Our score
9.2Innergie PowerGear 60C
จุดเด่น
- หัวชาร์จครอบจักรวาล USB-C รองรับการชาร์จเร็วกับหลายอุปกรณ์มาก เสียบ MacBook ก็ชาร์จเร็ว เสียบ Nintendo Switch ก็ต่อภาพออกทีวีได้
- รองรับ Huawei Fast Charge และมือถือที่รองรับการชาร์จแบบ 9V
- ตัวเล็ก น้ำหนักเบามาก สามารถติดกระเป๋าได้ตลอดโดยไม่เป็นภาระ
- มีอุปกรณ์เสริมทำให้ชาร์จโน้ตบุ๊กที่ไม่ได้ใช้พอร์ต USB-C ได้แทบทุกรุ่น (ยกเว้น Apple MagSafe)
จุดสังเกต
- รุ่นขาพับได้ต้องระวังเวลาเสียบ เพราะขาอาจพับเก็บเข้าไปถ้าไม่เสียบตรงๆ
- ไม่รองรับมาตรฐานชาร์จเฉพาะตัวอย่าง Huawei SuperCharge หรือ OPPO VOOC Flash Charge
- ราคาค่อนข้างสูง
- มีช่องชาร์จแค่ช่องเดียว ทำให้ชาร์จอุปกรณ์ได้ครั้งละตัว
-
คุณภาพงานสร้าง
9.0
-
ประสิทธิภาพการจ่ายไฟ
10.0
-
ความสะดวกในการใช้งาน
10.0
-
ความหลากหลายของการรองรับอุปกรณ์
9.0
-
ความคุ้มค่า
8.0
ทำไมจะต้องซื้อที่ชาร์จไฟสำหรับคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนใหม่ ในเมื่อของเดิมที่มากับโน้ตบุ๊กหรือมือถือก็ใช้ดีอยู่แล้ว! เราเชื่อว่าคำถามนี้น่าจะเป็นคำถามแรกๆ ที่ถูกถามเมื่อพูดถึงหัวชาร์จ Innergie PowerGear 60C แต่เชื่อผมเถอะครับว่าอแดปเตอร์ตัวนี้มันทำให้ชีวิตดีขึ้นมากจริงๆ ด้วยน้ำหนักที่เบากว่าอแดปเตอร์โน้ตบุ๊กทั่วไปมากๆ (เบาพอๆ กับอแดปเตอร์โทรศัพท์มือถือ) แต่จ่ายไฟได้ 60 Watt มากพอสำหรับโน้ตบุ๊กขนาดกลาง มีชุดเสริมแปลงหัวต่อสำหรับโน้ตบุ๊กหลากหลายแบรนด์ แถมยังรองรับมาตรฐานการชาร์จไฟ USB-PD (Power Delivery) หลายโปรไฟล์มาก จึงรองรับการชาร์จเร็วในหลายอุปกรณ์!
