Our score
8.9iQOO Z9 5G
สมาร์ตโฟมเกมมิงแบบ Sleeper ที่ขอเติมความกล้องสวยใสแบบ vivo ไปอีกนิ้ดดด แต่ตลาดราคานี้แข่งขันสูงเหลือเกิน
นี่คือ iQOO Z9 5G หนึ่งในสมาร์ตโฟนที่คุ้มที่สุด ถ้าแค่อยากจะหาสมาร์ตโฟนเล่นเกมดี ๆ ซักเครื่อง แต่แถมกล้องมาอีกนิ้ด ด้วยชิปเซต Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 และกล้องหลังที่ให้เซนเซอร์มาระดับ Sony IMX882 เลยทำให้แทบจะกลายเป็นสมาร์ตโฟนที่คุ้มที่สุดในไตรมาสเลย แต่ตลาดนี้ก็การแข่งขันสูงเหลือเกิน iQOO Z9 เครื่องนี้จะสู้คนอื่นได้แค่ไหนกันนะ ?
จุดเด่น
- มาพร้อมกับชิปเซตที่แรงเกินค่าตัวอย่าง Snapdragon 7 Gen 3
- จอแบน สีสวย ภาพสวยมาก แถมยังให้มอเตอร์สั่นแบบ Linear
- กล้องถ่ายภาพหลักใช้เซนเซอร์ Sony IMX882 ที่ทำงานกับซอฟต์แวร์แบบ vivo ได้ค่อนข้างดี
- แบตเตอรี่ทนมาก ๆ แถมยังชาร์จกลับได้ไวมากอีกด้วย
- ให้ลำโพงมาเป็นลำโพงคู่บน - ล่าง
จุดสังเกต
- ยังแอบมีโฆษณาในซอฟต์แวร์อยู่พอสมควร
- ซอฟต์แวร์ FunTouchOS ที่ยังมีฟีเจอร์เกี่ยวกับเกมไม่ได้มากนัก และยังไม่สามารถตั้งให้แสดง Frame Rate ได้
- ไม่มีกล้องถ่ายภาพ Ultra Wide
- บอดี้ตัวเครื่องเป็นพลาสติก และเสียงลำโพงยังออกไปทางเรียบ ๆ อยู่
- พอร์ตที่ให้มายังเป็นพอร์ต USB-C 2.0 อยู่
-
หน้าจอ
9.5
-
กล้อง
9.0
-
แบตเตอรี่
9.5
-
เสียง
8.0
-
ประสิทธิภาพ
9.0
-
ดีไซน์
8.5
-
ความคุ้มค่า
9.0
เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ผู้เขียนเพิ่งจะได้รีวิวสมาร์ตโฟนที่เป็นตัวคุ้มที่สุดในไตรมาสแรกของปี 2024 แต่พอเปิดไตรมาส 2 มาได้แค่แป๊บเดียว ตำแหน่งมือถือที่คุ้มที่สุดกำลังจะสั่นคลอนแล้วหรือเปล่า (?) นี่คือ iQOO Z9 5G สมาร์ตโฟนเกมมิงรุ่นกลางจาก iQOO หรือก็คือแบรนด์สมาร์ตโฟนเกมมิงของ vivo นั่นเอง
ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราจั่วหัวว่าเป็นสมาร์ตโฟนเกมมิง จุดโฟกัสของสมาร์ตโฟนในค่ายก็ต้องเน้นการเล่นเกมอยู่แล้ว iQOO Z9 เครื่องนี้ก็เลยอัดสเปกมาแน่นทั้งชิปเซต Snapdragon 7 Gen 3 ที่ทั้งแรง ทั้งเร็ว, หน้าจอ AMOLED 6.78 นิ้ว 144Hz แบบแบน แถมยังมีแบตเตอรี่ขนาด 6,000 มิลลิแอมป์ที่ชาร์จไว 80W อีก ! แต่ iQOO Z9 นี้ แม้จะเป็นรุ่นกลางราคาหมื่นต้น แต่ก็ใส่กล้องถ่ายภาพหลักมาเป็น Sony IMX882 กันเลยทีเดียว ว่ากันด้วยสเปกคือคุ้มกันจนไม่รู้จะคุ้มกันไปไหนแล้ว ! เดี๋ยวเรามาดูกันว่า iQOO Z9 เครื่องนี้ จะคุ้มสมกับที่ให้สเปกมาหรือเปล่า !
