Our score
8.7Redmi Note 7
จุดเด่น
- เครื่องมีความสวยงามเกินราคาไปมาก
- กล้องหลัง 48 ล้านพิกเซลถ่ายภาพได้ดีพอสมควร
- สเปกตอบโจทย์คนเล่นเกมได้
จุดสังเกต
- ยังมีติ่งหน้าจออยู่
- ไม่แถมหูฟังในกล่อง
- เลนส์กล้องหลังยื่นออกมาค่อนข้างมาก เสี่ยงต่อรอยขีดข่วน
-
ความสวยงามของตัวเครื่อง
9.0
-
คุณภาพจอ
8.0
-
สเปกเครื่อง
8.5
-
กล้อง
8.0
-
ราคา
10.0
อีก 1 มือถือที่ได้ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในช่วงเปิดตัวในวันแรกกับ Xiaomi Redmi Note 7 เมื่อมือถือระดับกลางเปิดตัวมาด้วยราคาสุดเหลือเชื่อ เริ่มต้น 4,999 บาท! จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง มาดูรายละเอียดไปพร้อมกัน ซึ่งเครื่องที่ทำการทดสอบคือรุ่น Ram 4 GB Rom 64 GB ราคา 6,599 บาท จะเป็นอย่างไรมาดูกันเลย
สเปก
- CPU Qualcomm® Snapdragon™ 660 AIE 2.2GHz
- RAM: 3 GB, 4 GB
- ROM: 32 GB, 64 GB, 128 GB
- หน้าจอแบบหยดน้ำความละเอียด FHD+ 1080×2380
- กล้องหลัง: ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f2.0 ชิปเซ็ต Samsung ISOCELL GM1 + 5 ล้านพิกเซล depth sensor
- กล้องหน้า: ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f2.2
- OS: Android 9.0 (Pie); MIUI 10
- วัสดุ: กระจก Corning® Gorilla® Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- แบตเตอรี่: 4000 mAh ใชังานได้ทั้งวัน พร้อม Fast Charge 4.0
- ช่องเสียบสาย USB-C และช่อง 3.5mm แยกกันบน-ล่าง
- มี IR blaster ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์และสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าได้
- สี: Neptune Blue, Space Black และ Nebula Red
- ประกันศูนย์ 18 เดือนเต็ม
ตัวเครื่องด้านหน้า
Redmi Note 7 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.3 นิ้วบนสัดส่วน 19.5 ต่อ 9 พร้อมความละเอียดระดับ FHD+ 1080×2380 จัดเต็ม ใช้กระจก Corning® Gorilla® Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งจากการใช้งานถือว่าชัดเต็มตากับหน้าจอระดับนี้ ถึงจะมีจุดติเล็กน้อยตรง “ติ่ง” กล้องหน้าด้านบนในชื่อ Dot Drop Display แต่ก็สามารถปิดด้วยแถบดำได้ โดยหน้าจอสามารถแสดงผลสีได้กว้าง 84% NTSC ก็เรียกได้ว่าใช้งานทั่วไปได้ไม่ติดขัด และหน้าจอสามารถสู้แสงแดดแรง ๆ ไหว ไม่มืดจนมองไม่เห็น
ตัวเครื่องด้านหลัง
ด้านหลังของตัวเครื่องก็ใช้กระจก Corning® Gorilla® Glass 5 เช่นเดียวกัน ทำให้ผิวสัมผัสดีเวลาถือ แต่มีจุดติเล็กน้อยตรงเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างง่าย และด้านเลนส์ของกล้องที่ยื่นออกมาก็มีโอกาสขีดข่วนบางอย่าง หรือเป็นรอยขีดข่วนได้ แต่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการใส่ Case ที่แถมมากับกล่องครับ
