[รีวิว] Dell Precision 5690 โน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันที่ลงตัว สวย แรง เสถียร ปลอดภัย ในระดับมืออาชีพ

จุดเด่น

  1. ดีไซน์พรีเมียม
  2. พกพาสะดวก
  3. ประสิทธิภาพแรงระดับมืออาชีพ
  4. ความปลอดภัยระดับองค์กร
  5. ซอฟต์แวร์เสริมมีประโยชน์ ใช้ได้จริง

จุดสังเกต

  1. เห็นสายแพบริเวณบานพับ
  2. ไม่มีปุ่มลัดปิดกล้องเว็บแคม

Dell Precision 5690 เป็น “โน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชัน” ที่มีความลงตัวในหลาย ๆ ด้าน ตั้งแต่ดีไซน์ที่ดูพรีเมียม แถมพกพาสะดวก, ประสิทธิภาพและความเสถียรที่วางใจได้, ความปลอดภัยที่รัดกุมระดับองค์กร และวัสดุที่ใช้ก็คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งทุกอย่างถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานเฉพาะทางระดับมืออาชีพ เช่น สถาปัตยกรรม, วิศวกรรม, งานออกแบบ 3 มิติ, งานตัดต่อวิดีโอ, งานสร้างแอนิเมชันและสร้างเกม, งานด้านการแพทย์ รวมถึงงานด้านวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างโมเดลปัญญาประดิษฐ์ เรียกว่าเป็นโน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันที่น่าใช้มาก ๆ อีกหนึ่งรุ่น 

สเปกของ Dell Precision 5690 

dGPUNVIDIA® RTX™ 4000 Ada | 12GB | GDDR6
CPU + iGPUIntel Core Ultra 7 165H + Intel Arc Graphic 
RAM32GB (LPDDR5x 7467 MT/s)
Storage1TB M.2 PCIe 4.0 NVMe SED
DisplayOLED 16 inches UHD+ (3840 x 2400) | 16:10 | 60Hz | 100% DCI-P3 | 400 nits (Touchscreen)
Battery100 Whr Lithium battery (Support Type-C 140W Charger)
OSWindows 11 Pro
Wi-Fi & BluetoothIntel Wi-Fi 7 BE200 2×2 + Bluetooth
Dimensions35.3 x 24 x 2.21 cm.
Weight2.17 kg.
Speakers & Microphone4 x Speakers | 4 x Microphone
Camera1080p (FHD) + IR Camera 
Port2 x Thunderbolt 4 | 1 x USB-C 3.2 | 1 x HDMI 2.1 | 1 x SD card reader | 1 x 3.5mm audio

ดีไซน์

ต้องบอกว่าครั้งแรกที่เห็น Dell Precision 5690 ก็รู้สึกประทับใจในภาพรวมเลยล่ะ เพราะไม่คิดว่าโน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันที่ปกติจะดูเทอะทะ จะมีรูปลักษ์ที่ดูมินิมอล ไม่ต่างจาก Dell XPS โน้ตบุ๊กพรีเมียมที่ออกแบบมาให้ผู้บริหารใช้ (ใครไม่เห็นภาพลองเซิร์ชหาได้)

การออกแบบฝาหลัง Dell เขาทำให้ดูเรียบหรู มีแค่โลโก้ไว้ตรงกลางเท่านั้น ส่วนใต้เครื่องก็มีแค่ช่องดูดอากาศสำหรับระบายความร้อนและช่องลำโพง ส่วนด้านข้างก็เป็นแบบขอบตัดที่มีการไล่ระดับความเอียงที่จับแล้วรู้สึกสบายมือ ตัววัสดุเองก็น่าสนใจ แม้จะทำจากอะลูมิเนียมเหมือนกัน แต่มาจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 75% ผสมกับอะลูมิเนียมที่ผลิตจากกระบวนการปล่อยมลพิษต่ำอีก 25% นอกจากส่วนที่เป็นพลาสติก 18% ก็มาจากการรีไซเคิลวัสดุที่ผ่านการใช้งานแล้ว (PCR) อีกด้วย

ขนาดและน้ำหนักเองก็เป็นหนึ่งเรื่องที่ Dell Precision 5690 ทำออกมาได้ดี โดยความหนาอยู่ที่ 2.21 ซม. และน้ำหนักอยู่ที่ 2.17 กก. เท่านั้น ถือว่าค่อนข้างบางและเบา พกพาได้ค่อนข้างสะดวก หากเทียบกับโน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันทั่วไปที่จะหนาประมาณ 2.5 ซม. และหนักราว 2.7 กก. นอกจากนี้ตัวอะแดปเตอร์จ่ายไฟ 140W เองก็ยังมีขนาดที่เล็กมาก ๆ ไซซ์พอ ๆ กับ Powerbank 30,000 mAh เลยล่ะ ยิ่งทำให้การพกพาสะดวกยิ่งขึ้น