สเปกภายในเครื่อง
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว รีเฟรชเรต 144Hz แบบแบน (100% DCI-P3) ความละเอียด 1.5K (2,800 x 1,260) ความสว่างสูงสุด 1,200 nits (HBM) 4,500 Nits (Peak)
- ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 รองรับ 5G
- หน่วยความจำขนาด 256GB UFS 2.2
- RAM: 8GB, 12GB LPDDR4X
- กล้องหลัง 2 ตัว ประกอบไปด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/1.79) เซนเซอร์ Sony IMX 882
- กล้องวัดระยะถ่ายภาพบุคคลความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้องหน้าขนาด 16 ล้านพิกเซล (f/2.4) เซนเซอร์ Samsung ISOCELL 3P9
- แบตเตอรี่ 6,000 mAh พร้อมชาร์จไว 80W vivo FlashCharge
- ซอฟต์แวร์ FunTouch OS 14 (Based on Android 14)
- มีสีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำแฟนทอม แบล็ค (Phantom Black) และสีเขียวบรีซ กรีน (Breeze Green)
- ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 11,499 บาท (8+256GB) และ 12,499 บาท (12+256GB)
สเปกภายในเครื่อง ประสิทธิภาพ และการเล่นเกม
ว่าด้วยเรื่องของการเป็นสมาร์ตโฟนที่เล่นเกม ยังไงสเปกภายในก็เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดอยู่แล้วครับ ดังนั้นเรามาเจาะสเปกภายในเครื่องก่อนเลยดีกว่า คือ iQOO Z9 5G นี้เขาให้ CPU เบอร์แรงเกินค่าตัวมาครับ ด้วยชิปเซต Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 ซึ่งถ้าเป็นสมาร์ตโฟนแบรนด์บ้านเดียวกันอย่าง vivo ก็จะต้องไปเจอกับ vivo V30 ที่จะต้องไปที่ราคาระดับเกือบ 15,000 บาทแล้ว (แต่นี่เริ่มแค่ 11,499 บาทเท่านั้น) แค่เรื่องชิปภายในก็ให้มาแรงมากแล้วสำหรับสมาร์ตโฟนราคาหมื่นต้นแบบนี้ แถมยังใส่ระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ที่มีขนาดใหญ่ถึง 6,043 ตารางมิลลิเมตรอีกด้วยนะ
ส่วนสเปกอื่น ๆ ก็ประกอบไปด้วย แรมขนาด 8 หรือ 12GB แบบ LPDDR4X และหน่วยความจำแบบ UFS 2.2 ขนาด 256GB ซึ่งไม่ว่าจะเป็นระดับไหน ก็ถือว่าเพียงพอมาก ๆ แล้วสำหรับการเป็นสมาร์ตโฟนในปัจจุบันนี้ครับ ทั้งนี้ เครื่องที่เราใช้ทดสอบกันอยู่ตอนนี้ เป็นรุ่นที่ใช้แรมขนาด 12GB นะครับ
ว่าด้วยเรื่องผลการทดสอบแล้ว ก็ถือว่าได้คะแนนที่ดีสมกับชิป Snapdragon 7 Gen 3 นี่แหละครับ ด้วยคะแนนการทดสอบ Geekbench 6.3 ที่ได้คะแนน Multi-Core ที่ 3,182 คะแนน และ Single-Core ที่ 1125 คะแนน และคะแนนการทดสอบ 3DMark Wild Life Stress Test สูงสุดที่ 5,386 คะแนน และต่ำสุดที่ 5,189 คะแนน โดยคะแนนนิ่งถึง 96.3% ในอุณหภูมิสูงสุดที่ 43 องศาเลยทีเดียว ถือว่าตัวเครื่องยังสามารถรักษา Sustain Load เอาไว้ได้นานพอสมควรเลยทีเดียว นอกจากนั้น เราได้ทดสอบการทดสอบชุดใหม่ของ 3DMark อย่าง ‘Steel Nomad Light’ ซึ่งเป็นการทดสอบที่ในปัจจุบันมีไว้เพื่อทดสอบสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ ๆ ที่รองรับการทำงานของ Vulkan เวอร์ชันใหม่กว่า โดย iQOO Z9 เองก็สามารถทดสอบได้เช่นกัน แต่ตัวเครื่องทำคะแนนได้ที่ 496 คะแนนครับ
