หลายคนคงรู้เรื่องสเปกและความสามารถต่างๆ ของ Samsung Galaxy Note 10+ กันไปเรียบร้อยแล้วนะครับ แต่เรื่องที่คงอยากรู้กันคือแล้วประสบการณ์การใช้จริงๆ ล่ะเป็นยังไง แบไต๋ในฐานะที่ได้สัมผัสเครื่องในวันเปิดตัวคือ 8 สิงหาคม และได้ลองถ่ายรูปจาก Note 10 มาบ้าง ก็จะขอเล่าประสบการณ์กับ Note 10+ ให้ฟังครับ
ภาพถ่ายจาก Galaxy Note 10+ นั้นยังเป็นเครื่องเวอร์ชันก่อนขายจริงนะครับ ยังยืนยันผลได้ไม่สมบูรณ์ 100% นะ เอาไว้ถ้าได้เครื่องเวอร์ชันจริงเราจะถ่ายให้ดูอีกที
ความรู้สึกเมื่อสัมผัส Samsung Galaxy Note 10+
เราเคยสัมผัส Samsung Galaxy Note 9 ในปีที่แล้ว ก็พอจำสัมผัสได้ว่าแม้เครื่องจะดูแข็งแรง จับแล้วแน่นมือ แต่มันเป็นมือถือเครื่องใหญ่ที่จับแล้วรู้สึกหนา แต่มาปีนี้ซัมซุงสามารถลดขนาดเครื่องลงได้เยอะมากครับ ตั้งแต่ตระกูล Galaxy S10 แล้วที่เป็นเรือธงที่บางกว่าชาวบ้านเค้า ซึ่งมาถึง Galaxy Note 10+ ที่เราได้สัมผัสวันนี้ ก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันเป็นมือถือที่บางลง จับแล้วมั่นใจมากขึ้น รู้สึกน่าใช้ขึ้น เอาเป็นว่าใครที่ยังจำภาพเก่าๆ ว่า Galaxy Note เป็นมือถือเครื่องใหญ่ๆ จับยากๆ ก็ลองมาสัมผัสตระกูล Note 10 ดูครับ
ส่วนเรื่องหน้าจอ ซัมซุงสามารถจัดการพื้นที่ด้านหน้าได้ดีขึ้น กลายเป็นว่า Note 10+ มีขนาดเครื่องที่ใกล้เคียงกับ Note 9 เดิม แต่สามารถขยายหน้าจอจาก 6.4 นิ้วให้กลายเป็น 6.8 นิ้วได้ เพราะขอบทุกด้านเล็กลง โดยเก็บกล้องหน้าให้เป็นรูในหน้าจอเท่านั้น แม้ว่าจะทำให้เสียคุณสมบัติเด่นของ Note 9 ไป คือฟังก์ชันสแกนม่านตา เพราะไม่สามารถใส่เซนเซอร์มากขนาดนั้นในขอบจอที่บางแบบนี้ได้ แต่ซัมซุงก็คงชั่งน้ำหนักมาดีแล้วว่าผู้ใช้สามารถใช้ใบหน้าและลายนิ้วมือที่อยู่บนหน้าจอก็เพียงพอแล้ว ส่วนคุณภาพของหน้าจอ อันนี้ไม่ต้องพูดถึง สานต่อจอคุณภาพจาก Galaxy S10 มาเต็มๆ
แต่เรื่องที่น่าคิดคือใน Galaxy S10+ นั้นกล้องหน้ามี 2 ตัว โดยเป็นเซนเซอร์วัดระยะเพื่อทำหน้าชัดหลังเบลอให้เนียนขึ้น ทำให้รูบนหน้าจอมีขนาดใหญ่มาก แต่กล้องหน้าของ Note 10+ นั้นมีแค่กล้องเดียว และรูกล้องเล็กกว่า จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัยว่าจะถ่าย Portrait Selfies ได้ดีเท่า S10+ หรือไม่ ซึ่งเดี๋ยวเราจะมีภาพตัวอย่างให้ดูครับ
ส่วน Samsung Galaxy Note 10 ที่เป็นรุ่นน้องของ Note 10+ ก็ฟังได้ความมาว่าทีมงานซัมซุงได้ฟีดแบ็กมาว่าบางที Note รุ่นปกติก็เครื่องใหญ่ไป ทำให้หลายคนไม่ซื้อโน้ตมาใช้ ก็ทำให้ปีนี้ออกมาเป็น 2 รุ่น 2 ขนาดจอ ซึ่งก็น่าจะถูกใจคนมือเล็กมากขึ้น แต่ทั้ง 2 รุ่นก็มีฟังก์ชันต่างกันบ้าง ลองเทียบตามตารางด้านล่างนี้