ในภาพรวมคิดว่า Dell Precision 5690 มีดีไซน์และขนาดที่ลงตัวกับการถือใช้งานในทุกสถานการณ์ ในบ้านก็ดูเข้ากับโต๊ะที่จัดแบบมินิมอล ถ้ายกไปร้านกาแฟก็ดูดี หรือถ้าหยิบไปคุยงานกับลูกค้าก็ช่วยเสริมภาพลักษณ์ นอกจากนี้ยังรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน

พอร์ตเชื่อมต่อ

กับการทำงานเฉพาะทางเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น External SSD, External Monitor รวมถึงต้องต่อสายชาร์จไปพร้อม ๆ กัน ซึ่ง Dell Precision 5690 เองก็ให้พอร์ตมาค่อนข้างครบเลยล่ะ มีทั้ง Thunderbolt 4.0 (40 Gbps) จำนวน 2 พอร์ต ที่นอกจากรับส่งข้อมูลได้แล้ว ยังเสียบชาร์จไฟและต่อหน้าจอแยกได้ รวมถึงมี HDMI 2.1 สำหรับต่อหน้าจอแยก และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. อีกด้วย 

ส่วนอีกฝั่งก็จะมีช่อง USB-C 3.2 Gen 2 ที่มีทุกอย่างเหมือนกับ Thunderbolt แต่จะเร็วไม่เท่า จุดที่ชอบคือรุ่นนี้มี SD Card Reader ในตัว ทำให้คนที่ทำงานตัดต่อหรือแต่งภาพสามารถดึงไฟล์จาก SD Card ได้สะดวกขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีตัวเลือก (Optional) สำหรับ Smart-card reader ไว้อ่านชิปที่อยู่บนบัตรด้วยนะ

เอาจริงๆ คิดว่า Dell Precision 5690 ขาดแค่พอร์ต USB-A อย่างเดียวเลย ถ้าเกิดต้องเสียบพวก Security Key ที่หัวเป็น USB-A ก็จะต้องหาดองเกิลมาเสียบ และส่วนตัวก็คิดว่ายังมีพื้นที่พอจะให้ใส่เข้าไปด้วย

หน้าจอ & ลำโพง

เรื่องหน้าจอก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่คนทำงานเฉพาะทางระดับมืออาชีพให้ความสำคัญ เพราะงานบางสายที่เกี่ยวกับสิ่งพิมพ์หรือภาพยนตร์ ซีเรียสกับเรื่องความเที่ยงตรงของสีมาก ชนิดที่ว่าผิดเพี้ยนนิดเดียวก็ไม่ได้ หน้าจอก็เลยมีความสำคัญมาก ด้วยความที่ Dell Precision 5690 เป็นเครื่องเวิร์กสเตชันที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานที่ครอบคลุม สเปกหน้าจอเลยมีให้เลือก 2 ประเภทคือ IPS สำหรับการใช้งานทั่วไป และ OLED สำหรับกลุ่มที่จริงจังเรื่องสีสันโดยเฉพาะ

ซึ่งเครื่องที่เราได้มารีวิวเป็นหน้าจอประเภท OLED กับค่าการแสดงสีสันระดับ 100% DCI-P3 ซึ่งเป็นค่าสีมาตรฐานที่ใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เรื่องการแสดงสีสันจึงถือว่าตอบโจทย์ นอกจากนี้ถ้าเราต้องทำงานร่วมกับอุปกรณ์ของคนอื่นที่มีค่าสีจำพวก sRGB ก็มีซอฟต์แวร์ Dell Monitor ไว้ปรับให้ตรงกันได้ โดยตัวเลือกก็จะมี sRGB, Adobe RGB, DCI-P3, SD และ HD Video

ส่วนความกว้างก็อยู่ที่ 16 นิ้ว 60Hz บนสัดส่วน 16:10 กับความคมชัด UHD+ (3840×2400) หรือก็คือ 4K นั่นแหละ จากที่ได้ลองใช้มาก็รู้สึกว่ายังไง 16 นิ้วก็เหมาะกับการทำงานมากกว่าจอเล็ก ๆ เพราะมีพื้นที่ใช้งานเยอะ และยังคมชัดมาก เวลาทำงานมองจอนาน ๆ ก็ไม่ได้รู้สึกปวดตาหรือต้องเพ่งเลย แต่ถึงอย่างนั้นข้อเสียของจอนี้อย่างเดียวคือความสว่างมีเพียง 400 nits ที่เหมาะกับการใช้ในร่มเท่านั้น ส่วนตัวคิดว่าถ้าต้องทำงานกลางแจ้ง หรือที่ ๆ มีแสงเยอะ ๆ ความสว่างนี้อาจจะไม่เพียงพอ 

