รีวิว Balmuda The Brew เครื่องดริปกาแฟอัตโนมัติ ให้ประสบการณ์ที่ดีทุกครั้งที่ทำ
Our score
8.5

รีวิว Balmuda The Brew

เครื่องทำกาแฟดริประดับพรีเมียม ราคา 26,900 บาท

เหมาะสำหรับคอกาแฟดริปที่ต้องการเครื่องทำกาแฟที่แม่นยำ ได้รสชาติที่ดีและเสถียร ปรับโหมดการทำงานได้หลากหลาย แต่ใครที่ดริปกาแฟคล่อง ๆ อาจต้องลองว่าสู้รสมือตัวเองได้ไหม

จุดเด่น

  1. มีโหมดการทำงาน 3 แบบ คือกาแฟปกติ, กาแฟเข้ม, กาแฟใส่น้ำแข็ง
  2. ให้รสชาติกาแฟที่ดี เสถียร ใครทำก็ออกมารสเหมือนกัน
  3. ระหว่างรอเครื่องทำกาแฟ เราไปทำอย่างอื่นได้ ไม่เหมือนดริปเอง
  4. เครื่องสวย วางเป็นเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องครัวได้
  5. เวลาเครื่องทำกาแฟดูน่าสนุก ทั้งแสง, เสียง, ควัน, กลิ่น

จุดสังเกต

  1. ราคาสูง
  2. ทำได้สูงสุดครั้งละ 3 แก้ว อาจเล็กเกินไปสำหรับบ้านที่กินกาแฟหลายคน หรือการใช้ในบริษัท
  3. ใช้เมล็ดกาแฟมากกว่าสูตรมาตรฐานของกาแฟดริป
  4. เครื่องทำกาแฟได้อย่างเดียว บดเมล็ดกาแฟให้ไม่ได้
  • ดีไซน์

    10.0

  • รสชาติ

    8.5

  • ความคุ้มค่า

    7.0

Balmuda เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมียมจากญี่ปุ่น โด่งดังจาก Balmuda The Toaster เตาอบเน้นการปิ้งขนมปังที่ประสบความสำเร็จมากจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเตาปิ้งขนมปังจากญี่ปุ่นไปแล้ว ซึ่ง BT เคยรีวิวไปเมื่อหลายปีก่อน (รุ่นที่เรารีวิวเป็นเตาอบรุ่นที่ 2 ของญี่ปุ่น ส่วนรุ่นที่ขายอย่างเป็นทางการในไทยตอนนี้คือเตาอบรุ่นที่ 4 แล้ว) จุดเด่นของ Balmuda The Toaster คือการเติมน้ำเข้าไประหว่างอุ่นขนมปังรวมถึงควบคุมอุณหภูมิอย่างละเอียด ให้ขนมปังอุ่นนุ่มด้านใน แล้วเร่งไฟแรงตอนท้ายเพื่อให้ผิวขนมปังกรอบเกรียมอร่อย เมื่อแบรนด์นี้มาทำเครื่องดริปกาแฟอย่าง Balmuda The Brew ก็ไม่ทิ้งความเชี่ยวชาญในการควบคุมอุณหภูมิอย่างละเอียด พร้อมเอกลักษณ์เสียงระหว่างการทำงานที่ทำให้การทำกาแฟเป็นเรื่องรื่นรมย์ ซึ่งเราจะรีวิวในวันนี้

อัปเดต 15 กันยายน: เราได้ชั่งน้ำหนักเมล็ดกาแฟต่อ 1 การตักของช้อนที่มากับชุด Balmuda The Brew พบว่าได้กาแฟราว 9 กรัม ซึ่งต่างจากในคู่มือที่บอกว่า 10-14 กรัม

ดีไซน์ของ Balmuda The Brew

การออกแบบของ Balmuda The Brew นั้นแตกต่างจากเครื่องทำกาแฟทั่วไป คือตัวเครื่องสูงชะลูดถึง 38 cm แต่มีความกว้างเพียง 14 cm เท่านั้น เลยเป็นเครื่องที่ดูผอมสูงและกินพื้นที่บนโต๊ะไม่เยอะ สามารถวางเครื่องแทรกไปกับอุปกรณ์อื่น ๆ ในครัวได้ไม่ยากเย็น