Galaxy S10+ | Galaxy Note 10 | Galaxy Note 10+ | Galaxy Note 9 | |
---|---|---|---|---|
CPU | Exynos 9820 | Exynos 9825 | Exynos 9825 | Exynos 9810 |
RAM | 8 GB | 8 GB | 12 GB | 6 GB |
หน่วยความจำ | 128 GB | 256 GB | 256/512 GB (ใส่ MicroSD ได้) | 128 GB |
หน้าจอ | 6.4 นิ้ว - 3040 x 1440 (Quad HD+) Dynamic AMOLED, HDR10+ มีรูขนาดใหญ่เพราะมี 2 กล้อง | 6.3 นิ้ว - 2280 x 1080 (Full HD+) Dynamic AMOLED, HDR10+ มีรูกล้องเดียว | 6.8 นิ้ว - 3040 x 1440 (Quad HD+) Dynamic AMOLED, HDR10+ มีรูกล้องเดียว | 6.4 นิ้ว - 2960 x 1440 (Quad HD+) dual edge Super AMOLED ไม่มีรู ไม่มีบาก |
กล้องหลังตัวหลัก | 12.0 MP F1.5/F2.4 เทียบเท่าเลนส์ 26 mm | 12.0 MP F1.5/F2.4 เทียบเท่าเลนส์ 27 mm | 12.0 MP F1.5/F2.4 เทียบเท่าเลนส์ 27 mm | 12 MP, f/1.5/2.4 เทียบเท่าเลนส์ 26 mm |
กล้องหลังมุมกว้าง | 16 MP, f/2.2, 12mm | 16 MP, f/2.2, 12mm | 16 MP, f/2.2, 12mm | ไม่มี |
กล้องหลังซูม | 12 MP, f/2.4, 52mm (ซูม 2 เท่า) | 12 MP, f/2.1, 52mm (ซูม 2 เท่า) | 12 MP, f/2.1, 52mm (ซูม 2 เท่า) | 12 MP, f/2.4, 52mm (ซูม 2 เท่า) |
กล้องวัดระยะ | ไม่มี | ไม่มี | Depth Vision (TOF 3D ความละเอียด VGA) | ไม่มี |
กล้องหน้า | 10 MP, f/1.9, 26mm พร้อมกล้องวัดระยะ | 10 MP, f/2.2, 26mm (มี Night Shot มาช่วยเสริม) | 10 MP, f/2.2, 26mm (มี Night Shot มาช่วยเสริม) | 8 MP, f/1.7, 25mm |
สแกนลายนิ้วมือ | สแกนนิ้วบนหน้าจอ | สแกนนิ้วบนหน้าจอ | สแกนนิ้วบนหน้าจอ | ด้านหลังเครื่อง |
แบตเตอรี่ | 4100 mAh ชาร์จเร็ว 15 W | 3500 mAh ชาร์จเร็ว 25 W | 4300 mAh ชาร์จเร็ว 45 W (แต่แถมหัวชาร์จ 25 W มาให้) | 4000 mAh ชาร์จเร็ว 15 W |
ขนาดเครื่อง | 157.6 x 74.1 x 7.8 mm | 151 x 71.8 x 7.9 mm | 162.3 x 77.2 x 7.9 mm | 161.9 x 76.4 x 8.8 mm |
น้ำหนักเครื่อง | 175 g | 168 g | 196 g | 201 g |
S-Pen เวอร์ชันใหม่ของ Galaxy Note 10+
ต้องสารภาพว่าผู้เขียนนั้นเป็นคนที่ใช้ปากกาน้อยมาก หลับตาพิมพ์ยังเขียนข้อความเร็วกว่าลืมตาจดปากกาลงกระดาษ เพราะฉะนั้นฟังก์ชันปากกาของ S-Pen นั้นจึงเป็นจุดที่เราไม่อินมาโดยตลอด (คือถ้าเลือกซื้อมือถือเอง ก็คงเลือกซีรีส์ S แทนซีรีส์ Note เพราะไม่มีปากกา) แต่ S-Pen ของ Galaxy Note 10 ก็มีฟังก์ชันที่น่าสนใจสำหรับเราอยู่ 2 อย่างคือ