อีกเรื่องที่ต้องพูดถึงคือระบบเสียงที่มีลำโพงมาให้ถึง 4 ตัว แยกเป็นลำโพงเสียงกลาง-แหลม 2 ตัว ที่แผงข้างคีย์บอร์ด และลำโพงเสียงเบสอีก 2 ตัว ที่ใต้เครื่อง ทำให้มีรายละเอียดและมิติเสียงที่กว้าง และมีความดังมากเท่าที่โน้ตบุ๊กหนึ่งเครื่องจะมีได้ กับการประชุม หรือฟังเสียงตอนตัดต่อถือว่าให้คุณภาพเสียงดี แต่ถ้าต้องทำงานจริงจัง อย่าง Sound engineering อันนี้ก็ต้องพึ่งอุปกรณ์แยกอยู่ดีครับ 

เว็บแคม & ไมโครโฟน 

ก่อนหน้านี้เราพูดถึงลำโพงกับการประชุมไปว่าเสียงดีใช่ไหมครับ ส่วนนี้ก็จะมาเล่าต่อในส่วนของเว็บแคมและไมโครโฟนไปด้วยเลย ตามสเปกแล้ว Dell Precision 5690 มากับกล้องเว็บแคม 1080p คู่กับระบบอินฟราเรด IR สำหรับใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกเครื่องผ่าน Windows Hello รวมถึงฟีเจอร์ป้องกันคนแอบมองหน้าจอด้วย จุดนี้ก็ช่วยเรื่องความปลอดภัยในระดับหนึ่ง ส่วนคุณภาพของกล้องเว็บแคมเองก็ถือว่าคมชัดมากพอสำหรับการประชุม และยังมีฟีเจอร์ช่วยลดจุดรบกวนให้ได้ปรับใช้อีกด้วย

ด้านไมโครโฟนก็มีมาถึง 4 ตัว แบ่งเป็น 2 ตัวแรก สำหรับรับเสียงพูด และอีก 2 ตัว สำหรับใช้กับฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน เวลาใช้อัดเสียงหรือประชุมออนไลน์ก็จะทำให้เสียงเราชัดขึ้น และตัดเสียงที่ไม่ต้องการออกไปครับ ส่วนตัวคิดว่าฟีเจอร์กล้องและไมค์อันนี้คนทำงานที่ต้องประชุมบ่อย ๆ ได้ใช้แน่นอน

คีย์บอร์ด & ทัชแพด

สลับกลับมาดูเรื่องคีย์บอร์ดและทัชแพดกันบ้าง จากประสบการณ์ที่เคยรีวิวโน้ตบุ๊กมาหลายรุ่น เจอคีย์บอร์ดมาหลายแบบ ก็พบว่า Dell Precision 5690 ให้สัมผัสการพิมพ์ที่ดีเลยนะ ระยะการกดไม่ได้ตื้นมาก และระยะห่างระหว่างปุ่มกำลังพอดี และทุกครั้งที่กดเราจะรู้สึกได้ถึงการทำงานของกลไกใต้ปุ่ม เอาจริง ๆ แอบคล้ายความรู้สึกตอนพิมพ์ Mechanical Keyboard เลยนะ ส่วนตัวคิดว่าเป็นคีย์บอร์ดที่พิมพ์มันเลยล่ะ นอกจากนี้ที่ปุ่มเปิด-ปิดเครื่องก็ยังสแกนลายนิ้วมือได้ด้วยนะ และยังมีปุ่ม Copilot สำหรับเรียกใช้งานฟีเจอร์ AI ได้อย่างรวดเร็ว

ทัชแพดเองก็เป็นแบบสั่น (Haptic) ที่เมื่อกดน้ำหนักปลายนิ้วลงไปเพื่อคลิก ก็จะมีการสั่นเล็กน้อยตอบกลับมา ปกติแล้วทัชแพดแบบนี้มักจะอยู่บนโน้ตบุ๊กตัวท็อป น้อยครั้งนักที่จะเห็นบนโน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชัน อีกอย่างที่รู้สึกถูกใจมากคือขนาดทัชแพดที่กว้างขวางมาก ๆ ทำให้การลากเมาส์มีความละเอียดมาก จากที่ลองใช้ สามารถลากไฟล์ข้ามหน้าจอได้โดยไม่ต้องยกนิ้วขึ้น