Balmuda The Brew จำหน่ายในไทยแค่สีดำเท่านั้น ทำให้ภาพรวมของดีไซน์ตัวเครื่องสีดำนั้นประกอบด้วย 3 สี คือตัวเครื่องสีดำตัดกับสีเงินสะท้อนแสงของหัวจ่ายน้ำและกาเก็บกาแฟที่ทำจากสเตนเลสสตีล สุดท้ายคือสีส้มอบอุ่นจากแสงไฟที่ติดขึ้นระหว่างทำงาน โดยรวมแล้วสวยงาม คุมโทน และใส่ใจในรายละเอียดตามสไตล์ของแบรนด์บาลมูดา ส่วนในญี่ปุ่นจะมีเครื่องรุ่น Limited ที่ทำร่วมกับ Starbucks Reserve ขายด้วย ที่เพิ่มโลโก้ R⭐ เข้าไป แล้วเปลี่ยนกาสีเงินให้กลายเป็นสีทองแดงตามสีของสตาร์บัคส์ และเปลี่ยนหัวจ่ายน้ำเป็นสีดำครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง Balmuda The Brew
อุปกรณ์ภายในกล่อง Balmuda The Brew

นอกจากตัวเครื่องแล้ว อุปกรณ์ที่มาในกล่องประกอบด้วย

  1. กากาแฟสเตนเลสอย่างดี เป็นกา 2 ชั้น เก็บความร้อนได้ราว ๆ 30 นาที พร้อมฝาปิดแบบพิเศษสำหรับใช้กับเครื่อง
  2. ถ้วยดริปที่ดีไซน์มาเฉพาะสำหรับเครื่อง ด้านล่างเป็นวาล์วไม่ให้กาแฟไหลออก ถ้าไม่ได้เอากากาแฟที่มากับชุดมาตั้ง
  3. ช้อนตวง ตักครั้งหนึ่งจะได้กาแฟประมาณ 10-14 กรัม ซึ่ง 1 ตักตีง่าย ๆ คือทำกาแฟปริมาณ 1 แก้ว
  4. แท่นเตรียมสำหรับวางถ้วยดริป เพื่อตอนเตรียมกาแฟ
  5. กระดาษดริปปลายแหลมแบบโคน 5 ชิ้น ซึ่งถ้าหมดแล้วก็สามารถซื้อกระดาษดริปขนาด 1-4 แก้วในท้องตลาดมาใช้ได้ ซึ่งถ้าหาแบบโคนแหลมได้จะดีมาก

การทำกาแฟด้วย Balmuda The Brew

ด้านบน Balmuda The Brew มีไฟแสดงการทำงานของเครื่อง ปุ่ม Mode เลือกการทำงาน ปุ่ม Cups เลือกปริมาณกาแฟ และปุ่มเริ่ม-หยุดการทำกาแฟ
ด้านบน Balmuda The Brew มีไฟแสดงการทำงานของเครื่อง ปุ่ม Mode เลือกการทำงาน ปุ่ม Cups เลือกปริมาณกาแฟ และปุ่มเริ่ม-หยุดการทำกาแฟ

Balmuda The Brew นั้นสามารถทำกาแฟดริปได้ 3 โหมดที่กดได้จากเครื่องคือ

  • Regular กาแฟดริปมาตรฐาน ขับกลิ่นที่ซับซ้อนในเมล็ดกาแฟออกมา เหมาะเป็นกาแฟกินยามเช้า
  • Strong กาแฟชงเข้ม กลิ่นที่ซับซ้อนจะหายไป แต่ได้ความเข้ม (บางเมล็ดอาจได้กลิ่นไหม้) กินให้ตื่น หรือเหมาะสำหรับเอาไปทำกาแฟใส่นมต่อ
  • Iced กาแฟน้ำน้อยสำหรับทำกาแฟเย็นใส่น้ำแข็ง ให้กาแฟที่สดชื่น
  • ส่วนถ้ากดปุ่ม Mode ค้างไว้จะเป็นโหมดล้างเครื่อง ซึ่งแนะนำให้ทำเดือนละครั้ง เพื่อกลิ่นรสที่ดีครับ

