Our score
8.8[รีวิว] FUJIFILM GFX100S II กล้องในฝันสาย Portrait ฉีกนิยามเดิม ๆ ของมีเดียมฟอร์แมต
FUJIFILM GFX100S II กล้องมีเดียมฟอร์แมต 102 ล้านพิกเซล เปิดประสบการณ์ "More Than Full frame"
FUJIFILM GFX100S II การมาของกล้องมีเดียมฟอร์แมต 102 ล้านพิกเซล ที่อัปเกรดสเปกแบบรอบด้าน น่าใช้งานมากขึ้น พร้อมสี Film Simulation ยอดฮิตของค่ายฟูจิ สวยจบหลังกล้องได้แบบ SOOC "Straight Out Of Camera" แต่คุณภาพระดับมืออาชีพ เก็บได้ทุกดีเทล !
จุดเด่น
- เซนเซอร์มีเดียมฟอร์แมต 102 ล้านพิกเซล
- ชิปประมวลผลใหม่ X Processor 5 อัปเกรดระบบโฟกัสใช้งานได้ดีกว่าเดิม
- มีกันสั่น 5 แกน ในบอดี้ ชดเชยได้ถึง 8 สต็อป
- มิติภาพของมีเดียมฟอร์แมตสุดอลังการ
- สีไฟล์ระดับ 16-bit
- ช่องมองภาพ EVF 5.76 ล้านจุด 0.84x 120fps ใหญ่สบายตา
- จอ LCD Touchscreen 3″ แบบ Tilt 2.36 ล้านจุด พับได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
- สีสวยด้วย Film Simulation ครบ ๆ 20 แบบ
- มีฟีเจอร์หน้าเนียนจบหลังกล้อง
จุดสังเกต
- ขนาดไฟล์ 102 ล้านพิกเซลค่อนข้างใหญ่ แต่มีตัวเลือกขนาดไฟล์ Lossless, Compress, Uncompress มาให้
- ขนาดอนุกรมที่ใหญ่ และหนักกว่า Full frame
- หน้าตาบอดี้เหมือนกับรุ่นก่อนหน้า
- ราคา...
-
คุณภาพไฟล์
10.0
-
บอดี้ / การจับถือ
9.0
-
มิติภาพ
10.0
-
สี Film Simulation
10.0
-
สเปกโดยรวม
8.0
-
แบตเตอรี่
9.0
-
ความคุ้มค่า
7.5
-
การพกพา
7.0
หากใครเคยได้จับ ได้ใช้งานกล้อง ‘Medium Format’ กันมาบ้าง อาจจะรู้สึกว่ากล้องประเภทนี้น่าจะเหมาะกับการถ่ายสตูมากกว่า เนื่องจากน้ำหนัก และระบบโฟกัสที่ไม่ได้รวดเร็วเท่าไรนักแม้จะให้คุณภาพที่สูงกว่า Full frame ก็ตาม แต่สำหรับยุคปัจจุบันต้องบอกว่าไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้วครับ อย่าง ‘FUJIFILM GFX100S II’ กล้องมีเดียมฟอร์มแมต 102 ล้านพิกเซล ที่เราได้มารีวิวในวันนี้ ระบบโฟกัสไวขึ้นแบบก้าวกระโดด ทั้งการ tracking วัตถุ คน, ดวงตา, สัตว์, ยานพหนะอื่น ๆ ที่ใช้ได้จริง ฉลาดแถมขนาดตัวพอ ๆ กับกล้องฟูลเฟรมเลย !