ประสิทธิภาพ & ความเสถียร

มาถึงเรื่องประสิทธิภาพและความเสถียรของ Dell Precision 5690 กันบ้าง อย่างที่เห็นสเปกในตารางช่วงต้นบทความ ก็จะเห็นว่า dGPU หรือการ์ดจอแยกที่ให้มาจะเป็น NVIDIA® RTX™ 4000 Ada Generation (Laptop) พร้อมแรม (RAM) ในตัว 12GB (GDDR6) ดูเผิน ๆ อาจจะคล้ายการ์ดจอเล่นเกม แต่จริง ๆ แล้วนี่คือการ์ดจอที่เกิดขึ้นมาเพื่อทำงานโดยเฉพาะ โดยตัวการ์ดจะเด่นในส่วนของแรม (RAM) และ Tensor Core หรือแกนประมวลผลสำหรับฟีเจอร์และการเทรนด์ AI และ ML ที่เยอะกว่าการ์ดจอทั่วไป ทำให้มีประสิทธิภาพสูงกว่า

นอกจากประสิทธิภาพที่ดีกว่าแล้ว การ์ดจอ NVIDIA® RTX-Series ยังมากับความเสถียร ระดับที่ใช้งานหนักเป็นเวลานาน ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา เนื่องจากแรม (RAM) ภายในการ์ดจอมีระบบ ECC หรือ Error-Correcting Code ไว้ตรวจเช็กและแก้ไขข้อมูลที่มีอยู่ว่าถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกก็จะแก้ไขก่อนส่งไปให้ซีพียูประมวลผลต่อ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการคำนวณผิดพลาด จนทำให้ซอฟต์แวร์ทำงานที่เปิดอยู่เกิดอาการค้างหรือปิดตัวลง

ส่วนของไดร์เวอร์ (Driver)​ เองก็มีความพิเศษมากกว่าตรงที่จะมีการปรับแต่งรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อใช้งานกับซอฟต์แวร์มืออาชีพโดยเฉพาะ ทำให้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงเรียกใช้ได้ทุกฟีเจอร์ นอกจากนี้ยังมีการปล่อยอัปเดตมาอย่างรวดเร็วและถี่กว่าไดร์เวอร์ของการ์ดจอเกมมิง

ด้าน CPU ก็ใช้เป็น Intel Core Ultra 7 165H ก็เป็นชิปที่มีหน่วยประมวลผล NPU ในตัว ซึ่งช่วยส่งเสริมเรื่องการใช้งาน AI ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีแรมในเครื่องถึง 32GB เพื่อรองรับการทำงานพร้อมกันหลาย ๆ โปรแกรม อีกทั้งยังใช้หน่วยเก็บข้อมูลแบบ SSD NVMe M.2 ขนาด 1TB ถ้าถามว่าประสิทธิภาพเป็นอย่างไร เราได้ทดสอบในหลาย ๆ ด้านและแยกหัวข้อมาให้แล้ว ลองดูที่ด้านล่างได้เลย 

GPU 
Geekbench 6 (OpenCL)139,462 Score
Cinebench 2024 (GPU) 14,393 pts
CPU
Geekbench 6Single Core : 2,418 | Multi Core : 13,064 
Cinebench 2024 Single Core : 103 pts |  Multi Core : 977 
Storage 
CrystalDiskmarkRead: 7,039 MB/s  Write: 5,708 MB/s 
AI 
Benchmark ML 3,198 Score

จากที่ได้ลองใช้งานมากับหลาย ๆ ด้าน ทั้งการตัดต่อวิดีโอกับ Davinci resolve และ Adobe Premiere Pro รวมถึงโปรแกรมด้าน 3D อย่าง Blender และ AutoCAD Mechanical ก็พบว่าใช้งานได้ลื่นไหล ไม่มีอาการเด้ง หรือค้างแต่อย่างใด แม้ว่าเครื่องจะทำงานหนักจนสัมผัสได้ถึงความร้อนที่แผ่ออกบริเวณคีย์บอร์ด เรียกว่าใช้งานได้อย่างเสถียรและไว้ใจได้เลยว่างานจะไม่เสียหายจากความผิดพลาดของอุปกรณ์ ซึ่งความเสถียรแบบนี้จะหาได้จากโน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันเท่านั้น แตกต่างจากโน้ตบุ๊กเกมมิงที่จะเน้นเรื่องความแรงอย่างเดียว

