Oppo R15 Pro เป็นสมาร์ทโฟนตัวท็อปของ Oppo ในไทยตอนนี้ (ก่อนที่ Oppo Find X จะขายในไทย) ก็มีทั้งสีม่วงและสีแดงแบบไล่เฉดสวยๆ ฝั่งสีม่วงนี้ก็มีชื่อเก๋ๆ ว่า Cosmic Purple ส่วนฝั่งสีแดงคือแดงทับทิม Ruby Red ครับ ซึ่งวันนี้เราจะรีวิวสมาร์ทโฟนตัวนี้ให้ฟังกัน
สิ่งแรกที่สะดุดตาเลยคือสีของฝาหลังดีไซน์ 3D Glass ครับ งานนี้ Oppo จับมือกับ Karim Rashid นักออกแบบอุตสาหกรรมชื่อดังชาวแคนาดา เพื่อให้ได้ 2 สีนี้มา ซึ่งมันสะท้อนแสงเป็นประกายสวยมากทั้งสีม่วงและสีแดง ตัวฝาหลังนี้ให้ความสัมผัสที่เรียบลื่นแต่แข็งแรง ขอบเครื่องโค้งเข้ามือทำให้จับถือในมือแล้วกระชับดี ตัวเครื่องโดยรวมให้สัมผัสที่หนักแน่น ให้ความรู้สึกว่าถือของพรีเมี่ยมอยู่ครับ
พลิกมาดูหน้าจอบ้าง Oppo R15 Pro ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.28 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ สัดส่วน 19:9 พร้อมรอยบากตามสมัยนิยม ซึ่งจอตัวนี้ให้คุณภาพภาพที่ดี ใช้เฟซบุ๊กตัวหนังสือก็คมชัด ดูวิดีโอก็ให้สีสันสดใส สีดำมืดสนิทตามแบบของจอ OLED แต่การใช้งานจอนี้ต้องมีทริกสักหน่อยคือรอยบากด้านบนนี้ครับ ปกติเครื่องจะพยายามแสดงผลทุกแอปให้เต็มจอ ถ้าเป็นแอปวิดีโออย่าง Netflix, Youtube จะขยายวิดีโอไปจนทับรอยบาก แต่ถ้าเราไม่ชอบการแสดงผลที่ทับบากแบบนี้ก็แก้ไขได้ง่ายๆ แค่กดค้างที่แอปนั้นๆ แล้วกด App Info และปิด All Notch Area Display ออกไปเท่านั้นเอง
มาที่เรื่องเสียงกันบ้าง Oppo R15 Pro นั้นมีลำโพงอยู่ด้านล่างตัวเดียวนะครับ ก็ให้เสียงได้ดังและสดใสดี ที่ดีงามคือพอร์ต 3.5 mm ยังอยู่และเมื่อเสียบหูฟังจะสามารถใช้โหมดปรับแต่งเสียง Real HD Sound ที่ Oppo พัฒนาร่วมกับ Dirac บริษัทเสียงจากสวีเดนได้ ก็ให้เสียงที่โปร่ง สดใสขึ้นไปได้อีกครับ
Oppo R15 Pro ใช้ซีพียู Snapdragon 660 พร้อม AIE หรือ Artificial Intelligence Engine หน่วยประมวลผล AI โดยเฉพาะ ถือเป็นซีรี่ส์ 6 ตัวท็อปแล้ว มาพร้อมแรม 6 GB และหน่วยความจำในเครื่องอีก 128 GB ซึ่งสเปกระดับนี้ ใช้งานพื้นฐานในชีวิตประจำวันอย่างเล่นเน็ต แชทไลน์ ใช้เฟซบุ๊กลื่นหมด เล่นเกม ROV ยอดฮิตได้ลื่นๆ เฟรมเรตเฉียด 60 fps ตลอดไม่ตกลงมาเท่าไหร่ แม้จะตั้งค่าเกมเป็นระดับ HIGH
แต่หลายคนก็อาจตะขิดตะขวงใจกับความแรงของ Snapdragon 660 อยู่ ว่าจะสู้ Snapdragon ซีรี่ส์ 8 ตระกูลท็อปได้รึเปล่า เราทดสอบประสิทธิภาพจาก GeekBench 4.2 ก็ได้คะแนนไปเกือบ 5800 คะแนนในส่วน Multi-core ดูจากกราฟแล้วเข้าไปใกล้เคียงกับ Snapdragon 835 ที่ใช้ใน Galaxy S8 เลยนะครับ ก็ไม่ธรรมดานะซีพียูตัวนี้
ระบบปฏิบัติการ ColorOS 5.0 ที่ครอบทับ Android 8.1 ของ Oppo นี้มีความสามารถเด่นๆ ที่น่าสนใจหลายอย่างครับ ที่เราชอบมากคือสามารถซ่อนปุ่ม back, home, recent app ไปได้เลย ให้ใช้งานเครื่องได้เต็มจอจริงๆ เวลาจะกลับหน้า Home หรือ Back ก็ลากจากขอบแบบนี้
