รีวิว Sennheiser Momentum Free In-Ear Wireless หูฟังเสียงเยี่ยม ที่มีสายแต่ไร้สาย
Our score
8.1

Sennheiser Momentum Free In-Ear Wireless

จุดเด่น

  1. คุณภาพของเสียงดีมาก
  2. น้ำหนักของตัวหูฟังที่เบามาก
  3. รูปทรงออกแบบพิเศษใส่แล้วไม่อึดอัด สบายเหมือนไม่ใส่
  4. ขยับตัวงานแน่นกระชับไม่ว่าจะกระโดดโลดเต้น หรือสนุกไปกับการฟังเพลงก็มั่นใจได้ว่าหูฟังยังทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
  5. ชอบลักษณะของสายคล้องคอที่สะดวกสบาย ไม่เกะกะ พักการใช้งานก็ยังคล้องคอไว้ได้โดยไม่หล่น ขนาดของสายเวลาเก็บก็ไม่พันกัน

จุดสังเกต

  1. ด้วยรูปลักษณะทำให้นึกถึงการออกกำลังกาย แต่ก็ไม่มีส่วนไหนอธิบายว่ากันน้ำ กันเหงื่อได้ ก็คิดว่าไม่สามารถกันน้ำ กันเหงื่อได้ครับ
  2. อยากให้แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น เพราะเรามีหยุดพักบ้างพอจะมาฟังต่อ แบตไม่พอซะแล้ว เราใช้ชีวิตในการทำงานกันวันละ 8 ชั่วโมง อยากให้ครอบคลุมแบบฟังตอนไหนก็ได้
  • คุณภาพเสียง

    9.0

  • คุณภาพวัสดุ

    8.5

  • ความคล่องตัวในการใช้

    8.0

  • ความสามารถในการคุยโทรศัพท์

    8.0

  • ความคุ้มค่า

    7.0

การจะหาสิ่งที่ดีและเหมาะสมในการใช้งานมาใช้ เป็นการยากพอสมควร วันนี้ผมอยากจะแนะนำ หูฟัง ยี่ห้อหนึ่ง นั่นก็คือ เซ็นไซเซอร์ (Sennheiser) ชี่อนี้น่าจะคุ้นหูกันมานานในฐานะเป็นบริษัทชั้นนำของเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเสียงระดับโลกได้ผลิต ผลิตภัณฑ์ออดิโอที่มีคุณภาพ และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและยังเป็นผู้พัฒนาระบบการตัดเสียงรบกวน มีรางวัลการันตีกันมากมายหลากหลายรางวัลทีเดียว ผมจึงได้นำมาทดลองใช้งานเพื่อค้นหาหูฟังที่ให้คุณภาพเสียงที่ดี รวมถึงฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ของตัวหูฟัง และทดสอบความเสถียรในการใช้งาน เพราะสิ่งที่เราคำนึงถึงคือ ความคุ้มค่ากับเงินที่เราต้องจ่ายไป

เมื่อไม่นานมานี้แบรนด์ Sennheiser ได้ออก Momentum Free หูฟังแบบ in ears Wireless รุ่น M2 IEBT SW การเชื่อมต่อใช้งานผ่าน Bluetooth 4.2 รุ่นนี้ได้ตัดตัวก้านคล้องคอออกทำให้สามารถพกพาไปใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากกว่าเดิม และ มีน้ำหนักที่เบาลงใครที่อยากได้รุ่นที่เป็นแบบไร้สายน่าจะถูกใจกับรุ่น Free In-Ear ตัวนี้อย่างแน่นอนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ใช้งานสบาย ขนาดกะทัดรัด ทำให้มีอิสระ

ดีไซน์ของ Sennheiser Momentum Free In-Ear Wireless

ในส่วนของแพคเกจของ Momentum Free นั้นเป็นกล่องขนาดกำลังดี บนกล่องมีคำอธิบายสินค้าไว้อย่างชัดเจน หน้ากล่องจะเป็นรูปลักษณะตัว Momentum Free ส่วนที่มุมบน มีบอกระยะเวลาประกันนานถึง 2 ปี และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ 6 ชั่วโมง