ทีนี้เราลองมาลงสนามจริงกันบ้าง สำหรับรีวิว iQOO Z9 5G เครื่องนี้ ขอเริ่มจากการทดสอบ Genshin Impact กันก่อน โดยสามารถปรับสุด และสามารถเล่นได้ค่อนข้างลื่นมากอยู่เลยครับ แม้จะดูเฟรมเรตไม่ได้ แต่คาดว่าสามารถเล่นได้อยู่ที่ประมาณ 40-50 FPS อยู่เลยทีเดียว
ต่อด้วยเกมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาไม่นานนี้เองอย่าง Wuthering Waves สามารถปรับการตั้งค่าสูงสุดทุกอย่าง และยังสามารถเล่นได้แบบที่ไม่หงุดหงิดมากนักครับ ยังสามารถเล่นได้แบบสบาย ๆ อยู่ อาจจะมีกระตุกอยู่บ้างเล็กน้อยตอนโหลดฉาก หรือการโหลด Particle ใหญ่ ๆ ต่าง ๆ แต่ก็ยังสามารถเล่นได้ดีอยู่ครับ
หรือจะเป็นเกมมหาชนอย่าง RoV ที่สามารถปรับสุด และปรับ 60FPS ได้แบบสบาย ๆ สามารถเล่นได้แบบที่เครื่องไม่เกิดอาการหน่วงใด ๆ เลยครับ แม้ RoV จะเป็นเกมที่ไม่ได้กินสเปกอะไรมากนัก แต่ iQOO Z9 นั้นสามารถเล่น RoV แบบปรับสุด และเปิดเล่นต่อเนื่องหลักชั่วโมงได้ โดยไม่ได้เกิดอาการกระตุก หรือเฟรมเรตลงต่ำกว่า 60FPS แต่อย่างใดด้วยครับ
และด้วยความที่ว่านี่คือ iQOO ดังนั้น iQOO Z9 5G ก็ยังมีซอฟต์แวร์สำหรับการเล่นเกมเข้ามาเสริมอีก ด้วยโหมด ‘Game Assistant’ ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์สำหรับสายเกมมิง ทั้งโหมด Monster ที่จะเร่งความแรงของเครื่อง แลกกับความร้อนและแบตเตอรี่ของเครื่องที่ใช้มากขึ้น หรืออย่าง ‘4D Game Vibration’ ที่ทำให้เครื่องสั่นตามจังหวะการเล่นของเรา เช่น เรากดสกิลแบบใด ตัวเครื่องก็จะสั่นตามสถานการณ์ในเกมด้วย หรือฟีเจอร์อื่น ๆ ที่สายเกมน่าจะได้ใช้กัน เช่น ปิดการแจ้งเตือน, ไม่ให้สายโทรศัพท์เข้า, ถ่ายภาพหน้าจอ ไปจนถึงอัดวิดีโอหน้าจอ ก็มีให้ได้เปิดใช้กันด้วย อาจจะเป็นข้อดีของการซื้อสมาร์ตโฟนที่เน้นสำหรับการเล่นเกมก็ได้นะ
กับอีกโหมดที่น่าสนใจก็คือ ‘View Enhancement’ ที่จะเร่งสีของภาพในเกมให้ดูสดใสมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมของเราดูดีขึ้นไปด้วยนั่นเองล่ะครับ
โดยรวม ๆ แล้ว การทำหน้าที่เป็นสมาร์ตโฟนเล่นเกมของ iQOO Z9 5G ถือว่าทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดีครับ แม้จะไม่เร็วแรงจนสามารถเล่นได้ทุกเกมแบบลื่น ๆ เป็นเวลานาน แบบสมาร์ตโฟนเรือธง (หรืออย่าง iQOO 12) หรือสมาร์ตโฟนเล่นเกมตัวแรงรุ่นอื่น ๆ แต่ถ้ามองในมุมที่ว่า นี่คือสมาร์ตโฟนราคา 11,499 ที่ใช้เล่นเกม ก็ถือว่าผ่านการทดสอบมากอยู่เลยล่ะ
ดีไซน์รอบตัวเครื่อง
