ถือว่าทำได้ดีเลย รอยเส้นทางไม่บิดเบี้ยว และจับได้แม่นยำทุกกิโลเมตร

สิ่งที่เราประทับใจใน OPPO Watch X คือการใช้วัสดุ AMOLED ที่ทำให้หน้าจอดูสวยขึ้นทันตา เป็นสิ่งที่ต้องมีในสมาร์ตวอตช์ยุคนี้ แต่ที่ขาดไม่ได้คือการออกแบบฟอนต์ให้อ่านง่าย แม้ตัวอักษรจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ยกขึ้นมาดูก็อ่านค่าได้ชัดเจนดี รวมถึงข้อมูลการออกกำลังกายก็มีครบ ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ เวลา ระยะ เพซ รวมถึงการใช้พลังงาน

นอกจากนี้ยังมีการแบ่งโซนหัวใจให้อ่านค่าได้ง่ายขึ้นว่าหัวใจกำลังทำงานในโซนไหน ยังรองรับโหมดออกกำลังกายกว่า 100 กีฬา แต่จะมีกีฬาเฉพาะทางบางอย่าที่มีเซ็นเซอร์จับท่าทางการออกกำลังกายโดยเฉพาะ เช่น การแกว่งแขนขณะวิ่ง การสโตรกว่ายน้ำ การท่าทางการตีลูกเทนนิสหรือแบดมินตัน

เรามองว่าการผลิตสมาร์ตวอตช์ OPPO Watch X ออกมาให้ผู้ใช้งานเป็นการเติมเต็ม ecosystem ของตัวเองได้อย่างดี เพียงแต่ว่าระบบต่างๆ อาจยังไม่เอื้อให้ผู้ใช้กลุ่มอื่นมากนัก โดยเฉพาะผู้ใช้สมาร์ตโฟน iOS จะไม่สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน OHealth ที่ทำงานควบคู่กับ OPPO Watch X ได้เลย ทำให้การใช้งานจำกัดไปหน่อย อีกจุดที่เรารู้สึกว่ายังติดขัดคือการใส่ปุ่มไดอัลและปุ่มกดมาที่ฝั่งขวาของตัวเรือน เหมือนว่าออกแบบมาให้เฉพาะคนถนัดขวา เนื่องจากผมเป็นคนถนัดซ้าย (ใส่นาฬิกามือขวา) ทำให้การกดปุ่มไม่ค่อยถนัดมือเท่าไหร่นัก
รวมถึงฟีเจอร์บางอย่างที่ให้มาก็ไม่ใช่ของใหม่อะไรนัก แม้ตัวเรือนจะสามารถโหลดแอปพลิเคชันมาเล่นได้เหมือนสมาร์ตโฟน แต่ตัวแอปก็ไม่ได้น่าสนใจหรือช่วยให้การใช้งานสมาร์ตวอตช์สะดวกขึ้นขนาดนั้น ซึ่งหาก OPPO มุ่งมั่นพัฒนาในทางนี้จริง เราคิดว่าต่อไปคงมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาให้ผู้ใช้งานเล่นมากกว่านี้
ราคาและการวางจำหน่าย
OPPO Watch X วางจำหน่ายราคา 11,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีน้ำตาล Mars Brown และสีดำ Platinum Black สามารถลองเล่นสมาร์ตวอตช์เรือธงได้ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