เมื่อพลิกมาด้านขวาของกล่อง จะบอกวิธีใช้งาน Manage Calls & Music เรียกได้ว่ามีฟังก์ชั่นการใช้งาน ทั้งเปิดปิดเครื่อง รับสายวางสายโทรศัพท์ เล่นเพลงหยุดเพลง และเพิ่มลดเสียง และบอกระบบการเชื่อมต่อเป็น Bluetooh 4.2 Qualcomm apt-X และยังบอกอีกว่า ด้านหลัง Housing ของ Momentum Free เพิ่มในส่วนของแม่เหล็กเข้ามาในบริเวณโลโก้ของทาง Sennheiser ทำให้เวลาที่เราไม่ได้ใช้งานนั้นสามารถคล้องคอและนำตัวหูฟังมาประกบติดกันได้ ทำให้การห้อยคอเป็นไปอย่างสะดวกสบาย เพื่อเป็นการป้องกันการร่วงหล่นหายกันทีเดียว

พลิกมาอีกด้านจะแสดงอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่ให้มาในกล่อง ซึ่งก็จะมี หูฟัง Sennheiser Momentum Free In-Ear Wireless และสาย USB สำหรับชาร์จแบตเตอรรี่ จุกให้เปลี่ยนสี่ขนาด XS , S , M , L แล้วก็เคสใส่หูฟัง ซึ่งก็ดูดีน่าใช้ ในส่วนของ Housing นั้น ออกแบบมาตาม Momentum Series ตัวบอดี้จะมีลักษณะโค้งมน และ ด้านท้ายของ Housing จะเป็นฐานแผ่นกลมและมีโลโก้ของSennheiser อยู่มี Cable Stopper เอาไว้ปรับความกระชับของสายให้สวมใส่ได้กระชับมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้การเชื่อมต่อนั้นสามารถใช้งานเป็น Bluetooth ได้ และ สามารถเชื่อมต่อพร้อมกับได้ถึง 2 เครื่อง พร้อมทั้งรองรับ Codec อย่าง Qualcomm aptX แบบ Low Latency และ AAC/SBC อีกด้วย นอกจากนี้ที่ตัวสายนั้นยังได้ Built-In 3-Button Remote With Microphone สำหรับควบคุมเพลง และ ระดับเสียงมาให้อีกด้วย ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้ง iOS และ Android ส่วนแบตเตอรี่นั้นสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง “6 ชั่วโมง” ใช้เวลาชาร์จไฟไม่เกิน 3 ชั่วโมง

ลักษณะเสียงของ Sennheiser Momentum Free In-Ear Wireless

เสียงร้อง : เสียงร้องของ Momentum Free นั้น จะเป็นเสียงร้องที่นุ่ม คมชัด มีความกว้างอุ่นหนา ชัดใสเคลียร์ ทำให้ไม่พลาดทุกรายละเอียดของเสียงเลยซึ่งตำแหน่งของเสียงร้องนั้นจะอยู่แนวเดียวกับเครื่องดนตรีอื่นๆ ไม่ได้เด่นจนมาแย่งความเด่นของชิ้นดนตรีอื่นๆไป และ มีความ ใส ชัด เคลียร์และมีน้ำหนัก เสียงเวลาร้องหรือพูดมีความ Attack เบาๆ ได้ยินทุกอย่างชัดโทนไม่ได้อุ่นหนามากจนเกินไปขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้บางกลับรู้สึกพอดีมาก ซึ่งจุดนี้เองพอเบสและกลางไม่กวนกัน ยิ่งทำให้รายละเอียดของตัวโน้ตหรือมิติเสียงแหลมยิ่งชัดเจนขึ้นเสียงแหลมนุ่มขึน ฟังเพลงถือว่าสบายหูฟังนานได้ไม่ล้า จนแทบไม่ต้องเปิดเสียงดังเกินไป ถือว่าดีต่อหูมากๆครับ

ย่านเสียงสูง : สำหรับเสียงปลายแหลมนั้นพอมีอยู่บ้างแต่ไม่ใช่จุดเด่นของหูฟังตัวนี้ จุดเด่นของ Momentum Free นั้นอยู่ที่ความต่อเนื่องของเสียง เสียงแหลมนั้น นุ่มลื่นไหล เป็นย่านสูงที่ค่อนข้างดี เสียงก่อนเบิร์นเข้าที่ ยังมีความแอบแทงหูนิดหน่อย เสียงแหลมค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ของ Sennheiser มากๆใครที่เคยฟังหรือมีหูฟัง Sennheiser น่าจะพอจินตนาการ ลักษณะเสียงแหลมคร่าวๆ ได้ ความลงตัวพอประมาณ พอเบิร์นไปซักพักรู้สึกเสียงแหลม นุ่มขึ้น ไม่ใช่แหลมที่คมบาดหู ยิ่งแอบชอบหูฟังตัวนี้ หลังผ่านไป 200 ชั่วโมงมากๆ

