Our score
8.6Balmuda The Range
เป็นได้ทั้งเครื่องครัวและของแต่งบ้าน
เตาไมโครเวฟและเตาอบระดับพรีเมี่ยม ที่โดดเด่นเรื่องดีไซน์และความตื่นตาในการใช้งาน มีความสามารถเยอะ แต่ใช้ง่าย
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยงาม ดูเรียบง่าย แต่งบ้านได้
- นำเสนอได้ตระการตา จัดเต็มทั้งแสงและเสียงเวลาทำงาน
- เป็นทั้งไมโครเวฟและเตาอบในตัว
- โหมดไมโครเวฟหลากหลาย ทั้งอุ่นอาหารอัตโนมัติ, อุ่นเครื่องดื่ม หรือละลายน้ำแข็ง
- เตาอบใช้งานได้จริงจัง ด้วยขนาดเตาที่ใหญ่ อบต่อเนื่องได้นาน แถมมีโหมดหมักแป้งด้วย
- สั่งงานง่าย เห็นคำสั่งชัดเจนจากหน้าจอ ไม่ต้องกดตัวเลขอะไรให้ซับซ้อน
จุดสังเกต
- โหมดอัตโนมัติไม่ได้ฉลาดเสมอไป หลายครั้งที่อาหารออกมาร้อนจัดหรือแห้งเกินไป
- กำลังไฟสูงสุดของโหมดไมโครเวฟแค่ 800 W
- พอเป็น 2-in-1 ทำได้ 2 อย่างในเครื่องเดียว ถ้าใช้เตาอบอยู่ ก็ไม่สามารถใช้ไมโครเวฟได้ จึงเหมาะใช้ตามบ้านมากกว่าใช้ในร้าน
- ราคาสูง
-
ดีไซน์
10.0
-
ฟังก์ชันการทำงาน
9.0
-
ประสิทธิภาพ
8.0
-
ความง่ายในการใช้
9.0
-
ความคุ้มค่า
7.0
หลังจากที่ Balmuda แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่นบุกไทยอย่างเป็นทางการ ก็ทยอยส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวท็อปมาบุกตลาดไทยนะครับ เริ่มจากเตาอบไฟฟ้า Balmuda The Toaster ที่อีกสถานะหนึ่งมันเป็นถึงเครื่องปิ้งขนมปังสุด Iconic ของญี่ปุ่นไปแล้ว ตัวที่เพิ่งขายในไทยเร็ว ๆ นี้คือเครื่องทำกาแฟ Balmuda The Brew และล่าสุดที่เราจะรีวิวในวันนี้คือ Balmuda The Range เตาอบ 2-in-1 เป็นได้ทั้งเตาอบแบบจริงจัง และเตาอบไมโครเวฟได้ในตัวเดียว ซึ่งเตา The Range ก็มีชื่อเสียงในโลกโซเซียลไทยมานานแล้วแหละครับ และตอนนี้เราจะได้ซื้ออย่างเป็นทางการในไทยสักที ไม่ต้องลำบากเรื่องประกัน กับเรื่องแปลงไฟแล้ว!