แถมเจ้า GFX100S II ราคายังชนกับกล้องฟูลเฟรมอีกด้วย กับค่าตัวไม่ถึง 200,000 บาท แต่ได้คุณภาพที่เหลือกว่าตามวลี “More Than Full frame” ที่ค่ายภูเขาไฟฟูจิเขาภูมิใจนักหนา เหนือกว่าทั้ง Resolution ,Dynamic Range, Bokeh, Color พร้อม Film Simulation ฟีเจอร์เด็ดของกล้องฟูจิ ตลาดฟูลเฟรมเราไม่ทำ เราขอโดดมาทำอะไรที่มันเจ๋งกว่านั้น
ในรีวิวครั้งน่าจะเน้นหนักไปที่ด้านภาพนิ่งเป็นหลักครับ ว่าเหนือฟูลเฟรมยังมีมีเดียมฟอร์แมตมันเป็นยังไง รวมถึงเทคโนโลยีมีเดียมฟอร์แมตในปัจจุบันที่พัฒนาขึ้นมากเมื่อเทียบกับหลายปีก่อน… เอาล่ะ เราไปดูพร้อม ๆ กันได้เลย
สเปก FUJIFILM GFX100S II
- เซนเซอร์ 102MP CMOS II
- X-Processor 5
- กันสั่น 8 สต็อป
- สีฟิล์ม 20 แบบ รวม Reala ACE
- อัปเกรดระบบโฟกัส Face / Eye / Animal / Birds / Cars / Trains / Motorcycle / Bicycle / Airplane / Insect
- ช่องมองภาพ EVF 5.76 ล้านจุด 0.84x 120fps
- จอ LCD Touchscreen 3″ แบบ Tilt 2.36 ล้านจุด
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 7fps
- 4K 30p 10-bit 4:2:2
- Apple ProRes 422 ผ่าน USB-C
- F-Log2
- Pixel Shift Multi-Shot 400MP
- SD Card UHS-II 2 ช่อง
- แบตเตอรี่ NP-W235
- น้ำหนัก 883 กรัม
สัมผัสแรก GFX100S II หน้าตากลิ่นอายเดิม แต่สเปกภายในสุดแรง
แรกสัมผัสเจ้า GFX100SII ต้องบอกว่าหน้าตามาในทรงเดียวกับรุ่นพี่ในเจนที่แล้วอย่าง GFX100S และ GFX50SII เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการจับถือกริปที่ถนัดมืออยู่แล้ว ปุ่มต่าง ๆ คือไม่ต้องปรับตัวจากรุ่นก่อนเลย กับ Sub LCD ขนาด 1.8 นิ้ว ไว้ให้เรามองค่ากล้องต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่ที่ชอบเลยคือจอ LCD หลังกล้องระบบสัมผัสแบบ tilt 2.36 ล้านจุด ที่นอกจากจะละเอียดสู้แสงได้ค่อนข้างดีแล้ว มันพับได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอนเลยครับ สายถ่ายภาพแนวตั้งอย่าง portrait นี่เรียกว่าสะดวกสุด ๆ เพราะการใช้งานในลักษณะของภาพนิ่งจอแบบนี้จะปรับมุมได้รวดเร็วกว่าจอ vari-angle พอสมควร
แต่กับสเปกภายในนี่เรียกว่าก้าวกระโดดเลยครับ ขับเคลื่อนด้วยหัวใจหลักเซนเซอร์ขนาดมีเดียมฟอร์แมต 102 ล้านพิกเซล CMOS II จับคู่กับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ X-Processor 5 ที่ทรงพลังมากขึ้น ทำให้การส่งข้อมูลรวมถึงระบบโฟกัสทำงานได้ว่องไว และฉลาดขึ้นด้วย algorithm AF ตัวล่าสุด ที่สำคัญชุดกันสั่น 5 แกน ในรุ่นนี้ยังถูกยกเครื่อง เคลมว่าชดเชยสปีดชัตเตอร์ได้สูงสุดถึง 8 สต็อป กันเลยครับ ซึ่งในกล้องที่ความละเอียดสูงแบบนี้ ความสั่นไหวเล็กน้อยอาจทำให้ภาพเบลอขาดความคมชัดได้ กันสั่นในบอดี้จึงมีความสำคัญมาก ๆ (รุ่นก่อนเคลมไว้แค่ 6 สต็อป)
