[รีวิว] Under Armour HOVR: รองเท้าไฮเทค บันทึกข้อมูลการวิ่งในตัว เพื่อออกกำลังกายให้ดีขึ้น
Our score
8.3

Under Armour HOVR 2 Infinite

จุดเด่น

  1. ใส่แล้วกระชับเข้ากับเท้า
  2. เก็บข้อมูลตลอดเวลา แบบไม่ต้องพกสมาร์ตโฟนติดตัว
  3. ระบายอากาศได้ดี

จุดสังเกต

  1. การเชื่อมต่อระหว่างรองเท้ากับแอปที่เชื่อมไม่ได้ในบางครั้ง
  2. พื้นรองเท้าไม่ค่อยเกาะบนถนนที่เปียก หรือมีน้ำขัง
  • ความสวยงาม

    8.0

  • การสวมใส่

    8.0

  • คุณภาพ

    9.0

  • ความสบาย

    8.0

  • ราคา

    8.5

ทุกวันนี้ เรื่องของเทคโนโลยีการออกกำลังกาย หรือ Health Tech เป็นเรื่องที่หลายต่อหลายคนให้ความสนใจ ทั้งสายไอที และสายรักสุขภาพ หลายต่อหลายอุปกรณ์ที่มีตามท้องตลาดก็ตอบสนองความต้องการได้ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น แทร็คกิ้ง เสื้อผ้า ตาชั่ง หรือแม้แต่รองเท้าก็ยังมีการฝังเทคโนโลยีบางอย่างไว้ อย่าง Under Armour HOVR ที่เรารีวิวในวันนี้มีการใส่เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวลงไปในตัวรองเท้าเลย ซึ่งสามารถซิงก์ข้อมูลการออกกำลังกายกับสมาร์ตโฟนได้

รองเท้าในตระกูล HOVR นั้นเป็นรองเท้าสำหรับนักกีฬาสายวิ่งโดยเฉพาะจาก Under Armour ครั้งนี้มาในรุ่นใหม่อย่าง HOVR 2 และส่งรองเท้าในรุ่นนี้มาถึงห้าแบบ ซึ่งมีรูปลักษณ์และรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ การจับและบันทึกข้อมูลการวิ่งของเราผ่านบลูทูธ

ทำความรู้จักกับรองเท้าก่อน

Under Armour HOVR 2 มาทั้งหมด 5 คู่ 5 แบบ ให้เลือกสวมใส่

แต่รุ่นที่ #beartai นำมารีวิวในครั้งนี้ คือแบบ Infinit ซึ่งถือเป็นแบบท็อปสุดของรุ่น HOVR

แน่นอนว่าลักษณะของรองเท้าก็คล้ายๆ กับรองเท้าทั่วๆ ไป ที่มีขายตามท้องตลาด แต่ความพิเศษของรองเท้าที่ออกแบบมาสำหรับการวิ่งคือ แผ่นรองเท้าที่โอบรับอุ้งเท้า และส่วนเว้าของเท้าเราได้อย่างพอดี ใส่สบาย ไม่แข็งเกินไป ซึ่งแผ่นรองเท้านี้ไม่ได้เป็นแผ่นธรรมดาๆ แต่เป็นแผ่นที่ผลิตจากสารประกอบโฟมเพื่อรองรับการกระแทก จะเป็นการเดิน หรือการวิ่งก็ตาม ซึ่งเป็นเป็นนวัตกรรมที่ทาง Under Armour ร่วมมือกับ DOW Chemical สร้างสรรค์ขึ้นมา และห่อหุ้มด้วยโครงสร้างตาข่ายที่เรียกว่า Energy Web ช่วยคงรูปร่างของแผ่นรองเอาไว้ ให้เหมาะกับฝ่าเท้าของเรา นอกจากรองรับแรงกระแทกแล้ว ยังสามารถป้องกันอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการวิ่งจากการลงแรงวิ่งที่ไม่สม่ำเสมอกัน

บอกให้รู้ไว้ว่าบลูทูธในรองเท้าทำงานอย่างไร

สิ่งหนึ่งที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ก็คือ มีการฝังชิปบลูทูธลงในรองเท้า แต่ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าอยู่ตรงบริเวณไหนของรองเท้า มีแค่สัญลักษณ์บลูทูธที่ติดอยู่ใต้ลิ้นรองเท้าข้างขวามือของตัวเราเอง โดยชิปบลูทูธที่ว่านี้ จะจดจำค่า จดจำตำแหน่ง และส่งผลทั้งหมดมายังสมาร์ตโฟนที่เชื่อมต่อกับรองเท้า ผ่านแอปพลิเคชั่น MapMyRun หรือจะแอปอื่นๆ ในเครืออย่าง MapMyWalk สำหรับผู้ที่ชอบเดินออกกำลังกาย, MapMyRide สำหรับสายปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ, MapMyFitness สำหรับสายฟิตเนส และ MapMyHike สำหรับสายปีนผาโดยเฉพาะ