เสียงเบส : เบสของตัวMomentum Free เป็นที่นุ่มมีมวลซึ่งเป็นโทนเสียงเอกลักษณ์ของ Sennheiser ที่ให้ Bass นุ่ม ชัด ฟังเป็นโน้ตๆ ใสเคลียร์ เก็บตัวไว ไม่ไปกวนย่านอื่นและลงได้ลึกมาก สไตล์ Sennheiser เลยครับ และยังเป็นเบสที่มีการจัดขอบเขตไว้ได้อย่างดีทีเดียวครับทำให้ไม่ไปรบกวนย่านอื่นเลยครับ

Distortion

จุดเด่นหลักของหูฟังเลย ฟังเบาฟังดัง ระดับเบส กลาง แหลม นั้น เหมือนจะเท่าเดิมตลอดแค่ดังขึ้นจริงๆ เป็นหูฟังราคาหลักพันที่ตอนฟังเบาคือนุ่มสบายหู ฟังดังคือก็ยังสบายหูโปร่งใสเหมือนเดิม เมื่อหูฟังไม่ได้ส่งสัญญาณการเหนื่อยล้าออกมาให้เห็นในระดับเสียงที่ดัง การฟังเสียงที่ดังจึงไม่ทำให้รู้สึกแสบหู หรือ รำคาญหูฟังเลยซักนิดเดียวกลับสนุกและฟังสยายๆไปกับการฟังเพลงมากขึ้นใครชอบฟังดัง โทนเสียงไม่เปลี่ยน แนะนำ Sennheiser ของเค้าดีจริง

Isolation

ทำได้ดีมาก ใส่แล้วรู้สึกเสียงรอบตัวลดลงเยอะมาก แต่ไม่อึดอัด ไม่หนวกหูคนรอบข้าง คนรอบข้างก็ได้ยินเสียงเพลงที่เปิดฟังเบามากๆ ถือว่าเป็นอีกหูฟังที่ ป้องกันเสียงรบกวนได้ดีทีเดียวครับ

สรุป Sennheiser Momentum Free In-Ear Wireless น่าใช้ไหม

สำหรับตัว Momentum Free นั้นตามแนวเสียงที่กล่าวไว้ด้านบนจะเหมาะกับแนวเพลงที่มีชิ้นดนตรีน้อยชิ้นจังหวะค่อนข้างช้า เช่น Acoustic, Classic, Pop, Jazz เป็นต้น ซึ่งมีความเที่ยงตรงสูงมากๆ เมื่อลองเปิด ฟังดู ช่วงระหว่าง 20kHz-250kHz นั้นนิ่งมากๆ ไม่รู้สึกถึงว่าย่านไหนบวมโดดขึ้นมาเลย จะมีช่วง 20kHz-80kHz จะค่อยๆ ไต่ขึ้นจากเบามานิดหน่อย ไม่ได้ Sub Low เยอะเหมือนพวกหูฟัง DJ แต่ถือว่าเป็นหูฟังที่ย่านต่ำค่อนข้างเสถียรดีมากๆ และการดีดตัวของ driver นั้น ต้องยอมรับเลยว่าสร้าง Attack ได้ดีจริงๆ อาจจะเพราะระยะการดีดตัวของแม่เหล็กนั้นอิสระกว่า มีพื้นที่มากกว่า เคลียร์ เบสเก็บตัวไว หยุดเป็นหยุด เงียบเป็นเงียบ ทำได้ดีจริงๆ

การออกแบบที่ยอดเยี่ยม จากผู้นำด้านไมโครโฟนและเครื่องส่งสัญญาณไร้สายระดับโลกที่ศิลปินทั่วโลกให้การยอมรับและใช้ทัวร์คอนเสิร์ตมากที่สุดได้พัฒนาออกแบบ in-ear ที่ตอบโจทย์พูดเลยว่าเหมาะสำหรับคนฟังเพลงหรือผู้ที่จริงจังกับรายละเอียดของทุกย่านความถี่ สวมใส่สบายไม่อึดอัด ตัวหูฟัง Sennheiser โดยยึดพื้นฐานเสียงต้องชัด และการสวมใส่ที่สบายเป็นหลัก