ช่องมองภาพในรุ่นนี้ใหญ่เต็มตาสะใจกว่าเดิม ด้วยกำลังขยาย 0.84x ความละเอียด 5.76 ล้านจุด สว่าง ละเอียด กว้างสบายตา แม้ใส่แว่นก็สามารถใช้งานได้แบบไม่ติดขัดใด ๆ (อัปเกรดขึ้นมาจากกำลังขยาย 0.77x 3.69 ล้านจุด ในรุ่นก่อน)
ในขณะที่ตัวบอดี้ทำจาก magnesium alloy แข็งแรงทนทาน มีซีลกันฝุ่นกันละอองน้ำรอบตัว กับน้ำหนักบอดี้อยู่ที่ 883 กรัม ซึ่งก็ไม่ค่อยต่างแตกจากบอดี้ฝั่งฟูลเฟรมตัวท็อปซักเท่าไรครับ พอ ๆ กันเลย แต่ที่ต่างคือเลนส์ตระกูล GF ของมีเดียมฟอร์แมตนั้นค่อยข้างมีน้ำหนัก กับขนาดใหญ่โตกว่า เพราะต้องรองรับวงภาพขนาดใหญ่ จุดต่างมันอยู่ตรงนี้ล่ะครับทำเรื่องการพกพาอาจจะไม่คล่องตัวเท่าฟูลเฟรม (แต่ถ้าเน้นคุณภาพแบบสุดติ่งก็ยอมรับในจุดนี้ล่ะครับ)
ระบบโฟกัสเจนใหม่ ของดี ใช้งานสะดวกสุด ๆ
ด้วยความที่ใช้ทั้งเซนเซอร์ใหม่ บวกกับชิปประมวลผลที่แรงกว่าเดิม ระบบโฟกัสของเจ้า GFX100S II นี่คือทำงานได้ดีมากแม้จะเป็นกล้องมีเดียวฟอร์แมตก็ตามครับ จากส่วนตัวผู้เขียนเคยใช้ GFX50S II มาก่อน ซึ่งเป็น Contrast Detection ล้วน พอมาเจอ GFX100S II คือว้าวเลย เพราะมันสามารถใช้โหมด AF-C โฟกัสติดตามวัตถุได้หนึบ ๆ แบบกล้องฟูลเฟรมเลย
โดยเฉพาะผู้เขียนที่เน้นถ่ายคนเป็นหลัก การที่มันโฟกัสติดตามดวงตาได้ง่ายแบบนี้ทำให้การทำงานง่ายขึ้นเยอะครับ สลับตาซ้าย/ขวาก็ทำได้ รวมไปถึงสัตว์, นก, รถ, รถไฟ, มอเตอร์ไซค์, จักรยาน ลากยาวไปจนถึงเครื่องบิน และแมลง ซึ่งในที่แสงน้อยเองระบบโฟกัสก็ยังทำงานได้น่าประทับใจ ในเฟรมมืดตึ๊บ แต่โฟกัสเข้าสบาย (ถ้าเป็น GFX50S II ที่เคยใช้ โฟกัสแมวยืนอยู่นิ่ง ๆ ยังยาก…)
นี่ทำให้การถ่ายอะไรที่มีการเคลื่อนไหวทำได้ดีขึ้นด้วยครับ เพราะสามารถถ่ายรัวต่อเนื่องสูงสุดขึ้นมาเป็น 7fps (รุ่นก่อน 5fps) แต่ใครอยากเอาไปรัวอย่าลืมนะครับแม้โฟกัสจะดีขึ้น แต่ไฟล์ระดับ 100 ล้านพิกเซล ยิง 7fps นี่ก็หนักหนาสาหัส SSD, HDD คอมเอาเรื่อง…
ความละเอียดระดับ 100 ล้านพิกเซล สีสัน 16-bit ของมีเดียมฟอร์แมต โบเก้อลังการ พลังทำลายที่หาใครมาล้มได้ยาก
ถ้าพูดถึงเซนเซอร์ระดับ 100 ล้านพิกเซล แน่นอนว่าสูงกว่ากล้องทั่ว ๆ ไปในตลาดแน่นอนครับ ข้อดีคือสามารถเก็บดีเทลต่าง ๆ ในเฟรมภาพออกมาได้แบบครบ ๆ รวมไปถึงเพิ่มความยืดหยุ่นในการครอปเฟรมภาพในภาพหลังด้วยเช่นกัน แต่ถ้านึกไม่ออกว่ามันละเอียดขนาดไหนเราจะมาครอปให้ดูกันชัด ๆ
ปกติแล้วกล้องฟูลเฟรมจะให้เฉดสีไฟล์อยู่ที่ 14-bit แต่มีเดียมฟอร์แมตนั้นไปสุดกว่านั้นครับ GFX100S II สามารถทำได้สูงสุด 16-bit ทำให้การไล่โทนของสีทำได้อย่างสวยงาม สีแน่นสวยมีมิติ แต่ความละเอียดของไฟล์ระดับนี้ก็แลกมาด้วยขนาดแบบ uncompress นี่ตกไฟล์ละ 200MB ต่อภาพเลยทีเดียวครับ (แต่ฟูจิเขาก็มีตัวเลือกไฟล์แบบอื่น ๆ ให้เลือกใช้กันด้วยนะ ทั้ง Lossless และ Compress ช่วยลดขนาดไฟล์ได้)
