ตลาดทีวีแข่งกันเดือด ทีวีจอใหญ่ระบบดี ๆ ก็ขายถูกลงมาก เมื่อ #TCL P8 ทีวี #4KHDR ขนาด 55 นิ้วพร้อม #AndroidTV ขายราคาถูกกว่า 2 หมื่นบาท มันถูกแล้วมันดีไหม หนุ่ย-พงศ์สุขรีวิวเต็ม ๆ ทั้งจุดเด่นและข้อสังเกตในรุ่นนี้ครับ จะได้ตัดสินใจซื้อทีวีใหม่กันได้!
ดีไซน์
ดูดีไซน์ตัวทีวีของ TCL P8 ก็ทำหน้าที่เฟอร์นิเจอร์ได้ดี ด้วยการออกแบบได้เรียบหรู จะดูแปลกตาหน่อยตรงขอบเครื่องด้านบนทั้ง 3 ด้านทำเป็นสีดำ ส่วนฐานด้านล่างเป็นสีเงินรับกับขาตั้งทรงกิ่งไม้ที่เป็นสีเทาเมทัลลิค ซึ่งยกทีวีสูงขึ้นจากพื้นประมาณ 6 cm ก็สูงพอสำหรับวาง Sound bar หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้สบาย ๆ ตรงกลางแถบด้านล่างสีเงินก็เป็นโลโก้ TCL พร้อมไฟแสดงสถานะครับ
ส่วนด้านหลังก็เป็นพลาสติกเรียบไปทั้งชิ้น พอร์ตต่างๆ มารวมกันอยู่ด้านขวาของเครื่องครับ ซึ่งมี HDMI ทั้งหมด 3 พอร์ต โดยเป็นช่อง ARC สำหรับต่อกับ Sound Bar 1 ช่อง, มี USB 2.0 สำหรับเสียบแฟลชไดร์ฟ ฮาร์ดดิสก์ 2 ช่อง, มีพอร์ต LAN, ช่องเสียบสายอากาศทีวี, ช่องสัญญาณเสียง Optical, ช่อง AV in และแจ็ค 3.5 mm สำหรับเสียบลำโพงหรือหูฟังครับ
รีโมต (Remote)
ตัวรีโมทของ TCL ก่อนเลยครับ ออกแบบได้เล็กเข้ามือ ดูทันสมัย แถมมีให้เลือกใช้ 2 อัน ทั้งแบบยาวปุ่มครบ สำหรับคนเน้นดูช่องโทรทัศน์ที่ต้องกดเลขช่อง และรีโมทตัวเล็กที่ผมใช้เป็นหลักเลย เพราะมีปุ่มที่ผมต้องใช้กับ Android TV ครบถ้วน ปุ่ม Netflix ก็มี เอ๊ะ ผมบอกไปรึยังนะครับว่า TCL P8 นั้นใช้ Android TV นะครับ ที่รีโมทเลยมีไมโครโฟนไว้รับคำสั่งเสียงได้ สั่งงาน Google Assistant ได้เลย
พอทีวีใช้ Google Assistant ได้ก็สบายไปสามอย่างแปดอย่าง เช่นสั่งว่า “อากาศวันนี้เป็นอย่างไร” ทีวีก็จะรายงานสภาพอากาศ “เปิด Youtube” ก็จะเปิดแอป Youtube
แต่ถ้าเปลี่ยนเมนูของทีวีให้กลายเป็นภาษาอังกฤษ เราก็จะได้ใช้ Google Assistant ภาษาอังกฤษที่มีความสามารถมากกว่า สามารถสั่ง “Plan My Day” ให้ Google แสดงสิ่งที่เราต้องทำวันนี้ หรือสั่งงานอุปกรณ์ภายในบ้านที่รองรับได้เลยผ่านทีวี เปิดแอร์ เปิดไฟก็ทำได้ ถ้าระบบในบ้านรองรับ Google Home ครับ
ซึ่ง TCL P8 ยังมีอุปกรณ์เสริมเป็นไมโครโฟนที่ทีวีเพื่อรับเสียงสั่งงานระยะไกล หรือที่เรียกว่า “Far Field” ด้วย ทำให้เราพูด Ok Google แล้วสั่งงานทีวีโดยไม่ต้องถือรีโมท ใครสนใจก็ลองหาซื้อมาติดตั้งได้นะ
พอ TCL P8 ใช้ Android TV ก็ทำให้มีความสามารถอีกเพียบ ทั้งลงแอปความบันเทิงยอดนิยมสำหรับคนไทยผ่าน Google Play ได้มากมาย เช่น Netflix, iflix, hooq, monomax และแน่นอน Youtube หรือจะเป็นแอปเล่นเพลงอย่าง Spotify ก็ลงและเรียกใช้โดยตรงจากทีวีได้เลย
และทีเด็ดของ Android TV คือการมี Chromecast ในตัวครับ ถ้าติดรายการทีวีแต่ไม่มีเสาอากาศทีวี ก็เปิดแอป AIS Play แล้วยิง Chromecast ขึ้นไป ดูช่องทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตกันไปเล้ย หรือติดละครไทย ก็เปิด LINE TV แล้วยิงขึ้น TV ได้อีกเช่นกัน ส่วนถ้าต้องการซื้อหนังใหม่ ๆ แบบชนโรงเลย ก็สามารถซื้อจาก Google Play Movies ได้เลย มีหนังให้ซื้อเพียบ ราคาไม่โหด หักเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลย แล้วถ้าสิ่งที่เราจะดูมาเป็นไฟล์ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์จากแฟลชไดร์ฟ หรือไฟล์ใน Network ในบ้าน ก็สามารถเปิดแอป MediaCenter แล้วเปิดขึ้นทีวีได้เลยจ้า