การใช้งาน
ว่าด้วยการใช้งาน มือถือ Redmi Note 7 ถือได้ว่ามีการตอบสนองที่รวดเร็วเพราะใช้ CPU Qualcomm® Snapdragon™ 660 AIE 2.2GHz ที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านการใช้งานได้อย่างเต็มที่สำหรับมือถือระดับกลาง เชื่อมต่อ WiFi 5 GHz ได้ รับชม YouTube ได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080p
เล่นเกม
จากการทดสอบเล่นเกม Ragnarok M และ Laplace M ก็สามารถเล่นได้ลื่นไหล ไม่กระตุก (แต่ไม่ลื่นเท่า Snapdragon 845 หรือ 855 อย่างแน่นอน) ซึ่งหน้าจอค่อนข้างเต็ม และมีการถมดำที่ขอบบน ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการเล่นเกมแต่อย่างใด
แบตเตอรี่
ด้านแบตเตอรี่ของ Redmi Note 7 นี้ถือได้ว่าจัดหนักจัดเต็ม สามารถใช้งานได้ยาวนานทั้งวันเพราะมีขนาดถึง 4000 mAh ถ้าไม่ได้ถูกใช้งานหนักหน่วงเช่น เล่นเกม หรือดูคลิปต่าง ๆ ตลอดเวลา งานนี้ไม่ต้องพก Power Bank อีกต่อไป โดยใช้หัว USB-C ล่าสุด แถมยังมี Qualcomm® Quick Charge™ 4 สำหรับชาร์จแบตฯ ได้ไวแบบสุด ๆ อีกด้วย
Benchmark
ผลการทดสอบ Benchmark เครื่อง Redmi Note 7 บนแอปฯ ชื่อดังต่าง ๆ มีดังนี้
Antutu
คะแนนออกมาที่ 142,722 คะแนน ถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับมือถือในราคาพอ ๆ กัน และสามารถสัมผัสหน้าจอพร้อมกันได้ถึง 10 จุด
GeekBench CPU Mark
ทดสอบ Geekbench ได้คะแนน 1,642 สำหรับ Single Core และ 5,929 คะแนนสำหรับ Multi-Core
Androbench
สำหรับคะแนนฝั่ง AndroBench ก็ค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้ ถึงจะไม่สูงมาก แต่ก็พอจะใช้งานได้อย่างลื่นไหล (ยกเว้นตอนถ่ายภาพขนาด 48 ล้าน จะใช้เวลาซักพักในการประมวลผล + เก็บข้อมูล)
ระบบความปลอดภัย
สำหรับ Redmi Note 7 มาพร้อมระบบปลดล็อคความปลอดภัย 4 แบบหลัก ๆ คือ ปลดล็อคบนหน้าจอ ปลดล็อคด้วยรหัสผ่าน ปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือ(ด้านหลัง) และสุดท้ายคือการปลดล็อคด้วยใบหน้า ซึ่งเรียกได้ว่าจัดให้ครบครันจัดเต็มแบบสุด ๆ ไปเลย
กล้องหลัง
มาถึงเรื่องที่หลาย ๆ คนน่าจะรอคอย นั่นคือการถ่ายภาพของกล้อง Xiaomi Redmi Note 7 โดยกล้องหลังของ Redmi Note 7 มาพร้อมความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f2.0 ชิปเซ็ต Samsung ISOCELL GM1 + 5 ล้านพิกเซล depth sensor จัดเต็มเหนือราคาไปไกลมาก มาชมภาพจากการถ่ายโหมดต่าง ๆ กันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