แอปพลิเคชั่น MapMyRun

ซึ่งจริงๆ แล้ว จะโหลดแอปใดแอปหนึ่งในกลุ่มนี้ก็ได้ แล้วค่อยไปตั้งค่าว่าเราออกกำลังกายด้วยวิธีไหน ภายในการตั้งค่าภายในแอป (ซึ่ง #beartai แนะนำให้ใช้งานแอปพลิเคชั่น MapMyRun หรือ MapMyWalk ก็ได้)

แอปพลิเคชั่น MapMyRun ทำอะไรได้บ้าง

  • In Depth Coaching การวิเคราะห์เชิงลึกที่ให้ผลลัพธ์ตรงกับผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ เสมือนมีโค้ชวิ่งส่วนตัว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • Customized Training Plan การออกแบบแผนการซ้อมวิ่งเฉพาะตัวบุคคล โดยกำหนดจากค่าน้ำหนัก และส่วนสูงของนักวิ่งแต่ละคน
  • Track Achievement การติดตามผลการวิ่งและการซ้อมอย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปประเมินและอกกแบบการวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้
  • Metrics การแสดงค่าและคำนวนผลต่างๆ ที่ควรรู้ในการออกกำลังกาย เช่น ระยะความยาวก้าว จำนวนก้าว การเร่งความเร็ว
  • Friends and Challenge Community ชุมชนออนไลน์ที่ให้ผู้ใช้ได้พบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ รวมถึงแข่งขันกันในกลุ่มนักวิ่งที่มีมากกว่า 245 ล้านยูสเซอร์

สำหรับการสวมใส่นั้น เท่าที่ได้ลองสวมใส่มาสักระยะหนึ่ง สัมผัสได้ถึงความโอบรับเข้ากับฝ่าเท้า และไม่รู้สึกปวดเท้า ในเวลาที่ต้องยืนนานๆ เมื่อเทียบกับรองเท้าทั่วๆ ไป ที่พื้นรองเท้ามาแบบเรียบๆ หรือไม่ค่อยโอบเท้าเท่าที่ควร ตัวของรองเท้าไม่ถือว่าหนักเกินไป ตัวของรองเท้าที่ดูเหมือนว่าจะคับเท้าในช่วงแรกๆ ที่สวมใส่ แต่เมื่อใส่ไปได้สักพัก จะรู้สึกได้ถึงการห่อหุ้มเท้าของเรา ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นข้อดี

การดีไซน์รองเท้าให้ด้านหน้ามีตาข่ายถักทอไขว้กันเป็นแผ่นกว้างๆ เสมือนเป็นการช่วยระบายอากาศและความอับชื้นภายในรองเท้าได้เป็นอย่างดี พื้นยางรองเท้าถือว่าเกาะกับพื้นผิวถนนได้อย่างดี ไม่มีลื่น แต่ถ้าใส่คู่นี้ไปเดินบนพื้นหรือถนนที่มีน้ำ อันนี้ต้องเพิ่มความระวังสักหน่อย เพราะพื้นจะไม่ค่อยเกาะ และทำให้ทรงตัวไม่ค่อยอยู่ อาจจะทำให้ลื่นไถลไปก็ได้

พื้นรองเท้า

สุดท้าย ต้องมาวัดกันที่ราคา Under Armour HOVR 2 Infinite คู่นี้ สนนราคาที่ประมาณ 6,190 บาท เมื่อเทียบกับความคุ้มค่า เทคโนโลยี และเรื่องอื่นๆ ที่ได้กล่าวมาในข้างต้นนั้น ถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับราคาที่ต้องแลกเพื่อได้มาเป็นเจ้าของ ในความรู้สึกของผู้เขียน ด้วยความที่ชอบใส่รองเท้าประเภทรองเท้ากีฬา ใส่ไปทำงานในออฟฟิศ ใส่ไปงานแถลงข่าวตามที่ต่างๆ หรือใส่ไปเที่ยวในบางครั้ง ถือว่าคู่นี้ครบและคุ้ม (แต่จะคุ้มกว่านี้ต้องออกกำลังกายด้วยนะ บ.ก. ฝากมา…)

สำหรับท่านใดที่สนใจรองเท้า Under Armour ในซีรีส์ HOVR 2 หรือในซีรีส์อื่นๆ รวมไปถึงอุปกรณ์กีฬา และเครื่องแต่งกาย สามารถไปสัมผัสและทดลองได้ที่ Under Armour Brand Shop ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือจะเป็นตัวแทนจำหน่ายตามศูนย์การค้าก็ได้เช่นกัน