กระบวนการทำกาแฟดริปด้วยเครื่อง The Brew นั้นง่ายมากครับคือ

วางถ้วยดริปบนแท่นเตรียม วางกระดาษกรอง แล้วตักกาแฟใส่
วางถ้วยดริปบนแท่นเตรียม วางกระดาษกรอง แล้วตักกาแฟใส่
  1. ถอดถ้วยดริปจากเครื่อง ออกมาวางบนแท่นเตรียม วางกระดาษกรองลงไป
  2. ตักกาแฟที่บดสำหรับดริปด้วยช้อนตวงลงไปตรงกลางกระดาษกรอง ตักกาแฟ 1 ช้อน คือทำกาแฟปริมาณ 1 แก้ว (120 ml) ซึ่งเครื่องทำได้สูงสุดในครั้งเดียวที่ 3 แก้ว (360 ml)
  3. ใส่ถ้วยดริปกลับไปที่เครื่อง ใส่กากาแฟรองใต้ถ้วยดริปให้เรียบร้อย
  4. ถอดแทงก์น้ำหลังเครื่องไปเติม โดยที่แทงก์น้ำจะมีขีดอยู่ว่าทำกาแฟร้อนกี่แก้ว ต้องเติมถึงขีดไหน แล้วถ้าจะทำกาแฟเย็นต้องเติมถึงขีดไหน
  5. กดปุ่มเปิดด้านบน เลือกโหมดการทำงาน เลือกปริมาณกาแฟ 1-3 แก้ว แล้วกด Start
  6. รอเครื่องทำกาแฟราว ๆ 5-7 นาทีก็จะได้กาแฟในกากาแฟพร้อมรินลงแก้ว
  7. ส่วนถ้าทำเป็นกาแฟเย็น ก็ใส่น้ำแข็งตามลงไปในกา และรินใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง

ซึ่งความสุนทรีของเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Balmuda คือเสียงระหว่างการทำงานครับ (กดฟังได้จากวิดีโอข้างบน) ตั้งแต่กดเปิดเครื่อง กดปุ่มเลือกโหมดจะมีเสียง ตื้อ ๆ นุ่ม ๆ เย็น ๆ ออกมา แล้วเมื่อเครื่องทำงานจะเป็นเสียง Metronome ที่ใช้จับจังหวะดนตรีให้เราเย็นใจว่าเครื่องกำลังทำกาแฟให้เราอยู่ สุดท้ายเมื่อกาแฟเสร็จก็จะมีเสียง แล้วเครื่องก็จะดับไปเองครับ

แต่จุดสังเกตในการทำกาแฟของเครื่องคือได้ปริมาณน้ำสูงสุด 3 แก้วหรือ 360 ml ต่อการทำหนึ่งครั้ง ซึ่งการทำหนึ่งครั้งรอเกือบ 10 นาที มันอาจจะไม่เหมาะกับจังหวะรีบ ๆ ในบ้านที่มีคนกินกาแฟหลายคน หรือในสำนักงานที่มีคนกินกาแฟเยอะครับ

กาแฟในถ้วยดริประหว่างทำ

วิเคราะห์การทำงานของ Balmuda The Brew

Balmuda ทำภาพอธิบายการทำงานของเครื่องออกมาว่าจังหวะการทำงานของเครื่องในแบบ Regular ปล่อยน้ำยังไง ความร้อนเท่าไหร่บ้าง โดยจะเห็นว่าในช่วงแรกสุดจะมีการวอร์มตัวกาและถ้วยดริปด้วยไอน้ำก่อนด้วยอุณหภูมิระดับ 100 องศา ก่อนที่จะลดระดับมาช่วง 90 องศาในระหว่างที่หยดน้ำลงไปเป็นจังหวะ จังหวะแรกสุดจะให้น้ำยาวหน่อยเพื่อให้กาแฟ Blooming ก่อน แล้วค่อย ๆ ให้ปริมาณน้ำกับอุณหภูมิที่แม่นยำไปเรื่อย ๆ ก่อนที่ช่วงสุดท้ายที่จะเทน้ำร้อน (Bypass Pour) ใส่ลงไปในกา เพื่อไม่ให้กาแฟเข้มเกินไป และให้รสหลังกินกาแฟ (Aftertaste) ที่สะอาด

จังหวะการให้น้ำ
ตัวอย่างจังหวะการให้น้ำของ Balmuda The Brew

จุดปล่อยน้ำของเครื่องทำกาแฟนี้มีอยู่ 2 จุดครับ คือจุดเหนือถ้วยดริป เป็นสายน้ำเล็ก ๆ 5 สายเพื่อให้น้ำมีรัศมีที่กว้างขึ้นบนเมล็ดกาแฟ แต่ก็ไม่เหมือนการดริปเองที่เราสามารถค่อย ๆ วนน้ำจากขอบถ้วยได้นะครับ น้ำจะตกลงไปเป็นวงกลมกลางถ้วยดริปเท่านั้น