บวกกับมิติภาพความเป็นมีเดียมฟอร์แมต ยกตัวอย่างใช้เลนส์ GF80mm F1.7 มิติภาพยังเป็นของเลนส์ 80mm แต่เฟรมภาพเมื่อเทียบกับฟูลเฟรมแล้วจะได้ราว ๆ 63mm F1.4 กันเลยทีเดียวครับ เรื่องทำละลายถือว่าทำได้เหนือชั้นกว่ากล้องฟูลเฟรมมากแบบรู้สึกได้ แต่ก็มีข้อความระวังเหมือนกัน ด้วยความที่มันทำละลายได้สูงมาก ในการถ่ายภาพคนโฟกัสผิดตาภาพอาจเบลอไปได้เลย (ซึ่ง GFX100S II ก็แอบมีอาการโฟกัสผิดตาอยู่บ้างบางครั้งเหมือนกัน)
ลองดึงไฟล์ให้ดูกันบ้าง
กันสั่น 5 แกน สูงสุด 8 สต็อป
อย่างที่กล่าวไปแล้ว กันสั่น 5 แกน ของรุ่นนี้สามารถชดเชยชัตเตอร์สปีดได้ถึง 8 สต็อปด้วยกันครับ ทำให้การใช้งานในที่แสงน้อยทำงานได้ยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ต้องดัน ISO สูง ซึ่งจากที่ทดสอบถือถ่ายด้วยมือ ก็ทำได้ประมาณ 0.4 วินาที อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความนิ่งของมือแต่ละคนด้วยนะครับ แต่ทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้วสำหรับเซนเซอร์ใหญ่แบบนี้
Portrait Enhancer ฟีเจอร์หน้าเนียน สวยใสแบบจบหลังกล้อง
แน่นอนว่าเซนเซอร์ที่ละเอียดเกินไปอาจไม่ถูกใจสาว ๆ นักครับ เพราะมันเก็บดีเทลบนใบหน้ามาได้แบบครบถ้วนทุกรูขุมขน แต่ในรุ่นนี้มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า ‘Portrait Enhancer’ ปรับหน้าเนียนแบบจบหลังกล้องได้ถึง 3 ระดับ เวลาเอารูปให้นางแบบดูหลังกล้อง เลยส่งภาพเข้ามือถือเลยก็ทำให้แฮปปีขึ้นเยอะ
ภาพทดสอบ Portrait Enhancer
Film Simulation 20 แบบ พร้อมฟิล์มสีตัวใหม่ Reala ACE
ของดีของเด็ดของค่ายฟูจิต้องยกให้ Film Simulation นี่ล่ะครับ ในรุ่นนี้เขาใส่มาให้แบบครบ ๆ ถึง 20 แบบ พร้อมสี Reala ACE ตัวใหม่ ซึ่งที่ทางฟูจิเขามีสีฟิล์มให้เลือกมากมายขนาดนี้ก็เพราะเขามีประสบการณ์ทำฟิล์มถ่ายภาพมาอย่างยาวนาน จึงถอดสูตรสีฟิล์มดังในอดีตหลายตัวมาใส่ให้ในกล้องยุคดิจิทัล จนเป็นจุดขายสำคัญสำหรับกล้องฟูจิไม่แม้แต่กระทั้งซีรีส์ GFX ด้วยก็ตาม อย่างตัวเด็ดเลยก็ Classic Chrome, Classic Negative, Eterna และ Across ที่ผู้เขียนชอบมากเป็นพิเศษ
นอกจากมิติภาพ ความละเอียดสูง โบเก้ที่สวยงามของมีเดียมฟอร์แมตแล้ว การที่มีสีฟิล์มสวย ๆ ทำให้เราจบหลังกล้องได้สบาย ๆ แบบ SOOC “Straight Out Of Camera” ได้ทันทีเลยครับ ซึ่งถ้าใครอยากได้สีฟิล์มนอกเหนือจากที่ให้มาก็ยังสามารถ custom เองได้ และมีเว็บไซต์ดัง ๆ อย่าง Fuji X Weekly ให้เข้าไปเลือกสูตรฟิล์มมาลองเล่นกันอยู่