PowerGear 60C กล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ทรงพลัง
Innergie นั้นเป็นแบรนด์ลูกของ Delta Electronics บริษัทผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบกำลังไฟและหม้อแปลงไฟฟ้าจากไต้หวันนะครับ ถ้าสังเกตดูที่อแดปเตอร์ของอุปกรณ์จำนวนมากที่อยู่ในบ้านเราจะมีตรายี่ห้อ Delta ติดอยู่ด้วย จึงถือเป็นแบรนด์ที่ใกล้ตัวผู้ใช้โดยที่เราไม่รู้ตัว
ความแตกต่างของแบรนด์ Delta กับ Innergie นั้นอยู่ที่ Delta จะเน้นการผลิตในภาคอุตสาหกรรม หรือเป็นโรงงานผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าให้แบรนด์อื่นๆ นำไปใช้ แต่ Innergie นั้นเป็นเหมือนตัวแทนที่เอาเทคโนโลยีของ Delta มาออกแบบและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ตามบ้านทั่วไป
จากประสบการณ์ของ Delta เราเลยไม่แปลกใจที่ Innergie PowerGear 60C จะเป็นหัวชาร์จที่มีขนาดเล็กมาก (คิดเป็นปริมาตรก็ 55 cc) เมื่อเทียบกับการจ่ายไฟสูงสุด 60 Watt ของมัน (ประสิทธิภาพการแปลงไฟฟ้า 92%) โดย PowerGear 60C นั้นมี 2 รุ่นย่อยให้เลือกซื้อดังนี้
- รุ่นขาแบนพับได้ (ขา US) มีขนาด 30.4 x 30.4 x 60 mm (กว้าง x ยาว x สูง) และเบามากแค่ 85 กรัม รุ่นนี้แนะนำสำหรับซื้อใช้ในไทยเพราะถูกกว่า และตัวเล็กกว่า
- รุ่นขาปลั้กนานาชาติ (International) มาพร้อมขาปลั้ก 3 แบบที่ถอดเปลี่ยนได้ (ขาแบน, ขากลม, ขาเหลี่ยม 3 ขา) แต่รุ่นนี้จะเทอะทะหน่อยเพราะพับขาไม่ได้ และราคาขายแพงกว่า
ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น Innergie ก็ชูเทคโนโลยี InnerShield ที่ติดตั้งอยู่ในตัวหัวชาร์จและสายครับ เพื่อป้องกันการช็อต ป้องกันอุณหภูมิสูง ป้องกันกระแสเกิน สารพัดจะป้องกันเพื่อสร้างความมั่นใจ โดย Innergie PowerGear 60C นั้นรับประกันสินค้านาน 3 ปี
นอกจากนี้ในชุดยังมาพร้อมสาย USB-C to USB-C อย่างดี ความยาว 1.5 เมตรด้วย ไม่ต้องไปซื้อสายแยกเหมือนกับหัวชาร์จ USB-C ของแอปเปิ้ล!
ประสิทธิภาพในการจ่ายไฟของ PowerGear 60C
Innergie PowerGear 60C นั้นรองรับการจ่ายไฟตามมาตรฐาน USB-PD ได้ 5 โปรไฟล์คือ 5V/3A, 9V/3A, 12V/3A, 15V/3A, 20V/3A ซึ่งในระดับ 20V นี้เองที่จ่ายไฟได้สูงสุด 60 Watt ซึ่งเราก็ได้ทดสอบการจ่ายไฟของ PowerGear 60C กับอุปกรณ์ที่ใช้พอร์ต USB-C หลายชนิดมาก โดยใช้ Satechi Type-C Power Meter Tester วัดการจ่ายกระแสไฟ ซึ่งผลออกมาเป็นดังนี้
- อุปกรณ์ที่จ่ายไฟ 5V 2A ตามปกติ : OPPO Find X
- ทดสอบกับอุปกรณ์ของ Huawei พบว่า PowerGear 60C สามารถจ่ายไฟแบบ Huawei Fast Charge ทำให้ชาร์จเต็มเร็วกว่าหัวชาร์จทั่วไป หรือพูดอีกอย่างว่า Fast Charge ของหัวเว่ยคือมาตรฐาน USB-PD ที่ใช้ความดันไฟฟ้า 9V โดยเมื่อเสียบแล้วอุปกรณ์จะขึ้นคำว่า Fast Charge
- Huawei Mate 10 Pro ใช้กระแส 9V 1A
- Huawei nova 3 ใช้กระแส 9V 1A
- Huawei MediaPad M5 Pro ใช้กระแส 9V 2A
- อุปกรณ์อื่นๆ ที่ PowerGear 60C สามารถชาร์จเร็วแบบ 9V ได้
- Vivo NEX S – 9V 1.1A
- Sony Xperia XZ2 Premium – 9V 1.5A