ดีไซน์ของ iQOO Z9 5G นั้น ผมขอใช้คำว่าเป็นดีไซน์ที่เรียบหรู แต่เข้าใจง่ายครับ คือถ้าใครพอจะจำกันได้ ดีไซน์ของเจ้า iQOO Z9 เครื่องนี้ จะออกไปทางละม้ายคล้ายคลึงกับเจ้า iQOO 12 หรือสมาร์ตโฟนเรือธงของค่ายประจำปีนี้นี่แหละครับ ด้วยกรอบกล้องรูปแบบสี่เหลี่ยมมุมมน ที่จะออกมาคล้ายคลึงกับหน้าต่างของเครื่องบินเหมือนกันเลย ในขณะที่ตัวฝาหลังในภาพรวมจะได้ความรู้สึกแบบสมาร์ตโฟน vivo มากกว่าเลยครับ โดยในประเทศไทยจะขายกันอยู่ 2 สีครับ คือสีเขียวที่เรารีวิวกันอยู่นี้ เป็นสี Breeze Green ซึ่งเป็นสีเขียวอ่อน ๆ ออกไปทางคล้ายสี เทอร์คอยส์ (Turquoise) อยู่เหมือนกัน ซึ่งโดยส่วนตัวถือว่าเป็นสีที่ทำมาสวยอยู่นะ ซึ่งฝาหลังทั้งสีนี้ และอีกสีที่ขายในไทยอย่างสี Phantom Black หรือสีดำ ใช้ฝาหลังเป็นกระจกขัดด้านทั้งคู่เลย
ส่วนขอบข้างเครื่องทั้ง 2 สี ก็จะทำขอบข้างเครื่องให้เป็นสีเดียวกับสีเครื่องไปด้วย แม้จะเป็นพลาสติก แต่ให้ความรู้สึกในการจับถือที่ทำได้ดีมากอยู่ครับ ดูแข็งแรง รวมถึงงานประกอบที่ทำออกมาได้ดี ไม่รู้สึกพลาสติกแต่อย่างใดเลย ส่วนพอร์ตรอบ ๆ เครื่องก็วางเหมือน ๆ กับกับสมาร์ตโฟนรุ่นอื่น ๆ ของ vivo ครับ ด้วยการวางปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ด้านขวา และเอาพอร์ต USB-C 2.0 ช่องใส่ซิม (ได้ 2 ซิม และเพิ่ม MicroSD Card ไม่ได้) ลำโพง และไมโครโฟนไว้ด้านล่างแทน ด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และด้านข้างซ้ายก็ปล่อยโล่งไป แถมตัวเครื่องผ่านมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นที่ IP64 อีกด้วย คือกันฝุ่นครบรอบด้าน แต่กันน้ำได้ที่ระดับละอองฝนครับ
ด้านดีไซน์รวม ๆ ถือว่าทำออกมาไม่ได้โดดเด่นมาก ไม่ได้ดูเกมเมอร์จ๋า ๆ แบบสมาร์ตโฟนสายเกม ถ้าในวงการเขาจะชอบเรียกกันว่าเป็นดีไซน์แบบ ‘Sleeper’ หรือเรียกว่าเน้นทรงเรียบง่าย แต่ข้างในแรง ๆ โหด ๆ มากกว่าครับ ที่จะให้เป็นข้อดีจริง ๆ ก็มาจากอานิสงส์ของฟีเจอร์ 4D Game Vibration ที่ทำให้เครื่องสั่นตามจังหวะการเล่นเกมของเรา ทำให้มอเตอร์สั่นของ iQOO Z9 5G เป็นมอเตอร์สั่นแบบ Linear ด้วย ซึ่งเวลาเราใช้งานโดยทั้่วไป หรือการพิมพ์แชตต่าง ๆ ออกมาดีไปด้วย หรือการถือใช้ที่รู้สึกพรีเมียมอยู่นะ
หน้าจอ
หน้าจอของ iQOO Z9 5G นี้คือหน้าจอที่แทบจะเรียกได้ว่าให้มาเต็มมาก ๆ ไม่แพ้สเปกในเครื่องเลย เพราะนี่คือจอ OLED LTPS ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2,800 x 1,260) รีเฟรชเรต 144Hz ที่ให้ความสว่างสูงสุด 4,500 nits เลยทีเดียว แถมยังให้ PWM Dimming ที่ 3840 Hz อีกด้วย คือให้หน้าจอมาแรงเหมาะกับการเล่นเกมที่ต้องมองหน้าจอนาน ๆ นี่แหละ ว่ากันง่าย ๆ เลย ซึ่งที่สำคัญมาก ๆ ก็คือ นี่เป็นหน้าจอแบบแบนอีกด้วย ! ในด้านสเปกของหน้าจอถือว่าผ่านแน่นอน
