ทีมงาน beartai ได้รับเชิญจากทาง ASUS ประเทศไทย เพื่อเดินทางไปร่วมงาน Exclusive Review ROG Phone II มือถือที่พูดได้คำเดียวว่า “ล้ำที่สุด” เท่าที่มือถือในยุคปัจจุบันเปิดตัวออกมา เรามาดูกันว่า 5 สิ่ง ROG Phone II ตัวนี้สามารถทำได้ “เหนือกว่า” มือถือ ROG Phone รุ่นแรกนั้นมีอะไรบ้าง มาดูกัน

1. สเปคที่ล้ำกว่าเดิม

สิ่งแรกที่สาวก ROG Phone นั้นต้องการ นั่นคือในด้านสเปคที่จัดหนัก จัดเต็ม มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

CPUQualcomm Snapdragon 855 Plus 2.96 GHz
GPUUp to 675MHz Adreno 640
UIROG UI
Display6.59 นิ้ว สัดส่วน 19.5:9 ความละเอียด FHD+ 2340x1080 120 Hz/1ms หน้าจอ AMOLED 240Hz touch sampling Rate 108% DCI-P3; 10,000:1 Contrast ratio, กระจก Corning Gorilla Glass 6, ให้สีแบบ Delta E<1, 10-bit HDR
Displayรองรับการสัมผัส 10 จุด และรองรับการใส่ถุงมือ 2DR2HDR Support
ขนาดเครื่อง170.99 x 77.6 x 9.48 มม.
น้ำหนัก240g
แบตเตอรี่6000 mAh พร้อมระบบ Quick Charge 4.0 30W
Ram12 GB LPDDR4X
RomUFS3.0 512 GB
กล้องหน้า24 ล้านพิกเซล f2.2
กล้องหลัง48 ล้านพิกเซล, f1.79 เซนเซอร์ SONY IMX586 , เลนรอง 13 ล้านพิกเซล f2.4 มุมมอง 125 องศา 
ลำโพง2 ตัวบน-ล่าง(ซ้ายขวาเมื่อตะแคงเล่น) ให้เสียงแบบ DTS:X Ultra
ไมค์โครโฟน4 ตัวพร้อมระบบ Noise-Cancellation
อื่น ๆ รองรับ ARCore, NFC Voice Wakeup, AirTrigger
ราคายังไม่เปิดเผย
วันวางจำหน่ายยังไม่เปิดเผย

Processor ที่แรงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน

เรียกได้ว่า Snapdragon 855 Plus เป็น Processor ที่แรงที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้ โดยเฉพาะด้านกราฟิกที่แรงกว่ารุ่นเดิมถึง 15% ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าการเล่นเกมของคุณจะกระตุกอีกต่อไป

ถามว่าแรงขนาดไหน ก็แรงระดับที่เปิด PUBG Mobile พร้อม Asphalt 9 ปรับสุดเล่นพร้อมกันได้ผ่าน TwinView Dock ได้นั่นแหละ

หน้าจอที่ “เทพ” ขึ้นเยอะ!

ด้วยการใช้หน้าจอระดับ 120 Hz/1ms ทำให้การเล่นเกมโดยเฉพาะแนว FPS หรือ MOBA ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในด้านการแข่งขัน eSports นั้นทำได้อย่างลื่นไหล และสร้างความได้เปรียบเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ Touch Latency ของหน้าจอยังมีความสามารถในการตอบสนองได้เหนือกว่ามือถือทั่วไป ด้วยความหน่วงเพียง 49 ms เท่านั้น เหนือกว่ามือถือทุกรุ่นในตลาด ณ ปัจจุบันเลยก็ว่าได้

นอกจากนี้ยังเป็นหน้าจอที่ให้สี Delta E<1 และยังใช้ระบบ 10-bit HDR ทำให้การเล่นเกมที่ปกติจะมีจุดบอดในมุมมืด กลายเป็นสามารถมองเห็นรายละเอียดด้านในได้ และยังรวมไปถึงการรับชมภาพยนตร์หรือซีรีส์บน Netflix ที่รองรับ HDR ได้ด้วยนะ

กล้องดีขึ้นมาก

อีก 1 สิ่งที่หลาย ๆ คนอยากได้จากรุ่นแรก ซึ่งรุ่นนี้ไม่ต้องห่วง เขาจัดให้คุณเต็มที่ด้วยสเปคกล้องหลังระดับ 48 ล้านพิกเซล, f1.79 เซนเซอร์ SONY IMX586 Quad Bayer sensor เซนเซอร์กล้องมือถือที่ดีที่สุดในปัจจุบัน และกล้องมุมกว้าง 13 ล้านพิกเซล f2.4 มุมมอง 125 องศา (กล้องชุดเดียวกับ Zenfone 6 นั่นเอง) ก็เรียกได้ว่าจัดเต็มแบบสุด ๆ