- ทดสอบกับ Nintendo Switch สามารถเอา PowerGear 60C จ่ายไฟให้ Dock แล้วต่อภาพออกทีวีได้ โดยใช้กระแส 15V 1.2A ซึ่งหัวชาร์จ USB-C ทั่วไปที่ไม่ใช่ของ Nintendo จะไม่สามารถจ่ายไฟแรงพอที่จะต่อภาพออกทีวีได้
- ชาร์จ MacBook ขนาด 12 นิ้ว ใช้กระแส 20V 1.4A
เมื่อเทียบกับหัวชาร์จ USB-C 29W ของ Apple ที่ได้มาพร้อมกับ MacBook 12 นิ้ว พบว่าไม่สามารถชาร์จไฟในระดับ 9V ได้ ทำให้ไม่สามารถทำ Fast Charge กับอุปกรณ์ของ Huawei ได้ นอกจากนี้ยังไม่สามารถเอาไปจ่ายไฟกับ Dock ของ Nintendo Switch เพื่อต่อภาพออกจอทีวีได้ (วัดกระแสที่จ่ายให้ Switch ได้ 14.5V ไม่ใช่ 15V ทำให้ภาพไม่ขึ้น) และเมื่อเสียบชาร์จกับ MacBook 12 นิ้ว จะได้กระแสที่ 15V 2A
อแดปเตอร์ตัวสุดท้ายที่เราใช้ทดสอบคือหัวชาร์จ USB-C ของ Nintendo Switch ที่สเปคระบุว่าจ่ายไฟได้ 15V 2.6A แน่นอนว่าเป็นหัวชาร์จของ Switch เอง จึงสามารถต่อกับ Dock เพื่อเอาภาพขึ้นจอทีวีได้โดยใช้กระแส 15V 1.2A นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จ MacBook 12 นิ้วได้ด้วยกระแส 15V 2A แต่ที่แปลกสำหรับอแดปเตอร์ตัวนี้คือมันไม่สามารถชาร์จ OPPO Find X และ Vivo NEX S ได้ครับ ไฟไม่เข้าเลย
ตารางประสิทธิภาพการจ่ายไฟของหัวชาร์จต่างๆ
อุปกรณ์ชาร์จ | Innergie PowerGear 60C | Apple USB-C 29 W (ของ MacBook 12 นิ้ว) | Nintendo Switch USB-C Adapter |
---|---|---|---|
OPPO Find X | 5V 2A | 5V 2A | ชาร์จไม่เข้า |
Huawei Mate 10 Pro | 9V 1A (ขึ้น Fast Charge) | 5V 1.7A | 5V 1.5A |
Huawei nova 3 | 9V 1A (ขึ้น Fast Charge) | 5V 1.7A | 5V 1.5A |
Huawei MediaPad M5 Pro | 9V 2A (ขึ้น Fast Charge) | 5V 1.4A | 5V 1.5A |
Vivo NEX S | 9V 1.1A | 5V 2A | ชาร์จไม่เข้า |
Sony Xperia XZ2 Premium | 9V 1.5A | 5V 2A | 5V 1.5A |
Nintendo Switch | 15V 1.2A (ภาพออกทีวี) | 14.5V 1.1A (ภาพไม่ออกทีวี) | 15V 1.2A (ภาพออกทีวี) |
MacBook 12 นิ้ว | 20V 1.4A | 14.5V 2A | 15V 2A |
Microsoft Surface Go | 19.5V 2.3A | 14.5V 2A | 14.5v 2.6A |
Mi Laptop Air | 20V 2.5A | ชาร์จไม่เข้า | ชาร์จไม่เข้า |
HP Envy 360 | 20V 2.7A | 14.5V 2A | 15V 2.25A |
สรุป Innergie PowerGear 60C สามารถจ่ายไฟได้หลากหลายระดับ และรองรับอุปกรณ์มากที่สุดแล้ว เสียบมือถือก็ชาร์จเร็ว เสียบ Dock ของ Nintendo Switch ก็จ่ายไฟมากพอจนส่งภาพออกทีวีได้ เสียบกับ MacBook ก็ชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว เพียงแต่ว่ามันไม่สามารถจ่ายไฟในเทคโนโลยีเฉพาะตัวอย่าง Huawei SuperCharge หรือ OPPO VOOC Flash Charge ได้ ซึ่งเมื่อเราสอบถามเรื่องนี้จากทาง Innergie ประเทศไทยก็ได้คำตอบว่า Innergie โฟกัสที่เทคโนโลยีมาตรฐานอย่าง USB-C ที่ใช้รูปแบบการจ่ายไฟเป็น USB-PD เป็นหลัก การรองรับมาตรฐาน Quick Charge บางตัวทำให้เกิดผลกระทบเมื่อไม่ได้ใช้กับอุปกรณ์ที่รองรับ QC ทำให้การชาร์จช้าลงเหลือแค่ 5V 1A แทนที่จะเป็น 5V 2A อย่างที่ Innergie ทำได้ตอนนี้ครับ
Innergie PowerGear 60C ชาร์จโน้ตบุ๊กยี่ห้ออะไรก็ได้!
