Our score
7.5

[รีวิว] CMF Watch Pro นาฬิกาดี แต่ไม่สุด ไม่ขายไทย รอรุ่น 2 ขายไทยทางการ

จุดเด่น

  1. น้ำหนักเบา
  2. หน้าปัดนาฬิกามีหลายแบบ
  3. วัสดุเกินราคา

จุดสังเกต

  1. แบตเตอรี่ไม่อึดเมื่อเปิดโหมด Always-On Display
  2. แบตเตอรี่ชาร์จช้า
  3. ฟังก์ชันไม่เยอะสมชื่อรุ่น Pro
  • หน้าจอ

    7.5

  • แบตเตอรี่

    7.0

  • ฟังก์ชัน

    7.0

  • วัสดุ

    8.5

เป็นที่รู้กันว่าแบรนด์ Nothing ก็มีซับแบรนด์ หรือแบรนด์ลูกที่จำหน่ายสินค้าราคาถูกกว่าแบรนด์ใหญ่อย่าง CMF by Nothing ซึ่งสินค้าที่เขามาตลาดไทยตัวแรกก็คือ CMF Watch Pro แต่สินค้าตัวนี้ดันไม่ขายไทย และเป็นของแถมลิมิเตดสำหรับผู้ซื้อ Nothing 2a ล็อตแรกเท่านั้น

CMF คือแบรนด์อะไร ?

กิมมิตของซับแบรนด์อย่าง CMF by Nothing ก็คือ C-M-F ของตัวอักษรชื่อแบรนด์ ซึ่ง C : Color สี, M : Material วัสดุ และ F : Finish สัมผัส อีกทั้งแบรนด์ก็มีเป้าหมายเจาะกลุ่มสินค้า IT ราคาถูก ออกแบบดี และเข้าถึงง่าย

สำหรับการรีวิว CMF Watch Pro ในครั้งนี้จะมาสรุปแบบสั้น ๆ รวบยอดจากการใช้งานจริง และทั่วไปในชีวิตประจำวัน โดยผู้รีวิวให้คำสั้น ๆ กับนาฬิการุ่นนี้ว่า “ดี-ไม่สุด-ราคาแพงไปหน่อย” (เทียบจากราคาต่างประเทศประมาณ 2,500 บาท)

Part 1 : ดี

ข้อดีของนาฬิกา CMF Watch Pro ตัวนี้คือ สวมใส่สบายไม่อึดอัดมาก สามารถปรับการล็อกสายรองรับหลากหลายขนาดข้อมือ สายนาฬิกาออกแบบสวยมีลวดลายของแบรนด์บนสาย วัสดุยางคุณภาพใช้ได้ถึงขั้นดีเกินราคาเลยล่ะ และน้ำหนักของนาฬิกาที่เบา ใส่ทั้งวันไม่หนักข้อมือ เพราะมาจากวัสดุเรือนนาฬิกาที่ทำจากอะลูมิเนียม

ด้านของการดีไซน์ตัวเครื่องจะแอบบอกว่าเหมือนแบรนด์ ผลไม้ เจ้าหนึ่งก็เรียกได้ ใส่เดินออกไปข้างนอกก็เรียกว่าเนียน ๆ ได้ และด้านข้างของนาฬิกามีแค่ ปุ่ม สำหรับการเปิดหน้าจอ เรียกเมนูรวมที่ทำงานในปุ่ม ๆ เดียว และลำโพงข้างเรือนเท่านั้น ใช้ได้สำหรับการสนทนาโทรศัพท์ และส่งเสียงเพื่อแจ้งเตือนว่านาฬิาอยู่ตรงไหนที่สามารถกดเพื่อเรียกจากแอปฯ CMF Watch

อีกหนึ่งจุดที่ผมนั้นชอบของ Watch Pro ตัวนี้คือ หน้าปัดนาฬิกา ที่ทาง CMF by Nothing ได้ออกแบบ มีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก แทรกไปด้วย สีส้ม ดำ ขาว และลายกราฟิก วงกลม วงกลมจุด และวงกลมทึบในแต่หน้าปัด โดยการเปลี่ยนหน้าปัดก็สามารถเปลี่ยนได้บนนาฬิกา และเปลี่ยนได้ผ่านแอปพลิเคชัน CMF Watch

ในส่วนของการใช้แอปฯ CMF Watch ก็เรียบง่ายตามสไตล์ของ Nothing มีหน้ารวบรวม Activity หน้าออกกำลังกาย วัดการนอน วัดออกซิเจน วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และความเครียด

ในส่วนของหน้าการปรับแต่งหน้าปัดนาฬิกา ภายในแอปฯ CMF Watch มีให้เลือกเปลี่ยนสำหรับ CMF Watch Pro มากกว่า 30 แบบเลยทีเดียวล่ะ

Part 2 : ไม่สุด

ซึ่งคำนี้ผมก็ให้มาจากเรื่องของแบตเตอรี่ และความลูกเล่นที่น้อยของนาฬิกาตัวนี้ ประการแรกแบตฯ เปิดโหมดหน้าจอ Always-On แบตฯ ไม่ค่อยอึดเท่าไหร่ใช้ได้ไม่ถึง 2 วันก็หมดแล้ว และการชาร์จนาฬิกาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ใช้รูปแบบขั้วแม่เหล็กเล็ก ๆ เพื่อการชาร์จ อีกทั้งยังชาร์จช้ามาก ๆ อีกด้วย

ประการที่ 2 เรื่องของลูกเล่นที่น้อยมีเพียงแค่ฟังก์ชันเบื้องต้นของสมาร์ตวอตช์รุ่นเริ่มต้น เช่น ออกกำลังกาย วัดการนอน วัดออกซิเจน วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และความเครียดเท่านั้น เลยดูไม่สมชื่อกับคำว่า Watch Pro สักเท่าไหร่นะ

Part 3 : ราคาแพงไปหน่อย

โดยนาฬิกา CMF Watch Pro รุ่นนี้เปิดขายราคาประมาณ 2,500 บาทเมื่อเทียบกับระดับเดียวกันที่ขายในไทยนั้นเรียกได้ว่าสู้ยากจริง ๆ เพราะบางรุ่นนั้นมีราคาไม่ถึง 2,000 ก็มีฟังก์ชันการทำงานที่คล้ายคลึงกัน เรียกได้ว่ารุ่นใหม่ CMF Watch Pro 2 ที่กำลังจะเปิดตัววันที่ 8 กรกฎาคมนี้จะมาแก้เกมรุ่นนี้ได้ไหม เพราะรุ่นใหม่ที่กำลังจะมาก็มีการรีดีไซน์ใหม่หน้าปัดกลม แถมยังสามารถหมุดหน้าปัดนาฬิกาได้ด้วยตามภาพโปรโมตที่ลงล่าสุด

สรุปสุดท้ายสำหรับตลาดประเทศไทย และแฟน Nothing ที่กำลังรอการมาของ CMF by Nothing ก็รอติดตามได้เลยเพราะ CMF Phone ก็มีการจดทะเบียนกับทาง กสทช. เรียบร้อยไว้แล้ว

อีกทั้งยังหวังว่าอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เจ้าเขาทั้งหมดเลยนะ เพราะอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ อย่างหูฟังไร้สาย และหัวชาร์จน่าสนใจไม่แพ้กันเลย