นอกจากนี้ยังมี Game Acceleration ที่เร่งประสิทธิภาพของเกมให้สูงสุดเท่าที่เครื่องจะทำได้ พร้อมบล็อก Notification ไม่ให้รบกวนได้
แล้วเวลาใช้แอปที่เต็มจอแนวนอนอย่างเกมหรือแอปเล่นวิดีโอ เราสามารถเปิดเมนูลัดจากฝั่งรอยบากนี้ได้ เพื่อแชทโดยที่ไม่ต้องออกจากแอป กดบันทึกวิดีโอหน้าจอหรือตั้งบล็อกการแจ้งเตือนก็ได้ สะดวกดีจัง
ส่วนเรื่องความปลอดภัย Oppo R15 Pro ก็จัดมาเต็มครับ สแกนนิ้วมือด้านหลังอย่างเร็ว แตะแล้วปลดล็อกทันที สแกนหน้าก็ได้ แถมมีคีย์บอร์ดพิเศษเวลาป้อนรหัส ป้องกันการถูกดักรหัสผ่าน และเรื่องชาร์จก็ไม่เสียชื่อ Oppo Vooc Flash Charge ชาร์จ 30 นาทีได้แบตไป 70% จุดเด่นของมือถือ OPPO เค้าเลย ซึ่งแบตเตอรี่ความจุ 3,430 mAh ก็อึดเกินพอสำหรับการใช้งานทั้งวันครับ
ภาพจากกล้องหน้าของ Oppo R15 Pro
กล้องหน้าของ Oppo R15 Pro มีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล f/2.0 พร้อมเซนเซอร์ HDR ของ Oppo R15 Pro แล้ว ชอบที่กล้อง Selfie ได้ฉลาดดี คือถ้ารีบๆ ก็ปรับโหมด AI Beauty 2.0 เป็นอัตโนมัติไปเลยก็ได้ กล้องจะวิเคราะห์ความเนียนที่เหมาะสมมาให้ ถ้าวิเคราะห์ว่าเป็นหน้าผู้ชายก็ปรับให้เนียนน้อยหน่อย ยังเห็นหนวดหรือรายละเอียดต่างๆ อยู่ แต่ถ้าไม่ชอบหน้าเนียนเลย ก็ปิดโหมด Beauty ได้ อยากให้หลังเบลอก็เปิดใช้ได้ และที่น่ารักฟรุ๊งฟริ๊งหน่อยก็ก็ AR Sticker ตรงนี้ แต่งหน้าได้น่ารักดี
ส่วนกล้องหลัง ก็ให้สีสไตล์เป็นธรรมชาติ ไม่ได้เร่งให้จัดจ้านเกินไป ก็ถ้าใครที่ชอบแต่งภาพหน่อย ภาพจากกล้องตัวนี้ก็เอาไปแต่งต่อง่ายดี ใครโปรหน่อยก็มีโหมด Expert เพื่อปรับ ISO, ความเร็วชัตเตอร์หรือ White Balace ได้นะคะ แต่แอบเสียดายที่ถ่ายเป็นไฟล์ Raw ไม่ได้ และโหมด Portrait ของกล้องหลังก็น่าสนใจ นอกจากจะทำหลังเบลอได้แล้ว ยังสามารถปรับแสงที่หน้าได้ด้วย แล้วกดเพื่อปรับสัดส่วนภาพให้ดูเป็นภาพจากหนัง และปรับการซูมภาพได้ด้วย
ภาพจากกล้องหลังนี้เบลอเหมือนใช้กล้องใหญ่ถ่ายเลย กล้องหน้าก็เนียนตาดี ภาพที่ถ่ายมาก็ออกมาดีในหลายๆ สภาพแสงเลยนะ ถ่ายวิดีโอก็ได้ถึงระดับ 4K แต่พี่ติดใจนิดหนึ่งคือวิดีโอมันยังสั่นตามมืออยู่หน่อยๆ ก็แปลว่าระบบ EIS ของ Oppo R15 Pro ยังชดเชยการสั่นไหวน้อยไปนิด
ตัวอย่างภาพของ Oppo R15 Pro
เอาแหละเรารีวิว Oppo R15 Pro อย่างละเอียดเรียบร้อย มาสรุปกันดีกว่า สมาร์ทโฟนราคา 19,990 บาทให้ภาพออกมาเป็นธรรมชาติดี สีเครื่องก็สวย ไม่ค่อยเห็นเครื่องสีสันแบบนี้ในตลาด ฟังก์ชั่นของ ColorOS ก็น่าสนใจ อย่างการเสริมการเล่นเกม หรือการซ่อนเมนูจนแสดงเนื้อหาเต็มจอได้ ซึ่งระดับราคา 19,990 บาทก็เน้นขายความพรีเมี่ยมไปเลย เอาเป็นว่าใครอยากได้มือถือสีสวยๆ กล้องดีเป็นธรรมชาติทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง สเปกแรงเกินพอสำหรับใช้งานทั่วไป และเล่นเกมยอดฮิตได้ลื่นๆ Oppo R15 Pro ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