2. แบตเตอรีจัดหนัก

ROG Phone 2 มาพร้อมแบตเตอรีความจุจัดหนัก 6000 mAh ทำให้การเล่นเกมนั้นสามารถจัดเต็มได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน และยังมาพร้อมระบบ Fast Charge 4.0 30 W ที่ใช้เวลา 58 นาที ชาร์จได้ 4000 mAh พร้อมให้คุณใช้งานได้รอดปลอดภัยใน 1 วันแบบสบาย ๆ

ตัวเลขการเปรียบเทียบช่วงเวลาเล่นเกมโดยไม่พัก จะเห็นได้ว่าเล่นได้จัดเต็มเกิน 7 ชั่วโมงแม้จะเป็นเกม PUBG Mobile เกมที่กินสเปคแบบสุด ๆ เรียกได้ว่างานนี้จะเล่นเกมหนักขนาดไหน ไม่ต้องกลัวว่าแบตฯ จะหมดก่อนกลับบ้านอย่างแน่นอน

3. ระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น

ตัวบน ROG Phone 2, ตัวล่าง ROG Phone 1

จากการที่ระบบระบายความร้อนที่มี 3 ขั้นตอนเหนือกว่าค่ายอื่น ตั้งแต่ขั้นแรกคือแผ่นทองแดง 3D Vapor Chamber สำหรับดึงเอาความร้อนจากตัวเครื่องออกมา ต่อด้วยขั้นที่ 2 คือช่องสำหรับระบายความร้อนออกที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี และขั้นสุดท้ายคือการใช้ Aero Active Cooler รุ่น 2 ที่เสียงเบาลงกว่าเดิม 4 เท่า แต่ยังคงสามารถดึงเอาความร้อนออกได้แบบเหนือชั้น

โดยได้เปรียบเทียบว่า เมื่อเล่นเกมไปนาน ๆ มือถือเครื่องอื่น ๆ จะเริ่มมีอาการ FPS Drop หรือที่เราเรียกกันว่ากระตุกเกิดขึ้น จากสาเหตหลักคือ ความร้อนที่สะสมจากการประมวลผลเป็นเวลานาน ๆ ซึ่ง ROG Phone 2 ตัวนี้บอกได้เลยว่าถ้าคุณใช้ระบบระบายความร้อนครบ 3 อย่างที่บอกมา ก็จะไม่ทำให้เกิดอาการเหล่านั้นเลยแม้แต่ 1% (แต่แลกมาด้วยระบบป้องกันน้ำเข้าที่แทบไม่มี กันได้แค่น้ำกระเซ็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น)

3. แก้ปัญหา/ เสริมความสามารถที่มีในรุ่นแรก

ภาพเปรียบเทียบรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่

เมื่อเทียบกับ ROG Phone รุ่นแรกแล้ว ตัวรุ่นที่ 2 จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน แต่ความยาวมากกว่าค่อนข้างเยอะ และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ นั้นไม่สามารถใช้ร่วมกันได้เลย (ยกเว้นบางอย่างเช่น WiGig หรือการใช้ Kunai เชื่อมต่อแบบ Wireless) และปรับปรุงการใช้งานเพื่อตอบโจทย์การเล่นเกมไม่ว่าจะเป็น กล้องหน้าที่ปรับเป็นมุมขวาบนแทนมุมซ้ายบน เพื่อให้เวลาเล่นเกมพร้อมสตรีมไปด้วยสามารถทำได้ หรือ ตัว Aero Active Cooler ที่ออกแบบมาให้ดูดีกว่าเดิม แถมยังแก้ปัญหาเรื่องขาที่มีโอกาสไปโดนปุ่มแล้ว เป็นต้น

และด้านการปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือ ก็ย้ายจากด้านหลังมาใช้บนหน้าจอแทน ใช้งานได้ง่ายกว่าเดิมเยอะ ส่วน AirTriggers ซึ่งเป็นฟีเจอร์หลักของเกมเมอร์สาย FPS ก็ได้ถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ทั้งสามารถวางนิ้วเอาไว้แบบเดียวกับ Controller ทั่วไปก่อนที่จะกดลงไปได้ และมีระบบสั่น 2 ชุด ทำให้รู้สึกเหมือนกับการกดปุ่มจริง ๆ ลงไป และนอกจากนี้ยังเพิ่มระบบ Trigger แบบใหม่อย่างการสไลด์ปุ่มได้อีกด้วย