ดีไซน์ของเตาอบ
Balmuda The Range เป็นเตาอบแบบเปิดจากด้านบนนะครับ มีบาร์จับเป็นโลหะยาวตามแนวเครื่องอยู่ด้านบนเพื่อให้เปิดจากบนลงล่าง เป็นดีไซน์ที่ใช้กับเตาอบใหญ่ ก็จะต่างจากไมโครเวฟทั่วไปที่เป็นประตูแบบเปิดจากขวาไปซ้าย ซึ่งก็ให้ความหรูหรา รู้สึกว่านี่เป็นเครื่องครัวเกรดโปร
ดีไซน์ของ Balmuda The Range นั้นเรียบง่ายกว่ากว่าเตาอบที่อัดฟังก์ชันมาเยอะ ๆ ในท้องตลาดครับ ด้านหน้ามีปุ่มบิดแค่ 2 ตัว ปุ่มกดยกเลิก, ปุ่มเริ่มทำงาน แล้วก็จอเท่านั้นครับ การทำงานเริ่มจากปุ่มบิดด้านซ้ายเพื่อเลือกโหมดหลักที่จะใช้ก่อน แล้วไปปรับตั้งการทำงานจากปุ่มบิดด้านขวา ระหว่างบิดก็ดูจอแสดงข้อมูล ซึ่งก็เขียนเป็นภาษาอังกฤษชัดเจนให้เข้าใจง่าย เสร็จแล้วก็กดปุ่มสตาร์ตเริ่มทำงานเท่านั้นเอง ไม่ต้องลำบากกดตัวเลขเลือกโหมดมากมายเหมือนเตาความสามารถสูงในอดีตครับ
ตัวเตาอบมีความจุ 20 ลิตรนะครับ โดยช่องอบด้านในมีขนาด กว้าง 352 x ลึก 314 x สูง 177mm ซึ่งก็กว้างพอที่จะอบไก่ทั้งตัวได้สบาย ๆ ส่วนขนาดด้านนอกคือ กว้าง 456 x ลึก 435 x สูง 331mm และมีน้ำหนักถึง 15.3 กิโลกรัม ทำให้ต้องพิจารณาที่วางเตาอบให้ดี เพราะนอกจากเตาอบจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่แล้ว ยังต้องเว้นพื้นที่รอบ ๆ เตาอบคือด้านบน 15 cm และด้านหลัง 20 cm เพื่อระบายความร้อนด้วย
และในกล่องนอกจากตัวเตาแล้ว ยังมีถาดสี่เหลี่ยมขนาดพอดีกับช่องอบมาให้ด้วย ทำให้สามารถใช้ถาดนี้แขวนกับร่องภายในเตาอบให้ถาดลอยอยู่ตรงกลางเตาอบได้ แต่ถาดสีดำนี้ใช้กับโหมดเตาอบได้อย่างเดียวนะครับ ห้ามใช้กับโหมดไมโครเวฟเด็ดขาด
โดย Balmuda The Range จำหน่ายในไทย 3 สีคือสีขาว สีดำ และสีพิเศษคือสแตนเลสที่ขายแพงกว่ารุ่นอื่น ๆ ซึ่งมันก็เป็นสีที่ดูโปรที่สุดด้วย
การใช้งาน Balmuda The Range
จุดเด่นของ Balmuda The Range คือเป็นเตาอบ 2 ระบบนะครับ เป็นได้ทั้งเตาอบและเตาไมโครเวฟในเครื่องเดียวกัน ในส่วนนี้เราจึงขอเล่าถึงการใช้งาน 2 ระบบแยกกันครับ
สำหรับใครที่อยากใช้โหมดอัตโนมัติของเตาอบได้ยืดหยุ่นขึ้น สามารถกดปุ่ม Cancel ค้างไว้เพื่อเข้า Setting ของเครื่อง แล้วเปิดการปรับระดับความร้อนได้ เราจะสามารถเลือกความร้อนของโหมดอัตโนมัติได้ 3 ระดับคือ Low, Standard และ High จากปกติที่เครื่องจะเริ่มทำงานในระดับ Standard ทันที
ใช้เป็นเตาไมโครเวฟ
โหมดอัตโนมัติ (Auto)