นอกจากเราจะใช้ PowerGear 60C ชาร์จอุปกรณ์ USB-C ได้หลากหลายแล้ว Innergie ยังมีอุปกรณ์เสริมอีกตัวหนึ่งเรียกว่า MagiCable 150 ที่เป็นสายพิเศษเพื่อต่อไฟจาก PowerGear 60C ไปชาร์จโน้ตบุ๊กได้แทบทุกรุ่นในตลาดครับ (ยกเว้น MacBook ที่ใช้หัวต่อแบบ MagSafe เพราะแอปเปิ้ลไม่ให้สิทธิ์บริษัทอื่นๆ ทำหัวต่อแบบนี้เลย) ทำให้เราไม่ต้องพกอแดปเตอร์โน้ตบุ๊กตัวหนักๆ แล้ว พกแค่ PowerGear 60C กับสาย MagiCable 150 ก็พอ
ในชุดของ MagiCable 150 นั้นมีหัวต่อสำหรับเสียบกับโน้ตบุ๊กแบรนด์ต่างๆ มาอีก 6 หัว รองรับแบรนด์หลักๆ อย่าง Asus, Acer, Dell, HP, Lenovo วิธีใช้ก็ง่ายๆ หาให้เจอว่าโน้ตบุ๊กของเราใช้หัวต่อตัวไหน แล้วเสียบหัวต่อเข้ากับสาย MagiCable 150 แล้วเอาสายไปต่อกับช่อง USB-C ของ PowerGear 60C ก็เรียบร้อย
แต่ถ้า 6 หัวที่แถมมาให้นั้นดันใช้กับโน้ตบุ๊กของเราไม่ได้สักหัว Innergie ก็มีโครงการที่เรียกว่า Free Tip Program แค่ค้นกูเกิ้ลว่า “Free Tip Program” หรือ “โปรแกรมหัวต่อฟรี” เพื่อหาหน้าเว็บของ Innergie ประเทศไทย แล้วเข้าไปกรอกข้อมูลรวมถึงยี่ห้อและรุ่นของโน้ตบุ๊กที่ไม่มีหัวต่อ ทีมงานก็จะติดต่อกลับมาทางอีเมลและส่งหัวต่อที่เข้ากันได้กับโน้ตบุ๊กของเรามาให้ฟรีทางไปรษณีย์ ซึ่งทีมงานแบไต๋ก็ได้ลองใช้บริการนี้เพราะหัวต่อที่ให้มานั้นต่อกับ Lenovo IdeaPad รุ่นเก่าไม่ได้ ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงสัปดาห์ก็ได้หัวต่อใหม่มาใช้แล้วครับ สบายใจแล้วทีนี้
และ Innergie ยังมีอุปกรณ์เสริมของสาย MagiCable 150 อีกตัว (เรียกว่าอุปกรณ์เสริมของอุปกรณ์เสริมก็ได้) เรียกว่า WizardTip ครับ ใช้เสียบคั่นกลางระหว่างปลายของ MagiCable 150 กับหัวต่อโน้ตบุ๊ก เพื่อเพิ่มพอร์ต USB-A สำหรับชาร์จอุปกรณ์มาอีก 1 ช่อง ซึ่งพอร์ตที่เพิ่มเข้ามานี้สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 5V 2.4A ก็แรงพอที่จะชาร์จ iPad เต็มได้อย่างรวดเร็วครับ ก็เหมาะสำหรับคนที่อยากชาร์จโน้ตบุ๊กพร้อมอุปกรณ์ USB ไปพร้อมๆ กันอย่างรวดเร็ว
ราคาของ Innergie PowerGear 60C