จากการเอาไปถ่ายทั้งในสตู และ outdoor นางแบบต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าโทนภาพนั้นสวยอยู่แล้วครับ จบงานง่ายสบาย แถมสีสวยตั้งแต่หลังกล้องทำให้การถ่ายภาพของเราสนุกยิ่งขึ้นไปอีก เป็นสเน่ห์สำคัญของกล้องฟูจิเลยจริง ๆ
ส่วนสีฟิล์ม Reala ACE ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่ามันค่อนข้างคล้าย Provia ซึ่งเป็นสีมาตรฐานอยู่เหมือนกันครับ แต่จะให้โทนฟิล์มมากกว่าสีสันไม่จัดจ้านเท่า ดูสุขุมลึกลงไปอีก แต่ถ้าเทียบความอิมแพคตั้งแรกแรกเห็นยังยกให้ Classic Negative เช่นเดิม
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่รุ่นนี้ใช้เป็นรหัส NP-W235 ที่เคลมว่าถ่ายได้ประมาณ 530 ภาพ แต่การใช้งานจริงสามารถถ่ายเกินได้สบาย ๆ ครับ เพียงพอต่อการใช้งาน 1 วัน กดเพลิน ๆ 800++ ภาพก็ยังไหว แบตไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไร แต่เมมที่จะน่าจะเต็มกันก่อน 😂
ภาพจาก GFX100S II
รูปอาจการเพิ่ม/ลดแสงนิดหน่อย แต่เป็นโทนจาก Film Simulation นะครับ สีฟูจินี่สวยจริง ๆ !
ส่วนเซตด้านล่างมีการลองแต่งสีเพิ่มเติมในโปรแกรม Capture One Pro ครับ เอาแปะให้ดูกันด้วยเลยล่ะกัน ไหน ๆ ก็ถ่ายมาแล้ว !
สรุป
FUJIFILM GFX100S II นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้กล้องที่คุณภาพเหนือกว่า Full frame ในราคาที่จับต้องง่ายตัวหนึ่งในตลาดเลยล่ะครับ โดยมีราคาค่าตัวเฉพาะบอดี้อยู่ที่ 184,990 บาท อยู่ในระดับเดียวกับ Full frame ตัวท็อปของหลาย ๆ ค่าย
แม้ว่าราคาบอดี้จะจับต้องได้ก็ตาม ในเลนส์ในระบบ GF ก็มีราคาพอสมควรครับ อย่าง GF 55mm F1.7 R WR และ GF 80mm F1.7 R WR ที่นำมาใช้ครั้งนี้ก็มีราคาอยู่ที่ 89,990 บาท และ 129,990 บาท ตามลำดับ ก็คงต้องคิดเผื่อเลนส์ที่จะใช้เอาไว้ด้วย
ซึ่งถ้าใครรับราคา, น้ำหนัก, มีที่เก็บไฟล์เพียงพอ GFX100S II ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนครับ นอกจาก Film Simulation ของเด็ดแล้ว ไฟล์ฟูจิเองยังสามารถเปิดกับโปรแกรม Capture One ซึ่งเป็นโปรแกรมแต่งภาพที่มืออาชีพเลือกใช้งานกันในสตูดิโอได้ด้วย (มีเดียมฟอร์แมตเพื่อนบ้านบางค่ายไม่รองรับ ชีวิตทำงานสำหรับบางคนลำบากทันที เช่นผู้เขียนเป็นต้น…)
แถมท้ายเรื่องการแต่งภาพ จากที่ลองสังเกตโปรแกรมแต่งภาพ Capture One กินสเปกน้อยกว่าโปรแกรม Lightroom Classic ครับ ไฟล์ 102 ล้านพิกเซลจึงไม่เป็นปัญหาบนเครื่องที่ทดสอบอย่าง Mac mini M1 (2020 RAM 16GM SSD 512GB) ซักเท่าไรแม้จะเก่าแล้วก็ตาม จะมีก็แต่การเรนเดอร์ไฟล์ที่อาจต้องรอนานกว่าไฟล์กล้องทั่ว ๆ ไปสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้ค้างหรืออืดขึ้นจนหงุดหงิด เข้าใจได้ก็ไฟล์มันหนักนี่เนอะ
สุดท้ายต้องขอบคุณ Fujifilm Thailand ด้วยครับที่ส่งกล้องมาให้รีวิวในครั้งนี้ 🙏