ความพิเศษของ Balmuda The Range ที่เตาอบไมโครเวฟส่วนใหญ่ไม่มีคือโหมดอัตโนมัติครับ แค่หมุนปุ่มบิดทางซ้ายไปที่โหมด Auto ใส่อาหารเข้าไป แล้วเลือกความร้อนในการอุ่น 3 ระดับคือ Low, Standard หรือ High และกดเริ่มก็เรียบร้อยครับ เครื่องจะคำนวนความแรงของไฟและระยะเวลาเองโดยใช้เซนเซอร์วัดอุณหภูมิในตู้ ซึ่งทาง Balmuda แนะนำว่าโหมดนี้เหมาะสำหรับการอุ่นอาหาร เช่นข้าวกล่อง โดยเปิดแผ่นปิดเล็กน้อย หรือเจาะรูระบายความร้อน เพื่อให้เซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิในตัวเครื่องที่ใกล้เคียงกับอุณหภูมิอาหารได้ ส่วนถ้าเป็นการอุ่นอาหารประเภทน้ำ ควรปิดด้วยแผ่นฟิล์มอาหารและเจาะรูระบายอากาศ เพื่อป้องกันการกระเด็น และถ่ายเทอุณหภูมิได้ด้วยครับ
แต่โหมด Auto นี้ก็มีเงื่อนไขพอสมควรครับ เช่นไม่ควรใช้อุ่นอาหารที่น้อยเกินไป คือน้อยกว่าที่กินประมาณ 1 คนหรือน้อยกว่า 100 กรัม เพราะอาจทำให้อาหารไหม้ได้ ถ้าอุ่นน้อย ๆ ให้ใช้โหมด Manual แทน นอกจากนี้ห้ามใช้อุ่นเครื่องดื่มครับ เพราะจะทำให้เครื่องดื่มเดือดจนหกเละในเตาได้ ก็ให้ใช้โหมดอุ่นเครื่องดื่มโดยเฉพาะแทน และจากที่ทดลองใช้ หลายครั้งโหมดอัตโนมัติก็อุ่นอาหารที่ใส่จานออกมาในแบบ Overcooked คือร้อนจนแห้ง มันจึงเหมาะสำหรับการอุ่นพวกข้าวกล่องมากกว่า เพราะ Balmuda บอกว่ามันยังขึ้นอยู่กับภาชนะที่ใส่ด้วย หากภาชนะถ่ายเทความร้อนไม่ดี จะมีผลกับการใช้เวลาครับ
โหมดอุ่นอาหารด้วยตัวเอง (M – Manual)
โหมดนี้ก็ตรงไปตรงมาเหมือนไมโครเวฟปกติครับ สามารถเลือกกำลังไฟได้ 4 ระดับคือ 100, 500, 600, 800 W โดยถ้าใช้ไฟ 800 W จะอุ่นได้สูงสุด 3 นาที ส่วนถ้า 600 W ลงไปจะอุ่นได้ถึง 30 นาทีครับ ซึ่งการอุ่นของ Balmuda The Range นั้นไม่มีถาดหมุน ๆ ด้านในเหมือนไมโครเวฟตามบ้านนะครับ ให้วางอาหารตรงกลางแล้วมันจะอยู่นิ่ง ๆ แบบนั้นเหมือนเตาไมโครเวฟของ 7-11 ครับ ซึ่งก็ให้ความร้อนได้ทั่วถึงดี
จุดนี้น่าสังเกต 2 อย่างคือ กำลังไฟสูงสุดที่ 800 W ก็เป็นกำลังไฟระดับที่ไมโครเวฟทั่วไปใช้กัน ไม่ได้ให้กำลังไฟสูงขึ้นไประดับ 1400 W ที่เตาไมโครเวฟรุ่นท็อป ๆ ในตลาดทำได้ และช่องเตาอบของ Balmuda The Range นั้นมีซีลยางปิด ล็อกอากาศไว้ภายในเวลาอบ เวลาอบเสร็จแล้วเปิดเตาออกมา ไอน้ำจากเตาอบเลยออกมาเยอะกว่าเตาไมโครเวฟทั่วไปครับ
โหมดอุ่นเครื่องดื่ม (รูปแก้ว)
สำหรับอุ่นเครื่องดื่ม จะเริ่มจากเครื่องดื่มอุณหภูมิห้องหรือแช่เย็นมาก็ได้ โดยจะมีเมนูย่อยให้เลือกอุ่นได้ 3 ชนิดคือกาแฟ, นม และสาเกครับ (สาเกร้อน สมเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าจากญี่ปุ่นจริง ๆ) ซึ่งสำหรับกาแฟและนม จะสามารถเลือกปริมาณการอุ่นได้ตั้งแต่ 1-3 แก้ว ส่วนสาเกจะเลือกปริมาณไม่ได้ และสามารถเลือกระดับความร้อนในการอุ่นได้ 3 ระดับคือ Low, Standard หรือ High ซึ่งเตาจะคำนวณกำลังไฟและระยะเวลาให้เองว่าควรอุ่นเสร็จเมื่อไหร่ครับ
ข้อควรระวังของการใช้โหมดนี้คือ ให้ใส่เครื่องดื่มราว 80% ของแก้วก็พอนะครับ ไม่งั้นพอร้อนแล้วมันจะล้น ซึ่งเราทดลองอุ่นนมด้วยโหมด LOW ผลที่ได้ก็ออกมาดีครับ ร้อนกำลังดีที่จะชงช็อกโกแลคได้
โหมดอุ่นข้าวแช่แข็ง (รูปชามข้าว)
ตรงตัวครับ สำหรับอุ่นข้าวที่แช่แข็งมาที่ซูเปอร์ญี่ปุ่นมักจะมีขาย (แช่แข็งนะ ไม่ใช่ข้าวแช่เย็น) โดยแค่เลือกปริมาณ 1 ถ้วย (150 กรัม) หรือ 2 ถ้วย (300 กรัม) แล้วเลือกความร้อน 3 ระดับคือ Low, Standard หรือ High ก็เริ่มอุ่นได้ทันที ส่วนถ้าอุ่นอาหารสำเร็จรูป ให้ใช้โหมด Auto หรือ Manual แทนนะครับ
สำหรับโหมดอัตโนมัติ จะใช้ sensor วัดอุณหภูมิภายในตู้ (ไม่ใช่ที่ตัวอาหาร) เพื่อคำนวณกำลังไฟและเวลาที่เหมาะสม
โหมดละลายน้ำแข็ง (รูปหิมะ)
โหมดสุดท้ายสำหรับฟังก์ชันไมโครเวฟคือโหมดละลายน้ำแข็งครับ สำหรับเตรียมเนื้อหรือวัตถุดิบที่เราแช่แข็งมา เพื่อเอามาปรุงอาหารต่อได้ เช่นเอาเนื้อปลาแช่เแข็งมาละลายน้ำแข็งเพื่อทำซาชิมิต่อ โดยจะมีตัวเลือกย่อย 2 โหมดคือ
- Semi-Defrost สำหรับละลายน้ำแข็งครึ่งเดียว คือละลายแบบที่ตรงกลางยังเป็นน้ำแข็งอยู่เล็กน้อย ทำงานโดยอุ่นไมโครเวฟกำลัง 100 W ต่อเนื่อง เหมาะสำหรับเมนูอย่างซาชิมิที่ต้องการละลายน้ำแข็งแบบที่ยังเย็นอยู่ ใส่วัตถุดิบได้ตั้งแต่ 100 – 500 กรัม
- Defrost ละลายแข็งน้ำเต็มรูปแบบ เหมาะสำหรับการละลายวัตถุดิบที่เอาไปปรุงอาหารต่อ เช่นละลายเนื้อแล้วเอามีดตัดเพื่อเตรียมอาหารต่อ ทำงานได้อุ่นไมโครเวฟ 200 W เป็นระยะ ๆ ใส่วัตถุดิบได้ตั้งแต่ 100 – 400 กรัม
หลังจากเลือกโหมดแล้ว ก็จะเลือกน้ำหนักวัตถุดิบที่ใส่เข้าไป ปรับระดับอุณหภูมิ แล้วทำงานเลยครับ ไม่สามารถปรับเวลาได้ เครื่องจะคำนวณมาอัตโนมัติ
ใช้เป็นเตาอบ
สำหรับโหมดเตาอบนั้นจะมีโหมดย่อยอยู่ 2 โหมดคือโหมดเตาอบ (Oven) กับโหมดหมักแป้ง (Fermentation) สำหรับบ้านที่ทำขนมปังก็จะได้ใช้โหมดนี้กันครับ โดยโหมดหมักแป้งจะใช้ตอนที่เรานวดแป้งขนมปังเสร็จแล้ว แล้วเอาแป้งไปหมักต่อใน Balmuda The Range ที่ใช้โหมดหมักแป้ง เตาจะล็อกอุณหภูมิภายในที่ 40 องศา ซึ่งเหมาะสำหรับการทำงานของยีสต์ที่ทำให้ขนมปังนุ่มฟู ก็มักจะหมักกัน 30 – 60 นาที ส่วนจะต้องหมักกันกี่รอบ ก็แล้วแต่สูตรครับ
กลับมาที่โหมดเตาอบกันต่อ ก็จะมีตัวเลือกย่อยอีก 2 โหมดคืออุ่นเตาก่อนอบ (With Pre-Heat) หรือไม่อุ่นเตาก่อน (Without Pre-Heat) เลือกให้เหมาะกับอาหารที่จะทำ ถ้าใช้โหมดอุ่นเตา คือเราต้องให้เตาอบทำงานไปก่อน แล้วพอได้สัญญาณจากเครื่องค่อยใส่อาหารเข้าไปอบ ส่วนถ้าไม่ใช้การอุ่นเตา ก็ใส่อาหารไปตั้งแต่เริ่มได้เลย
โดยสามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 100 – 230 องศาเซลเซียล โดยตั้งเวลาอบได้นานสุด 60 นาที แต่ถ้าตั้งอุณหภูมิ 220 กับ 230 องศาจะอยู่ที่อุณหภูมินี้ได้ราว 3 นาที ก่อนที่เครื่องจะปรับลงมาเป็น 210 องศาแล้วทำงานต่อไปครับ
ประสบการณ์การใช้งาน
Balmuda The Range เป็นเตาอบที่ใช้สนุกครับ ตามสไตล์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Balmuda ทุกชิ้นจะมีพรีเซนเทชั่นระหว่างการทำงานที่สวยงามทั้งแสงและเสียง ซึ่ง Balmuda The Range ทุกการบิดปุ่มจะมีเสียงกีต้าร์ออกมา การกดต่าง ๆ ก็มีเสียง แล้วเมื่อเตาอบเริ่มทำงานก็จะเป็นเสียงเคาะจังหวะเล่นยาวประมาณ 30 วินาที และเมื่ออบเสร็จแล้วจะมีเสียงกีต้าร์พร้อมไฟส่องจากบาร์จับลงมาที่เครื่อง อารมณ์เหมือนเปิดตัวนักแสดงคนสำคัญเลยครับ ที่เตาอบของเราจะส่องแสงออกมาเพื่อบอกผู้ใช้ว่าอบเสร็จแล้วนะ ลองดูวิดีโอด้านล่างดูครับ ว่ามันเป็นเตาอบที่ใช้แล้วสนุกขนาดไหน
Balmuda The Range เหมาะใช้ในบ้านมากกว่า
แต่เราคิดว่า Balmuda The Range เป็นเตาอบที่เหมาะสำหรับใช้ในบ้านที่ต้องการเตาอบเก่ง ๆ เครื่องเดียว ทำงาน 2 ระบบทั้งไมโครเวฟและเตาไฟฟ้า มากกว่าเอาไปใช้ในร้านค้าหรือภาคธุรกิจ เพราะด้วยความที่มันเป็นเตา 2-in-1 ดีไซน์เพื่อไม่ต้องซื้อ 2 เตาแยกให้เปลืองพื้นที่ มันจึงมีข้อจำกัดตรงที่เราจะไม่สามารถทำงาน 2 อย่างพร้อมกันได้ เช่นกำลังใช้เตาเพื่ออบไก่อยู่ 30 นาที ระหว่างนั้นเราก็จะไม่มีเตาไมโครเวฟใช้ไปเลย แล้วเมื่ออบเสร็จ เตาจะร้อนมาก จนการจัดอาหารสำหรับอุ่นไมโครเวฟต่อทำได้ยาก (กลัวมือไปโดนด้านในเตาที่ร้อนจัด) ก็ต้องพักเตาสักครู่ถึงจะใช้งานไมโครเวฟต่อได้ ซึ่งถ้าใช้ในบ้าน ผู้ใช้คงรอได้ หรือจัดลำดับการอบให้เหมาะสมได้ไม่ยาก แต่ถ้าใช้ในร้านที่ต้องรีบทำอาหารให้ลูกค้า ก็น่าจะเหมาะกับการซื้อ 2 เตามาทำงานแยกกันไปเลยดีกว่า
นอกจากนี้ Balmuda The Range ยังเน้นการใช้งานที่ง่าย ทำงานอัตโนมัติ มากกว่าการปรับแต่งที่มืออาชีพต้องใช้ครับ เช่นไม่สามารถปรับระดับไฟบนกับไฟล่างแยกกันได้ด้วย
เทียบกับ Balmuda The Toaster
แม้ว่า Balmuda The Range กับ Balmuda The Toaster จะมีฟังก์ชันเตาอบไฟฟ้าเหมือนกัน แต่ใช้งานต่างกันนะครับ โดยงานที่เหมาะกับ Balmuda The Toaster แต่ไม่ค่อยเหมาะกับ The Range คือ
- ปิ้งขนมปังให้กรอบ นุ่ม เพราะเป็นการอบที่เติมน้ำเข้าไปด้วย ทำให้รักษาความนุ่มภายในของขนมปังได้ แต่สามารถเร่งไฟจนผิวขนมปังเกรียมกรอบได้
- อุ่นครัวซ็องที่แช่เย็นมาให้กลับมาร้อน กรอบ อร่อย
- อุ่นไก่ทอดที่แช่เย็นให้กลับมากรอบ (ไก่ทอดถ้าอุ่นไมโครเวฟจะไม่กรอบ ส่วนถ้าใช้โหมดเตาอบของ The Range เท่าที่ลองก็ไม่กรอบ เพราะภายในมีไอน้ำเยอะไป)
ซึ่ง Balmuda The Toaster ก็พอจะทำอาหารอบง่าย ๆ ได้ เช่นอบปลาที่สุกง่าย ๆ แต่ตัวขนาดเตาที่เล็กกว่า The Range ทำให้ความยืดหยุ่นในการอาหารน้อยกว่า และไม่ได้ดีไซน์ให้อบต่อเนื่องยาวนานระดับครึ่งชั่วโมงหรือชั่วโมงหนึ่ง
Balmuda The Toaster เหมาะกับงานอบแนวย่าง ๆ เพราะภายในเป็นตะแกรง ให้อาหารได้สัมผัสกับความร้อนจากหลอดไฟโดยตรง
แม้ Balmuda The Range แม้จะปิ้งขนมปังได้ไม่เก่งเท่า The Toaster แต่เรื่องที่เก่งกว่าก็มีไม่น้อย
- เป็นเตาไมโครเวฟได้
- อุ่นข้าว, อุ่นเครื่องดื่มได้
- เป็นเตาอบทำขนมได้
- เป็นเตาทำอาหารแบบจริงจังได้
สรุปคือ ถ้าคุณกินขนมปัง กินครัวซ็อง ให้ซื้อ The Toaster แต่คุณก็ต้องมีไมโครเวฟอยู่ดี ก็เลยต้องซื้อ The Range อีกเครื่องครับ
สรุป Balmuda The Range คุ้มไหม
เตาอบรุ่นนี้วางขายในไทย 2 ราคานะครับ
- Balmuda The Range สีขาวกับสีดำ ตั้งราคาขายไว้ 21,900 บาท
- Balmuda The Range สีสแตนเลส ขายที่ 25,900 บาท
ถ้านับกันที่ราคาแล้ว Balmuda The Range ถือเป็นเตาไมโครเวฟสำหรับใช้ในบ้านที่ราคาสูงอันดับต้น ๆ ของตลาดแล้ว แต่ด้วยจุดเด่นที่รูปลักษณ์สวยงามสะอาดตา ใช้งานง่าย ปุ่มไม่เยอะ การนำเสนอระหว่างการทำงานที่ตระการตา จัดเต็มทั้งไฟและเสียง แถมยังมีฟังก์ชันเตาอบระดับจริงจัง อบขนม ทำอาหารได้ ก็ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าซื้ออยู่ดีครับ
ซึ่งในช่วง Pre-Order ถึงวันที่ 13 ก.พ. 2568 นี้ Balmuda Thailand ก็จัดโปรพิเศษสำหรับคนที่สั่งจองล่วงหน้า คือซื้อ Balmuda The Range รับฟรี Balmuda The Toaster มูลค่า 11,990 บาทไปด้วยเลยอีกเครื่อง ไม่ต้องเลือกแล้วว่าเหมาะกับเตาอบรุ่นไหนมากกว่ากัน โดยสามารถพรีออเดอร์ได้จากทั้ง Lazada, PowerBuy, Central Online และ Omocha ครับ