Our score
8.5Belkin BoostCharge Pro 2-in-1 Magnetic Charging Pad
จุดเด่น
- งานประกอบดี ดูทนทาน
- แถมสาย USB-C ความยาว 1.5 เมตรมาให้
- รองรับมาตรฐานยุคใหม่อย่าง Qi2 ชาร์จได้เร็ว 15W ทำให้รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ในอนาคตได้หลากหลาย
จุดสังเกต
- ไม่แถมหัวชาร์จ USB-C
- ไม่มีแท่นชาร์จ Apple Watch
- ถ้าชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ด้วย กำลังไฟที่แท่น Qi2 จะเหลือแค่ 10W
เรารีวิวแท่นชาร์จไร้สายของ Belkin กันไปแล้วหลายตัวนะครับ แต่ Belkin BoostCharge Pro 2-in-1 Magnetic Charging Pad ถือเป็นแท่นชาร์จที่ผ่านมือเราตัวแรกที่รองรับมาตรฐานการชาร์จแบบ Qi2 ซึ่งแม้ปัจจุบันจะยังมีอุปกรณ์รองรับไม่เยอะ แต่ก็จะเป็นมาตรฐานสำคัญในอนาคต เพราะมันทำให้โทรศัพท์ที่รองรับ Qi2 มีวงแหวนแม่เหล็กด้านหลังนั้นเอง
รู้จักมาตรฐาน Qi2
มาตรฐาน Qi2 นั้นประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2023 จุดเด่นของ Qi2 คือการนำเทคโนโลยีวงแหวนแม่เหล็ก MagSafe ของแอปเปิ้ลมาใช้เป็นมาตรฐานกลาง และรองรับความเร็วในการชาร์จสูงสุด 15W เท่ากับ MagSafe รุ่นแรก (ก่อนที่แอปเปิ้ลจะปรับปรุง MagSafe ใน iPhone 16 ให้ชาร์จได้เร็วถึง 25W เพื่อหนีจาก Qi2)
สำหรับชาว Android อาจจะมองว่า Qi2 ที่กำลัง 15W นั้นไม่ใช่มาตรฐานที่ชาร์จเร็วเลยเมื่อเทียบกับมาตรฐานการชาร์จเฉพาะตัวของค่ายต่าง ๆ แต่หากมือถือรองรับ Qi2 ก็หมายความว่ามือถือตัวนั้นมีวงแหวนแม่เหล็กในตัวเหมือนกับที่ iPhone มี MagSafe มาตั้งแต่ iPhone 12 ครับ ซึ่งจะทำให้รองรับอุปกรณ์เสริมอีกมากมาย อย่าง Griptok แม่เหล็กที่ทำมาใช้กับไอโฟน ก็จะใช้กับ Android ที่รองรับ Qi2 ได้โดยไม่ต้องใส่เคสเสริม หรือพวกฮับ USB-C, SSD, กระเป๋าใส่การ์ดหรือสารพัดสิ่งที่ทำมารองรับ MagSafe ก็จะใช้กับสมาร์ตโฟนที่รองรับ Qi2 ได้ทันที นอกจากนี้ยังรองรับความเร็วในการชาร์จ 15W เป็นมาตรฐานโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมของผู้ผลิตโทรศัพท์โดยตรงด้วย
สมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่รองรับ Qi2 คือ iPhone 16 Series ครับ ส่วน Android รุ่นแรกที่รองรับคือ HMD Skyline ซึ่งก็ต้องรอดูผู้ผลิตรายหลัก ๆ ต่อไปว่าจะเริ่มใส่ Qi2 ลงในโทรศัพท์เมื่อไหร่
ดีไซน์ของ Belkin BoostCharge Pro 2-in-1