แต่ที่ผ่านมากกว่าคือเวลาเราใช้งานมันจริง ๆ ครับ เพราะหน้าจอนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างดีมากเลยทีเดียว นอกจากความเป็นหน้าจอแบนที่ทำให้หาฟิล์มติดได้ง่าย ๆ สบาย ๆ แล้ว ความคมชัด สี และความลื่นไหลของหน้าจอ ก็ทำออกมาได้ดีเช่นเดียวกันเลย คือใช่ว่าหน้าจอนี้จะเอาไว้เล่นเกมได้อย่างเดียว แต่แค่เอามาใช้เป็นเครื่องใช้งานทั่ว ๆ ไป เล่นโซเชียล หรือกระทั่งมาเสพคอนเทนต์ ถือว่าเอามาใช้ได้แบบสบาย ๆ แน่นอน โดยเฉพาะเรื่องของสีที่เลือกทำให้ออกมาดูไม่สดและไม่ซีดจนเกินไปอีกด้วย แถมการที่หน้าจอรีเฟรชเรต 144Hz นั้น ยังทำให้นี่เป็นสมาร์ตโฟนราคาหมื่นต้น ที่หน้าจอดีมาก ๆ รุ่นหนึ่งเลยล่ะครับ
ซึ่งด้วยความที่นี่เป็นหน้าจอแบบ OLED ด้วย ทำให้หน้าจอรองรับการใส่เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบแสงใต้หน้าจอมาให้ด้วย ซึ่งการสแกนก็ทำได้ค่อนข้างเร็วดีอยู่เช่นกันครับ
กล้องถ่ายภาพ
ถ้าใครได้อ่านรีวิวสมาร์ตโฟนระดับกลางมาเยอะ ก็น่าจะได้เห็นกันอยู่ว่า เวลาสมาร์ตโฟนระดับกลางให้ของส่วนไหนมามาก ๆ จะต้องมีบางส่วนที่โดนลดลงไปบ้างครับ ซึ่ง iQOO Z9 5G เครื่องนี้ ก็ได้มีการลดสเปกของกล้องถ่ายรูปออกไปบ้างแทนครับ โดยปกติแล้ว สมาร์ตโฟนในเรตราคาหมื่นต้น ๆ มักจะมาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพมุมกว้างมาก หรือบางรุ่นก็อาจจะมีกล้องถ่ายภาพซูมมากันแล้ว แต่ iQOO Z9 5G เครื่องนี้ ให้กล้องหลังมาแค่กล้องถ่ายภาพหลัก (ที่ก็ไม่ได้ธรรมดานะ เป็นเซนเซอร์ Sony IMX882 เลยด้วย) และกล้องวัดระยะถ่ายภาพบุคคลความละเอียด 2 ล้านพิกเซลเท่านั้นครับ
ซึ่งแม้ผมจะบอกว่านี่คือสมาร์ตโฟนที่ให้กล้องมาค่อนข้างน้อย แต่ชื่อบทความเราก็บอกอยู่ว่านี่คือมือถือเล่นเกมที่แอบถ่ายรูปได้นิดหน่อย เหตุผลนั่นก็เป็นเพราะการ ‘Post-Processing’ ที่ดีในแบบฉบับของ vivo ที่มีความสามารถมาก ๆ ในด้านการประมวลผลภาพหลังจากถ่ายมาแล้วครับ ดังนั้นคุณภาพของภาพ เดี๋ยวเราลองมาดูกันทีละโหมด จากการไปส่องที่ประเทศไต้หวัน ผ่านเลนส์ของ iQOO Z9 5G เครื่องนี้กันครับ
การถ่ายภาพทั่วไป
การถ่ายภาพโดยทั่ว ๆ ไปนั้น ถ้าอยู่ในสภาพแสงที่ดี ถือว่าสามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยงามมากอยู่ครับ โดยเฉพาะการเก็บเรื่องของสี ความสว่าง และความคมชัดของภาพในภาพรวมครับ ถือว่าการทำงานร่วมกันระหว่างเซนเซอร์ IMX882, ชิปเซต Snapdragon 7 Gen 3 และซอฟต์แวร์ FunTouchOS นั้น สามารถทำออกมาได้อย่างดีเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะถ่ายธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยว อาคารบ้านเรือน หรือถ่ายวัตถุใกล้ ๆ หน่อย ก็เก็บภาพออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียวครับ แต่กล้องถ่ายรูปจะเริ่มเกิดปัญหาอยู่บ้าง ก็ตอนเจอสภาพแสงน้อย ๆ หรือการถ่ายวัตถุ หรืออาคารที่บางครั้งภาพที่ออกมาจะได้สีที่ไม่ได้ตรงกับที่ตาเราเห็นอยู่บ้างในบางช็อตครับ คือออกมาสวยนะ แต่อาจจะอมฟ้า ๆ อยู่บ้างเป็นบางส่วนนั่นเอง กดที่ภาพเพื่อดูภาพเต็ม และเลื่อนดูรูปถัด ๆ ไปด้วยนะ