ส่วนจุดปล่อยน้ำอีกจุดจะอยู่ที่ปากของกากาแฟด้านล่างเลยครับ เป็นการปล่อยน้ำร้อนตรงลงไปในกาที่เรียกว่า Bypass Pour ซึ่งแตกต่างจากการดริปทั่วไปที่เราไม่ค่อยเทน้ำร้อนเปล่า ๆ ลงไป แต่ถ้าเป็นการทำกาแฟในโหมด Strong จะไม่มีการทำ Bypass Pour ครับ น้ำทั้งหมดจะผ่านเมล็ดกาแฟให้กาแฟเข้ม

เส้นสีน้ำเงินแสดงจุดปล่อยน้ำทั้ง 2 จุดของเครื่อง
เส้นสีน้ำเงินแสดงจุดปล่อยน้ำทั้ง 2 จุดของเครื่อง

น่าสังเกตว่าสัดส่วนน้ำต่อกาแฟของ Balmuda The Brew นั้นแตกต่างจากการ Drip หรือ Pour Over ทั่วไปที่เราใช้น้ำ 15-16 ส่วน : กาแฟ 1 ส่วน แต่บาลมูดาแนะนำที่ 12:1 เพราะการทำกาแฟ 1 ถ้วยด้วยเครื่องจะได้น้ำ 120 ml ส่วนกาแฟ 1 ตักของช้อนบาลมูดาจะได้ราว ๆ 10 – 14 กรัม ก็ถือว่าเป็นสัดส่วนที่เข้มข้นกว่าสูตรปกติ แต่เราก็สามารถทดลองปรับสัดส่วนกาแฟตามใจชอบได้เสมอครับ

สูตรการทำกาแฟจากคู่มือของ Balmuda อเมริกา ที่ระบุ 1 ช้อนได้กาแฟ 0.4 oz หรือราว 11 กรัม

อัปเดต การชั่งน้ำหนักจริง เราพบว่า 1 ช้อนของบาลมูดานั้นให้น้ำหนักกาแฟประมาณ 9 กรัม ซึ่งถ้าใช้น้ำหนึ่งแก้ว 120 ml จะกลายเป็นสัดส่วนกาแฟราว 13.5:1

ส่วนเรื่องรสชาติกาแฟจาก Balmuda The Brew ที่หลายคนสนใจ เราถามความเห็นจากคอกาแฟหลายคน ก็สรุปว่าเป็นเครื่องที่ให้กาแฟดริปรสชาติดี ไม่ว่าใครทำก็ให้รสชาติที่ได้มาตรฐานทุกครั้งที่กด (ถ้าไม่เบลอตักกาแฟพูนหรือตักน้อยเกินไป) แต่ก็มีความเห็นจากคนที่กินกาแฟดริปจากคนที่ดริปเก่ง ๆ บอกว่ากาแฟจาก Balmuda มันบางและยังไม่ได้ให้กลิ่นรสที่ซับซ้อนออกมาได้ดีที่สุด

สรุป Balmuda The Brew น่าซื้อไหม

เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ Balmuda นั้นวางระดับอยู่ในกลุ่มพรีเมียมเสมอครับ ด้วยการออกแบบและสุนทรีในการใช้ Balmuda The Brew เลยตั้งราคาในไทยไว้ที่ 26,900 บาท ซึ่งสูงกว่าเครื่องทำกาแฟทั่วไปพอสมควร แต่ถ้าคุณเป็นคนที่รักกาแฟดริป อยากกินกาแฟดริปแบบไม่ยุ่งยาก เช้ามาก็ตักเม็ดกาแฟใส่ กดทำไว้ แล้วไปทำอย่างอื่น กลับมาอีกทีก็ได้กินกาแฟดริปที่รสชาติดี ได้มาตรฐานเดียวกันทุกครั้ง ส่วนวันไหนมีเวลาค่อยบรรจงดริปเองก็ได้ (ซึ่ง Balmuda ก็มี The Pot กาต้มน้ำสำหรับดริปกาแฟขาย) แบบนี้ก็น่าจัด The Brew ไปใช้งานครับ

สนใจซื้อได้ที่