โหมด Auto
ภาพที่ถ่ายจากโหมด Auto ออกมาค่อนข้างสวยงาม รายละเอียดครบ สามารถเปิดระบบ AI เพื่อช่วยให้มือถือทำการประมวลผลซีนที่จะถ่ายและปรับแสงสีให้สวยงามได้มากกว่าเดิม
โหมด Pro + ภาพขนาด 48 ล้านพิกเซล
โหมด Manual ของมือถือ Redmi Note 7 ตัวนี้นอกจากจะสามารถปรับความเร็วชัตเตอร์ White Balance, ISO หรือ Focus ได้แล้ว ยังสามารถปรับให้กล้องถ่ายภาพที่ความละเอียด 48 ล้านพิกเซลออกมาได้อีกด้วย ซึ่งภาพที่ได้ก็เรียกได้ว่าค่อนข้างชัดโดยเฉพาะด้านรายละเอียดในภาพถึงแม้จะซูมเข้าไป ภาพก็ยังคงชัดเจนอยู่
ภาพอื่น ๆ ที่ถ่ายด้วยความละเอียด 48 ล้านพิกเซล
โหมด Portrait
อีก 1 โหมดที่ขาดไม่ได้สำหรับคนชอบถ่ายภาพบุคคล โดยเราได้ทำการถ่ายภาพโหมด Portrait ในช่วงเวลาเย็น ๆ ถึงกลางคืน ก็จะเห็นได้ว่าภาพออกมาค่อนข้างเนียน โดยเฉพาะหน้าชัด หลังเบลอที่ละลายแบบเห็น ๆ เพราะมี Depth Sensor คอยตรวจสอบระยะวัตถุนั่นเอง แถมยังมี AI portraits ช่วยในการประมวลผลภาพออกมาอีกด้วย
โหมดกลางคืน
โหมดสำหรับคนชอบถ่ายภาพตอนกลางคืน โหมดนี้ก็ถือว่าเป็น 1 ในตัวชูโรงที่ทำให้คุณถ่ายภาพกลางคืนออกมาได้สวยงามยิ่งขึ้น เพราะโหมดนี้จะทำการปรับ Balance ของจุดที่มีแสงลงและดึงภาพตรงจุดที่ไม่มีแสงขึ้นมา และที่สำคัญคือ ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องก็สามารถถ่ายโหมดนี้ได้สบาย ๆ
กล้องหน้า
สำหรับขา Selfie กล้อง Redmi Note 7 ตัวนี้ก็จัดเต็มให้คุณ มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f2.2 ถ่ายหน้าชัด หลังเบลอได้ด้วยโหมด Portrait รวมไปถึงปรับความสวยงามด้วย AI beautify ได้อีกด้วย
สรุปจุดเด่น
- ผิวสัมผัสของเครื่องดูโดดเด่นมีราคา
- กล้องดีงามเกินราคา
- สเปกสามารถเล่นเกมได้แทบทุกเกมบนมือถือ
จุดสังเกต
- ไม่มีแถมหูฟังในกล่อง
- มีติ่งบนหน้าจอ สำหรับคนไม่ชอบก็จะไม่ชอบไปเลย แต่ถ้าชินแล้วก็ใช้งานได้ปกติ
- กล้องหลังยื่นมาค่อนข้างเยอะ ทำให้มีรอยขีดข่วนค่อนข้างง่าย
ราคา
มาถึงสุดท้ายกับสิ่งที่หลาย ๆ คนน่าจะทราบกันมาแล้วก่อนหน้านี้ กับราคาของ Xiaomi Redmi Note 7 ที่เรียกได้ว่าออกมาถล่มตลาดมือถือราคาระดับกลางไปเลยด้วยการขายรุ่น Ram 3 GB Rom 32 GB ในราคา 4,999 บาท ส่วนอีก 2 รุ่นมีราคาดังนี้
- Ram 4 GB Rom 64 GB ราคากลาง 6,599 บาท
- Ram 4 GB Rom 128 GB ราคากลาง 6,799 บาท
ทั้งหมดนี้หาซื้อได้ที่เว็บไซต์ Lazada และร้าน AIS Shop โดยมีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะลูกค้า AIS ในราคาต่ำสุด 3,790 บาท พร้อมแพคเกจ 699 บาทขึ้นไปและจ่ายล่วงหน้า 1,500 บาท ก็เรียกได้ว่า