ซึ่งจุดที่ผู้เขียนไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่อาจจะเป็นปัญหากับบางคนอยู่บ้าง คือการที่สไตล์การถ่ายรูปของกล้องหลังนั้น ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากมายนักครับ นอกจากฟิลเตอร์สีขาวดำ และฟิลเตอร์ภาพถ่ายแบบฟิล์มเท่านั้น โดยรวม ๆ แล้วกล้องถ่ายภาพทั่วไป เหมาะเอาไว้ใช้กับการเอามาถ่ายภาพทั่ว ๆ ไป ไว้ลงโซเชียลต่าง ๆ มากกว่าสมาร์ตโฟนรุ่นอื่น ๆ ที่เน้นกล้อง หรือกระทั่งสมาร์ตโฟนของ vivo เองที่เน้นการถ่ายภาพคน เป็นต้น
แต่ iQOO Z9 5G ก็ยังสามารถแสดงความเป็นตัวตนด้วยลายน้ำของภาพแบบที่บอกรายละเอียดในภาพได้หมด ทั้งระยะการถ่าย f-stop สปีดชัตเตอร์ และอื่น ๆ โดยสามารถแก้ได้ตั้งแต่ในหน้ากล้องถ่ายภาพเลยด้วยครับ
การถ่ายภาพซูม
ส่วนการซูม ก็ยังสามารถถ่ายได้จากการครอปภาพจากเซนเซอร์หลักแทนนะ เพราะไม่ได้มีกล้องถ่ายภาพซูมเป็นพิเศษ โดยสามารถถ่ายได้ลึกสุดที่ 10 เท่า แต่อาจจะไม่ได้ซูมเก่งอะไรมากนักนะ ระยะหวังผลน่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 5 เท่าครับ จากภาพจะเป็นภาพที่ถ่ายในระยะ 1x, 2x, 5x และ 10x ครับ
การถ่ายภาพบุคคล
อีกอย่างที่ซอฟต์แวร์แบบของ vivo ทำออกมาได้ดูดีมาก ๆ คือการถ่ายภาพบุคคลเลยครับ เพราะว่านี่คือสมาร์ตโฟนที่สามารถถ่ายภาพบุคคลได้ออกมาค่อนข้างโอเคอีกรุ่นหนึ่งเลย แม้จะไม่มีเลนส์ซูมเพื่อถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะก็ตาม โดยสามารถถ่ายได้ที่ระยะ 1x และ 2x ครับ ยังเก็บสกินโทนของภาพได้ดี เบลอหลังได้ค่อนข้างถูกต้องตามระยะจริงของแบบ ไปจนถึงยังสามารถถ่ายภาพคนออกมาได้ค่อนข้างโอเคเลยด้วย ลองดูตัวอย่างภาพชุดนี้กันดู
เซลฟี
ซึ่งเรื่องนี้ก็ตามมาถึงการถ่ายเซลฟีด้วยเหมือนกันนะ คือยังเก็บสกินโทนได้ค่อนข้างดี แม้จะทำให้ฉากด้านหลังดูแปลก ๆ อยู่บ้างก็ตาม โดยกล้องหน้าให้ความละเอียดมาแค่ 16 ล้านพิกเซลนะ แต่คุณภาพของภาพคนในภาพเซลฟียังถือว่าสามารถนำไปใช้ได้อยู่เช่นกัน (หรือจะเปิดบิวตี้ให้ดูสวยงามมากขึ้นก็ได้เหมือนกันนะ)
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของ iQOO Z9 5G ให้ขนาดมาใหญ่เบิ้มกว่าสมาร์ตโฟนรุ่นอื่น ๆ ในเรตราคาเดียวกัน ไปจนถึงสมาร์ตโฟนเรือธงเลยด้วยนะ เพราะได้ให้มามากถึง 6,000 มิลลิแอมป์เลยทีเดียว แถมที่สำคัญ คือยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่กลับได้ที่ความเร็ว 80W vivo FlashCharge อีกต่างหาก เป็นตัวเลขที่ vivo เคลมว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 5 นาที ก็เล่นโซเชียลมีเดียได้เป็น 5 ชั่วโมงเลยด้วยนะ