Game Center ที่ใช้งานง่ายขึ้นเยอะ

โดย UI ของ Game Center นั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นจากเดิมมากตั้งแต่หน้าการจัดการเกมว่า เราจะให้แต่ละเกมแสดงผล fps ที่เท่าไหร่ ใช้ CPU แรงขนาดไหน เป็นต้น และถ้าเราเข้าเกมแล้ว การเข้าสู่โหมด Game Genie ก็เปลี่ยนจากการปาดขวาเป็นการปาดซ้ายแทน ซึ่งจะมีเมนูให้ปรับอีกเพียบ!

4. Gadget จัดเต็มขั้นสุด

อีก 1 จุดเด่นที่สุดของมือถือ ROG Phone นั่นคือ Gadget ที่ได้ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์อย่างแท้จริง ซึ่งสามารถดึงศักยภาพของมือถือ ROG Phone II ออกมาได้ถึงขีดสุด จะมีอะไรบ้างมาดูกัน

TwinView Dock 2

Dock สำหรับต่อเพื่อแสดงผลหน้าจอเป็น 2 จอตัวล่าสุด โดยดีไซน์ออกแบบมาดูดีกว่ารุ่นแรกมาก และยังมีแบตเตอรี่ในตัวอีก 5000 mAh มาพร้อมระบบระบายความร้อนด้านใต้ ซึ่งนอกเหนือจากการแสดงผลแล้ว ยังสามารถเป็นจอหลักสำหรับการเล่นเกมได้ เพราะหน้าจอนั้นสามารถ Touch ได้เช่นเดียวกันกับหน้าจอมือถือ ซึ่งนอกจากการแสดงผลในเกมแล้ว ยังสามารถแสดงผลสิ่งอื่น ๆ เช่น เล่นเกมไป ดู YouTube หรือ Netflix ไปเอย หรือถ้าใครอยากจัดหนัก ก็สามารถเปิดเกมพร้อมกัน 2 จอก็ได้ ล้ำไปอีก!

Kunai Gamepad

อุปกรณ์เสริมจอยคอนที่มาในรูปแบบการเลื่อนใส่จากทั้ง 2 ข้างบนล่างของตัวเครื่อง ROG Phone 2 (ดูคุ้น ๆ นะว่าไหม?) ซึ่งเราเลือกได้ว่า จะเล่นแบบเชื่อมกับมือถือโดยตรง หรือถอดไปใส่เข้ากับ Dock ซึ่งมีตัวเชื่อมต่อแบบ WiFi หรือ Bluetooth ได้อีกด้วย (แต่ไม่สามารถเล่นแบบแยกจอยซ้ายขวาได้นะ) ออกแบบมาค่อนข้างสวยงามและใช้งานง่าย จับถนัดมือเลยทีเดียว

และนอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ TwinView Dock ได้พร้อมกัน จัดหนักสมกับเป็นมือถือสำหรับ Hardcore Gamer จริง ๆ

WiGig Display Dock Plus

นอกจากนี้ยังมีแท่นตัวเชื่อมต่อระหว่างมือถือ ROG Phone กับจอมอนิเตอร์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อจอได้ถึงระดับ 4K และยังเชื่อมกับเม้าส์และคีย์บอร์ดได้อีกด้วย หรือถ้าชอบเล่นแบบจอยคอนโทลเลอร์ ก็สามารถใช้ Kunai Gamepad เชื่อมต่อได้เช่นกัน ซึ่งเรียกได้ว่างานนี้ Gadget ของ PC ก็จะกลายเป็น Gadget ของมือถือ ROG Phone II ตัวนี้ได้แทบทุกอย่างเลย

และทั้งหมดนี้ก็เรียกได้ว่า ROG Phone II ตัวนี้จะมาเป็น Game Changer ผู้ปฏิวัติวงการเกมมือถือ ที่จะมาตอบโจทย์ฮาร์ดคอเกมเมอร์อย่างแท้จริง

แต่อย่างไรก็ตามในด้านราคาและวันวางจำหน่ายยังไม่เปิดเผยแต่อย่างใด ยังไงอดใจรอไว้ได้เลย ถ้ามาแล้ว beartai ไม่มีพลาดแน่นอน!