นอกจากนี้โน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันของ Dell ก็มีใบรับรอง ISV Certification ว่าสามารถใช้งานร่วมกันกับซอฟต์แวร์ทำงานระดับมืออาชีพในสายงานวิศวกรรม สื่อและความบันเทิง และวิทยาศาสตร์ ได้อย่างเสถียรและเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถเข้าไปเช็กได้เลยว่าโน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันที่ต้องการรองรับการใช้งานกับซอฟต์แวร์ไหนผ่านหน้าเว็บไซต์ได้เลย

ความปลอดภัย และการจัดการ 

เรื่องความปลอดภัยเองก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่โน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันให้ความสำคัญ เพราะส่วนใหญ่งานที่ทำก็มักจะมีมูลค่าสูงซึ่งจำเป็นต้องใช้ระบบความปลอดภัยมากกว่าปกติ จากที่ได้ทดสอบดูก็เจอว่าใน Dell Precision 5690 มีระบบความปลอดภัยทั้งในส่วนของ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ตั้งแต่ระบบสแกนนิ้วและสแกนใบหน้า เพื่อใช้ในการปลดล็อกเครื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ไม่ใช่เจ้าของมาแอบใช้งาน, ช่องล็อกเครื่อง Kensington เพื่อป้องกันการขโมยอุปกรณ์, ระบบแจ้งเตือนการงัดแงะเครื่อง, ระบบแจ้งเตือนการแอบสลับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์, ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาแอบมองหน้าจอ,​ ระบบจัดเก็บข้อมูล RAID และอีกหลายอย่างที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการใช้งานทั้งแบบส่วนตัวและในรูปแบบองค์กร

พูดถึงการใช้งานในองค์กร อีกสิ่งที่โน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันจำเป็นต้องมีคือ ซอฟต์แวร์การจัดการที่ใช้ง่าย เพื่อจะได้ประหยัดเวลาเมื่อเจอปัญหาต่าง ๆ ซึ่งใน Dell Precision 5690 ก็มีหลายตัวที่ได้ลองแล้วรู้สึกว่ามีประโยชน์มาก ๆ อย่างเช่น Dell Optimizer ที่ตั้งค่าฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้ตั้งแต่การปรับแต่งประสิทธิภาพ รูปแบบการชาร์จ ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัว รวมถึงมีฟีเจอร์วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานและประสิทธิภาพเครื่องว่าเป็นอย่างไร เพียงพอกับการใช้งานหรือไม่ และสามารถสรุปออกมาเป็นรายงานให้ได้ด้วย

ส่วนซอฟต์แวร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจก็จะมี Dell PremierColor ปรับจูนสีตามมาตรฐานต่าง ๆ ที่ใช้ในด้านกราฟิก และยังมี Dell SupportAssist ที่ตรวจสอบการทำงานของเครื่องว่าทำงานปกติหรือไม่ รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์ให้อัตโนมัติเลย 

ข้อสังเกต 

มาพูดถึงข้อสังเกตที่เจอจากการใช้งานกันบ้าง อย่างแรกที่เจอเลยคือบริเวณบานพับจะมีสายส่งภาพที่โผล่ออกมา แม้ว่าจะมีจุดซัปพอร์ตแล้ว แต่ก็ดูไม่ปลอดภัยอยู่ดี ถ้ามีอะไรไปเกี่ยวก็อาจจะทำให้สายเสียหายได้ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะออกแบบให้ซ่อนอยู่บริเวณบานพับก็จะดีกว่าครับ ส่วนอีกจุดคือไม่มีปุ่มปิดกล้องเพื่อความเป็นส่วนตัว ทั้งปุ่มบนคีย์บอร์ด และม่านชัตเตอร์ ส่วนตัวคิดว่าอย่างน้อยก็น่าจะมีปุ่มให้กดบนคีย์บอร์ดก็จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น

สรุป

Dell Precision 5690 นับเป็นโน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันที่เด่นทั้งด้านประสิทธิภาพ ความเสถียร และความปลอดภัย เหมาะกับการใช้งานในระดับมืออาชีพ อีกทั้งดีไซน์ก็ยังทำออกมาดูทันสมัย ในขนาดที่เหมาะกับการพกพา ถือใช้งานในชีวิตประจำวันได้ รวมถึงมีซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เรียกว่าเป็นเวิร์กสเตชันที่มีครบทุกเรื่องในเครื่องเดียว

ติดต่อ

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dell Latitude หรือ Dell Precision หรือ PC และ Notebook สำหรับการทำงานรุ่นอื่น ๆ จาก Dell Technologies ติดต่อ คุณวศิน โทร. 090-9490-823 หรือ Email: [email protected]