สุดท้ายถ้าคุณจะส่งภาพจากมือถือ Android ขึ้นทีวี ก็ทำได้ง่ายๆ แบบนี้ครับ ซึ่งผมจะไม่ลงรายละเอียดวิธีทำนะ เพราะสมาร์ตโฟนแต่ละแบรนด์สั่งไม่เหมือนกัน แต่ให้ทีวีกับสมาร์ตโฟนต่อ Wifi วงเดียวกัน แล้วหาคำสั่งประมาณว่า mirror screen หรือ cast ในมือถือ ก็สั่งได้เลย ส่วน iPhone ต้องใช้ Apple TV มาต่อนะ ไม่ยุ่งกับ Android
TCL P8 ตัวนี้ใช้ Android P ตัวล่าสุดด้วยนะครับ ซึ่งปรับปรุงหน้าตาให้ใช้ง่ายขึ้นไปอีก หน้าโฮม จะเริ่มต้นด้วยแถบแอปที่ใช้บ่อย แล้วแถบด้านล่างนี้ก็สามารถปรับได้นะครับ เช่นผมดู Youtube บ่อยๆ ก็เอาแถบเนื้อหาจาก Youtube มาต่อไว้ตรงนี้ จะได้เห็นคลิปฮอตบน Youtube ให้เปิดดูง่ายๆ อยากเห็นว่าตอนนี้เรามีหนังใหม่ๆ อะไรที่น่าสนใจก็เอาแถบจาก Google Play มาต่อ ก็ไล่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เรียงไปได้จนถูกใจครับ
คุณภาพของภาพ / เสียง
แล้ว TCL P8 ให้คุณภาพภาพและเสียงเป็นยังไงบ้าง ก็น่าประทับใจสำหรับทีวีราคาไม่ถึง 2 หมื่นได้แต่ได้ความละเอียด 4K ขนาด 55 นิ้ว ที่รองรับมาตรฐาน HDR10 ด้วย เปิดทดสอบด้วย Netflix สำหรับเนื้อหาที่เป็น 4K HDR แสดงภาพได้สวยมาก สีสันสดใส โดดเด่นออกมาเลย ตัวหน้าจอมีเทคโนโลยี Micro Dimming ทำให้แสดงส่วนสีดำได้มืดกว่า LCD TV ทั่วไป เมื่อสีดำลงได้ลึก ภาพก็มี Contrast สูงขึ้น ทำให้ดูแล้วฟินครับ นี่ผมเปิดหน้า Screen test ให้ดูเลยว่า netflix ส่งภาพความละเอียด 4K มาเล่นบนทีวีนี้จริง ๆ
ส่วนเรื่องเสียง TCL P8 มีลำโพง 2 ตัวอยู่ด้านล่างทีวี ให้เสียงได้ดังดี ดูหนัง ดูละครก็ฟังได้ชัดเจน มีโหมดเสียงให้ปรับหลากหลาย
จุดสังเกต
แต่จุดอ่อนด้านภาพของ TCL P8 ก็มีอยู่ที่การประมวลผลภาพนะครับ ถ้าเปิดเนื้อหาแบบ Full HD เราจะรู้สึกได้ทันทีว่ามันไม่คมชัดเท่า 4K ก็มองได้ว่าระบบ Upscale ภาพอาจจะยังไม่เก่งนัก เพิ่มความละเอียดภาพได้ไม่คม และใครที่แคร์เรื่อง Motion มากๆ พวกระบบที่ทำให้ภาพเคลื่อนไหวนุ่มขึ้นทั้งหลาย TCL P8 ก็ไม่เก่งเรื่องนี้เช่นกันครับ ไม่มีระบบแทรกเฟรมให้ปรับเลย
และด้านเสียงนั้นสำหรับคอภาพยนตร์หรือคอดนตรี อาจจะรู้สึกว่าลำโพงทีวีให้เสียงแคบไปนิด ไม่ได้โปร่งกว้าง และมีเบสจำกัดตามสไตล์ลำโพงทีวีที่ไม่มี sufwoofer ภายใน เอาเป็นว่าใครที่แคร์เรื่องเสียง การลงทุนซื้อ Soundbar มาติดตั้งเพิ่มก็เป็นการแก้ปัญหาได้อีกทางหนึ่ง
สรุป
การที่ TCL P8 ใช้ Android TV นั้นทำให้คุณดูเนื้อหา โดยเฉพาะเนื้อหาที่ดูได้ในไทยได้ง่ายและเยอะมาก โดยไม่ต้องต่อกล่องภายนอกให้ยุ่งยาก แถมมาพร้อมราคาจับต้องง่าย ให้ภาพที่ดีระดับ HDR10 4K จัดเต็มขนาดนี้ น่าสนใจทีเดียว
ราคา
แน่นอนว่ารีวิวที่ดีต้องมีราคา ทีวี TCL P8 ขนาด 55 นิ้วตัวนี้ราคาต่ำกว่า 2 หมื่นบาท แล้วมันเท่าไหร่ละ ราคาเปิดตัวของ TCL P8 ขนาด 55 นิ้วคือ 19990 บาท แต่ถ้าอยากได้ขนาดเล็กหรือใหญ่กว่านี้ TCL P8 ก็ยังมีให้เลือกอีกหลายขนาด หลายราคา ตั้งแต่ขนาด 43 นิ้วที่ตั้งราคาไว้ 15990 บาท ขนาด 50 นิ้วราคา 17,990 บาท ไปจบที่ขนาด 65 นิ้วที่ตั้งราคาเปิดตัวไว้ที่ 29,990 บาท เรียกว่าวงการทีวีนี่แข่งขันกันจนผู้บริโภคมีทางเลือกที่ดีจริงๆ ครับ