ซึ่งจากที่เราได้ลองใช้งานจริง ๆ มา โดยใน 1 วัน ได้ใช้งานตั้งแต่การเล่น RoV ไปร่วม 2 ชั่วโมง และใช้งานทั่ว ๆ ไป รวม Screen On Time 4 ชั่วโมง 8 นาที และใช้งานยาวนานข้ามวัน รวม 1 วัน 2 ชั่วโมง 5 นาที ก็ยังมีแบตเตอรี่เหลืออีก 68% ! คือเป็นปริมาณที่สามารถใช้งานได้ยาวนานมากแน่นอน ถ้าไม่ได้เล่นเกม แต่ถ้าเล่น ก็ยังสามารถใช้งานได้นานอยู่เหมือนกันนะ
ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่กลับ ที่เพราะว่าแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้นขนาดนี้ จากที่ลองจับเวลาชาร์จแบตเตอรี่มา สามารถชาร์จจาก 6% – 100% ได้ภายในเวลา 55 นาทีเท่านั้น !
สรุปส่งท้าย
ในภาพรวมแล้ว iQOO Z9 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟนอีกรุ่นที่ให้ความคุ้มมาหนักแน่นมาก โดยเฉพาะกับสายเกม ที่อยากได้สมาร์ตโฟนสักเครื่องไว้เล่นเกม หรือใช้งานทั่ว ๆ ไปครับ แม้ว่าในไตรมาสที่ 2 นี้ จะมีคู่แข่งที่ถือว่าสูสีเข้ามาแข่งขันในตลาดสมาร์ตโฟนเกมมิงราคาประหยัดอยู่บ้าง แต่รุ่นนี้จะได้จุดเด่นที่กล้องถ่ายภาพที่มากกว่า แบตเตอรี่ที่มากกว่าและชาร์จไวกว่า แต่ในด้านสเปกถือว่าสูสีกันมาก ๆ ระหว่างคู่นี้ครับ ซึ่งถ้าถามว่า นี่คือสมาร์ตโฟนที่คุ้มที่สุดในไตรมาสนี้ไหม คงจะยังไม่ใช่ แต่เชื่อเถอะว่า ถ้ามีคนถามว่า “ถ้ามีงบประมาณแค่ 10,000 บาทถ้วน ควรซื้อสมาร์ตโฟนรุ่นไหนดี ?” แล้วล่ะก็
ผมว่า iQOO Z9 5G คือสมาร์ตโฟนตัวเลือกแรก ๆ ที่ผมอยากจะแนะนำแน่นอน
มาว่าเรื่องราคากันครับ อย่างที่บอกว่านี่คือสมาร์ตโฟนที่อยู่ในเรตราคาที่ค่อนข้างคุ้มมากอยู่ครับ โดยราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยนั้น จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อยครับ โดย
- iQOO Z9 5G รุ่นความจุ RAM 8GB + ROM 256GB วางจำหน่ายที่ราคา 11,499 บาท (เฉพาะซื้อผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น)
- iQOO Z9 5G รุ่นความจุ RAM 12GB + ROM 256GB วางจำหน่ายที่ราคา 12,499 บาท (วางจำหน่ายทั้งช่องทางออนไลน์และหน้าร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วไป)
โดยราคาข้างต้นนี้คือราคาวางจำหน่ายแบบเป็นทางการในช่วงเปิดตัวครับ ยิ่งถ้าเราซื้อในช่วงหลังที่มีการวางจำหน่ายมาสักพักแล้ว ราคาเครื่องจะยิ่งถูกลงจนสามารถหาโค้ดลดจนราคาต่ำกว่า 10,000 บาทก็ได้เช่นกัน
ช่องทางการสั่งซื้อ:
- Shopee vivo Official Store และ iQOO Official Store
- Lazada vivo Official Store และ iQOO Official Store
- TikTok Shop vivo ประเทศไทย
- และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศไทย !