รีวิว LG OLED TV 65G7T ทีวี 4K สีสดบนจอดำบริสุทธิ์ พร้อม Dolby Vision + Atmos
Our score
8.6

LG OLED TV 65G7T

จุดเด่น

  1. จอ 4K OLED คือดีงาม ดำเป็นดำ เห็นภาพแล้วสะท้าน มีโปรไฟล์สี isf ที่ปรับแต่งมาสำหรับการชมภาพยนตร์โดยเฉพาะ
  2. เป็นทีวีไม่กี่รุ่นในโลกที่รองรับ Dolby Vision และ Dolby Atmos
  3. ออกแบบตัวเครื่องได้สวยงาม จอบางเฉียบ วางอยู่บนกระจก
  4. webOS 3.5 ทำงานได้รวดเร็ว มีแอปสำคัญอย่าง Youtube, Netflix, Google Play Movie มาให้ครบ
  5. ลำโพง Sound Bar ในตัวให้เสียงที่มีมิติ

จุดสังเกต

  1. ตัว Sound Bar ให้เสียงดีก็จริง แต่ไม่ได้มีซับวูฟเฟอร์แยกต่างหากเหมือนชุด Home Theater ก็ทำให้ความตูมตามน้อยลงไปเยอะ
  2. ไม่มี Chromecast ในตัว (แต่มี Miracast)
  3. ราคาสูงตามเทคโนโลยีที่ใช้
  • การออกแบบตัวเครื่อง

    10.0

  • คุณภาพหน้าจอ

    10.0

  • คุณภาพเสียง

    8.0

  • ความสามารถของระบบปฏิบัติการ

    8.0

  • ความคุ้มค่า

    7.0

หลังจากที่เราอยู่ในยุค LED TV มายาวนาน ในทึ่สุดก็ถึงเวลาเริ่มยุคทีวีเทคโนโลยีต่อไปอย่าง OLED TV จริงๆ จังๆ กันสักทีครับ ซึ่งวันนี้สตาร์ทกันจากตัวท็อปอย่าง LG OLED 65G7T ทีวีความละเอียด 4K ขนาด 65 นิ้วครับ

จุดสะดุดตาอย่างแรกของ LG OLED 65G7T รุ่นนี้คือดีไซน์ครับ จอบางสุดที่ 2.57 มม. บางกว่ากรอบรูปอีก แถมที่ขอบจอและด้านหลังจอภาพยังเป็นกระจกคริสตัลที่ดูดี รวมๆ แล้วเหมือนนั่งดูภาพที่แสดงบนกระจกเลย ส่วนด้านล่างก็เป็นลำโพง Sound Bar สีทองแดงดูพรีเมี่ยม ที่ดีไซน์ได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องเสียงในยุคคลาสสิค ซึ่งตัวลำโพงนี้สามารถพับไปด้านหลังเวลาต้องการแขวนทีวีกับผนังได้ด้วย ดูรวมๆ แล้วหรูหราสมคำว่า LG Signature เลย

Play video

ว่ากันที่เรื่องจอบ้าง LG บอกเลยว่าจอ OLED TV ตัวนี้เจ๋งระดับ Perfect color on Perfect Black หรือให้สีที่สมบูรณ์แบบบนจอดำบริสุทธิ์ ถ้าได้เห็นภาพด้วยสายตาจริงมีสะท้าน ก็เพราะความดีงามของเทคโนโลยี OLED ครับ ที่แต่ละพิกเซลของ OLED นั้นสามารถเปล่งแสงและปิดแสงได้อย่างอิสระ ทำให้สีดำของ OLED คือปิดพิกเซลให้ดำสนิท ไม่มีแสงเปล่งออกมาเลย ต่างจากจอ LED ที่สีดำจะเป็นเทาๆ เพราะแสงไฟหลังจอยังส่องออกมาได้

ด้วยคุณสมบัติของจอภาพแบบ OLED ทำให้ภาพที่ได้จาก LG OLED 65G7T มีมิติมาก พูดกันซื่อๆ คือภาพมันโดดเด้งออกมาจากจอเลย มุมมองภาพกว้าง 180 องศา จะมองมุมไหนก็เห็นชัดเจนอยู่

โหมดที่ผมอยากให้คนรักหนังได้ใช้กันก็คือ isf Expert

ซึ่ง LG ก็มีตัวเลือกการแสดงภาพที่หลากหลาย แน่นอนว่าโหมดสีสดหรือ Vivid พร้อมทำภาพเคลื่อนไหวให้นุ่มนวลที่เรียกว่า TruMotion ก็ต้องมีอยู่แล้ว แต่โหมดที่ผมอยากให้คนรักหนังได้ใช้กันก็คือ isf Expert ครับ ซึ่งเป็นโหมดที่ Imaging Science Foundation ช่วย LG ปรับแต่งภาพมาให้เหมาะสมสำหรับการชมภาพยนตร์ที่สุด ซึ่งรับชมครั้งแรกอาจจะรู้สึกว่าภาพติดเหลืองหน่อย เพราะมาตรฐานอุตสาหกรรมภาพยนตร์จะใช้สีภาพแบบนี้ แต่พอดูไปจะรู้สึกว่าคุณภาพภาพดีจริงๆ สมอย่างที่ผู้กำกับต้องการ

มาถึงเรื่องที่ว้าวมากๆ ของจอ LG OLED 65G7T นั้นคือการรองรับ HDR หรือ High-dynamic range ครับ เพราะทีวี LG ตัวนี้เป็นไม่กี่รุ่นในโลกที่รองรับ HDR ทั้งมาตรฐาน HDR10 ที่ใช้กันทั่วไป อย่างสัญญาณจากเครื่อง PlayStation 4, มาตรฐาน HLG สำหรับสัญญาณทีวี และ Dolby Vision มาตรฐาน HDR สเปกสูงสุดในปัจจุบันด้วย พูดไปก็ไม่เห็นภาพ ผมเปิด Netflix ให้ดูเลยดีกว่า หนังที่รองรับ Dolby Vision ก็จะขึ้นโลโก้แบบนี้ เมื่อกดดูจะรู้สึกได้เลยว่าภาพมีรายละเอียดในส่วนมืด ส่วนสว่าง ชัดเจน ดูแล้วติดภาพสวยๆ ของ HDR จนรู้สึกไม่อยากดูหนังธรรมดาเลย แล้วยิ่งถ้าเอาไปดูหนังแบบ 4K ยิ่งเสพย์ติดความคมชัดของภาพครับ

ทีวี LG ตัวนี้เป็นไม่กี่รุ่นในโลกที่รองรับ HDR มาตรฐาน Dolby Vision

ใน LG OLED 65G7T ตัวนี้ยังมีเทคโนโลยีของ Dolby อีกตัวคือ Dolby Atmos ซึ่งเป็นเทคนิคด้านเสียงตัวล่าสุดของ Dolby โดยสามารถจำลองเสียงได้ 360 องศารวมถึงเสียงที่อยู่เหนือศีรษะได้เหมือนโรงภาพยนตร์ ผ่านตัว Sound Bar ที่มากับเครื่องเลย พูดให้ล้ำหน่อยคือ Dolby Atmos จะคำนวณเสียงเพื่อยิงขึ้นไปสะท้อนเพดานให้ตกลงมาเหมือนมีเสียงมาจากด้านบนครับ ซึ่งก็มีเนื้อหารองรับใน Netflix เรียบร้อยแล้ว และน่าจะมีตามมาอีกในอนาคต

แน่นอนว่าเป็นทีวี LG ก็ต้องใช้ระบบปฏิบัติการเป็น webOS ครับ ซึ่งมาถึงเวอร์ชั่น 3.5 แล้ว สามารถสั่งงานด้วย LG Magic Remote ได้ง่ายมาก ใช้แบบ Air Mouse ลากเคอร์เซอร์ในจอ หรือจะสั่งค้นหาด้วยเสียงก็ได้ ซึ่งตัว LG OLED 4K TV ก็มีแอปที่ใช้กันบ่อยๆ อย่าง Youtube, Netflix หรือ Google Play Movies ให้ซื้อหนังใหม่มาดูได้ง่ายๆ และยังสามารถติดตั้งแอปอื่นเพิ่มเติมได้อีกด้วย

เสียงดี แต่ไม่มีซับวูฟเฟอร์มา ก็ไม่ตูมตามเท่าชุดเครื่องเสียงใหญ่

ที่นี้มาถึงจุดสังเกตกันบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าเราชมกันอย่างเดียว อย่างแรกคือคุณภาพเสียงของตัว Sound Bar ที่มากับทีวี ซึ่งมันก็ดีระดับหนึ่งครับ แต่ถ้าจะเทียบกับลำโพง Home Theater ที่มีซับวูฟเฟอร์เป็นตัวเป็นตนแล้ว เรื่องความแน่นของเสียงก็ยังห่างชั้นกันอยู่ อีกเรื่องหนึ่งคือการแคสภาพขึ้นจอทีวี เพราะว่า LG OLED 4K TV ไม่มีระบบ Chromecast อยู่ในตัวเหมือนทีวีที่ใช้ Android TV มีแต่ miracast เท่านั้น ทำให้การส่งภาพจากแอปอย่าง AIS play, iflix ขึ้นจอทำได้ยากหน่อยครับ ก็ต้องหา Chromecast Ultra มาเสียบอีกที (ใช้ Chromecast ธรรมดาจะไม่สมศักดิ์ศรีจอ 4K HDR)

สรุป LG OLED 65G7T ก็ถือว่าอยู่แนวหน้าของวงการทีวีตอนนี้ได้สบายๆ ครับ ให้ภาพสวยจัดๆ พร้อมรองรับมาตรฐานภาพ Dolby Vision และเสียง Dolby Atmos ส่วนตัวระบบปฏิบัติการ webOS 3.5 ก็ทำงานได้ลื่นไหลดี ใช้งานง่ายด้วยเมจิกรีโมท

ราคา!

มาถึงช่วงสำคัญ ราคาครับ! LG OLED 65G7T ขนาดหน้าจอ 65 นิ้ว ตั้งราคาขายอยู่ที่ 299,990 บาท สำหรับใครที่อยากได้จอใหญ่ๆ ขอบอกว่ารุ่นนี้ มีขนาด 77” ด้วย ราคาก็เพิ่มตามขนาดอยู่ที่ 599,990 บาทครับ ราคาอาจจะโหดหน่อย แต่ก็เป็นราคาของเทคโนโลยีที่สุดยอดแบบนี้ครับ