งานออกแบบของ Belkin BoostCharge Pro 2-in-1 Magnetic Charging Pad ตัวนี้เรียบง่ายมากครับ เป็นแท่นชาร์จแบบวางนอนที่มีจุดชาร์จ 2 จุด จุดแรกเป็นแท่นชาร์จแม่เหล็กแบบ Qi2 สำหรับชาร์จโทรศัพท์ ซึ่งแท่นนี้จะดีไซน์ให้สูงขึ้นมาจากฐานพอสมควรเพื่อไม่ให้กล้องที่หนา ๆ ของสมาร์ตโฟนยุคใหม่ไปยันกับพื้นโต๊ะ และจุดที่ 2 เป็นแท่นชาร์จมาตรฐาน Qi ธรรมดาสำหรับชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งแท่น Qi ตัวนี้ดีไซน์แบบหลุมพอให้วางอุปกรณ์อย่าง AirPods ลงไปได้พอดี แต่สำหรับอุปกรณ์อื่นที่ใหญ่กว่าหลุม มันจะก็ลอย ๆ ไม่ได้สัมผัสกับพื้นหลุมครับ
แท่นนี้ไม่มีที่ชาร์จ Apple Watch มาให้
จุดแตกต่างจากแท่นชาร์จทั่วไปคือตัวนี้มี USB-C มาให้ 2 พอร์ตครับ พอร์ตแรกอยู่ด้านบนสำหรับรับไฟเข้าปกติ ส่วนอีกตัวอยู่ทางด้านขวาสำหรับเสียบไฟออกไปชาร์จอุปกรณ์อื่น เช่นเสียบที่ชาร์จ Apple Watch ผ่านทางพอร์ตนี้ก็ได้
แท่นชาร์จรุ่นนี้มีให้เลือก 2 สีคือสีขาวที่เรารีวิวในครั้งนี้และสีดำ และตัวแท่นมีน้ำหนักพอสมควรเลยที่ 312 กรัม ทำให้เหมาะสำหรับตั้งทิ้งไว้มากกว่าการพกพาติดตัวออกไปใช้นอกสถานที่ครับ
ประสิทธิภาพของแท่นชาร์จ
ในกล่องของ Belkin BoostCharge Pro 2-in-1 Magnetic Charging Pad มีสายชาร์จแบบ USB-C to USB-C ยาว 1.5 เมตรมาให้ แต่ไม่มีอแดปเตอร์แถมมาให้นะครับ โดย Belkin แนะนำว่าควรใช้หัวชาร์จกำลังไฟ 30 W ขึ้นไปเพื่อให้ประสิทธิภาพในการใช้งานเต็มที่อย่างที่ออกแบบไว้
ซึ่งเราทดลองชาร์จ iPhone 14 Pro พร้อมกับหูฟัง Sennheiser Momentum True Wireless 4 ก็วัดกำลังไฟสูงสุดที่ถูกจ่ายเข้าไปที่แท่นชาร์จได้ 21 W อยู่พักหนึ่ง ซึ่งก็สอดคล้องกับสเปกที่บอกว่าสามารถชาร์จไฟที่แท่นแม่เหล็ก Qi2 ได้สูงสุด 15W และแท่น Qi ได้สูงสุด 5W ครับ
แต่ในกรณีที่เราเสียบที่พอร์ต USB-C อีกช่องของแท่นชาร์จ เช่นเสียบชาร์จ Apple Watch ไปด้วย กำลังไฟจะถูกเฉลี่ยใหม่เป็นแท่น Qi2 10W, แท่น Qi 5W และพอร์ต USB-C อีก 5W สรุปแล้วแท่นนี้สามารถจ่ายไฟได้สูงสุดราว 20W เท่านั้นครับ จึงต้องไปลดกำลังของแท่นชาร์จ Qi2 จาก 15W ลงมาเหลือ 10W แทน
ราคาของ Belkin BoostCharge Pro 2-in-1
Belkin BoostCharge Pro 2-in-1 Magnetic Charging Pad ตั้งราคาไว้ 2,990 บาท รับประกัน 2 ปี ซึ่งเราที่เทสต์อุปกรณ์ของ Belkin มายาวนานก็เชื่อได้ว่าอายุการใช้งานมันจะยาวนานกว่านั้น ลงทุนครั้งเดียวแล้วก็ใช้ไปยาว ๆ จนลืมครับ ไม่ต้องลงทุนซื้อกันบ่อย ๆ
ส่วนพวกฟีเจอร์ความปลอดภัยพวกตรวจจับวัตถุที่วางลงไปว่าสามารถชาร์จได้ไหมก็มีมาให้ ป้องกันปัญหาเผลอวางกุญแจหรือโลหะอื่น ๆ บนแท่นแล้วมันจะจ่ายไฟออกมาจนร้อนได้ด้วยครับ
ซื้อได้ที่