อย่างที่บอกไปว่า PowerGear 60C นั้นมี 2 รุ่น ซึ่งมีราคาดังนี้
- Innergie PowerGear 60C รุ่นขาแบนพับได้ (ขา US) – 2,890 บาท
- Innergie PowerGear 60C รุ่นขาปลั้กนานาชาติ มี 3 ขาให้เลือกเปลี่ยน – 3,190 บาท
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น จึงขอเทียบราคากับ Apple USB-C Adapter
- Apple USB-C Adapter 30 Watt (มากับ MacBook 12 นิ้ว) – 1,700 บาท
- Apple USB-C Adapter 61 Watt (มากับ MacBook Pro 13 นิ้ว และตัวนี้จ่ายไฟได้สูงเท่า PowerGear 60C) – 2,500 บาท
- Apple USB-C Adapter 87 Watt (มากับ MacBook Pro 15 นิ้ว) – 2,800 บาท
- สาย USB-C to USB-C ยาว 2 เมตร (ต้องซื้อแยก ไม่ได้แถมมากับอแดปเดอร์ของแอปเปิ้ล) – 790 บาท
ถ้าเทียบที่ตัว Apple USB-C 61 Watt พร้อมซื้อสาย USB-C ด้วย ราคาจะสูงกว่า Innergie PowerGear 60C ที่ความสามารถรอบด้านกว่าและเบากว่า แต่ถ้าใช้แค่ 30 Watt ซื้อหัวชาร์จของแอปเปิ้ลจะได้ราคาที่ถูกกว่าครับ ส่วนจะชาร์จกับอุปกรณ์อะไร ได้ผลเป็นยังไง ย้อนกลับไปดูตารางข้างบนที่เราทำเทียบประสิทธิภาพไว้นะครับ
ส่วนราคาของอุปกรณ์เสริมเป็นดังนี้
- MagiCable 150 (สายสำหรับเสียบชาร์จโน้ตบุ๊กอื่นๆ) – 790 บาท
- WizardTip (อุปกรณ์เสริมของ MagiCable ให้ชาร์จ USB เพิ่มได้) – 490 บาท
สรุป Innergie PowerGear 60C หัวชาร์จครองพิภพ
ต้องยอมรับว่า Innergie PowerGear 60C เป็นหัวชาร์จที่ยืดหยุ่นที่สุดตัวหนึ่งตั้งแต่เราเคยใช้มา คือชาร์จอุปกรณ์ USB-C ได้หลากหลาย แถมหลายอุปกรณ์ยังรองรับการชาร์จเร็วด้วย ทำให้พกหัวชาร์จแค่ตัวเดียวก็สามารถจัดการกับอุปกรณ์ USB-C ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง MagiCable 150 ทำให้ชาร์จโน้ตบุ๊กอื่นๆ ได้ด้วยน้ำหนักที่เบากว่าอแดปเตอร์โน้ตบุ๊กทั่วไปมากด้วย
แต่จุดอ่อนของ PowerGear 60C นั้นอยู่ที่ราคาครับ อาจจะสูงไปสักนิด แล้วก็ไม่รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเฉพาะตัวอย่าง Huawei SuperCharge หรือ OPPO VOOC แต่ก็แลกกับน้ำหนักที่เบากว่า และความยืดหยุ่นในการชาร์จอุปกรณ์ที่มากกว่า
เปรียบเทียบน้ำหนักของชุดชาร์จต่างๆ