- เปลี่ยนลายมือเป็นข้อความได้ อันนี้ลองแล้ว ชอบมาก สามารถแกะลายมือไก่เขี่ยของเราทั้งภาษาไทยและอังกฤษให้กลายเป็นข้อความสำหรับเอาไปใช้ต่อได้อย่างถูกต้อง ก็น่าจะถูกใจหลายคน
- ใช้ S-Pen เป็นไม้วิเศษได้ คือใน S-Pen ตัวใหม่จะมีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวอยู่ เราสามารถกดปุ่มที่ปากกาค้างและทำท่าสั่งงานได้ เช่นเปิดแอปกล้องอยู่ แล้วสะบัดไม้ขึ้น ก็จะพลิกกล้องมาเป็นกล้องหน้าถ่าย Selfie แต่ฟีเจอร์นี้เราไม่อิน คือมีก็ดี แต่ไม่มีก็ไม่เสียดายอะไรนะ มันดูไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้เท่าไหร่
- เราสามารถวาด Doodle ลงบนภาพแล้วถ่ายวิดีโอ AR ที่มี Doodle ลอยอยู่ได้ด้วย
ว่าด้วยเรื่องกล้องถ่ายรูปของ Samsung Galaxy Note 10+
จากตารางที่เราลงไว้ด้านบน จะเห็นว่าสเปกกล้องของ Galay Note 10+ นั้นแทบไม่ต่างจาก Galaxy S10+ เลย ทั้งกล้องหลัก 3 ตัวที่รายละเอียดแทบจะเหมือนกัน แตกต่างที่ Note 10+ จะมีกล้องวัดระยะด้านหลังแยกออกมา ส่วนกล้องหน้า Galaxy S10+ ดันมีสเปกที่ดีกว่า ทั้งรูรับแสงกว้างกว่าและมีกล้องวัดระยะด้วย ในขณะที่ Note 10+ ไม่มี เอาเป็นว่าเรามาดูภาพเปรียบเทียบกันครับ
ก่อนชมขอย้ำนิดนิดว่าภาพจาก Galaxy Note 10+ นั้นมาจากมือถือรุ่นก่อนขายจริง ส่วน Galaxy S10+ นั้นมาจากเฟิร์มแวร์รุ่นล่าสุด
เทียบภาพ Portrait จาก Note 10+ และ S10+
ภาพชุดแรกนี้ใกล้กันมาก แตกต่างกันที่การเบลอฉากหลังนิดหน่อย แต่ก็ทำออกมาได้ดีทั้งคู่ครับ
เทียบภาพ Selfie จาก Note 10+ และ S10+
ภาพชุดนี้เห็นชัดเจนกว่า S10+ ทำได้ดีกว่า จัดการกับเส้นผมได้ดีกว่า แต่โบเก้ของ Note10+ มีโหมดโบเก้ดวงไฟโตที่ดูดีนะ
เทียบภาพจากเลนส์ 3 ระยะของ Note 10+ และ S10+
ว่ากันง่ายๆ ก็เลนส์เดียวกันนั้นแหละ ผลงานออกมาใกล้กันมาก
เทียบภาพถ่ายกลางคืนระหว่าง Note 10+ และ S10+
ความสามารถด้านการถ่ายภาพกลางคืนก็ไม่ได้ต่างกันเช่นกัน
ความสามารถด้านวิดีโอของ Galaxy Note 10+
อันนี้เราไม่ได้เทียบกับ S10+ ให้ดู เพราะหมดเวลาแล้ว 555 แต่ Galaxy Note 10+ ก็มีความสามารถในการกันสั่นมากขึ้นในโหมด Super Steady ที่เปิดเพิ่มให้กันสั่นยิ่งขึ้นไปอีกจากโหมดธรรมดานะ อย่างคลิปนี้ แต่ดูแล้วก็จะเห็นเอฟเฟกต์ของการกั่นสั่นแบบอิเล็กทรอนิกส์เยอะอยู่ หวังว่าเฟิร์มแวร์ตัวต่อๆ ไปจะปรับปรุงให้ดีขึ้น
นอกจากนี้เมื่อ Galaxy Note 10+ มีกล้อง ToF อยู่ด้านหลังแล้ว ก็สามารถถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ หรือเปลี่ยนฉากหลังเป็นเอฟเฟกต์ต่างๆ ได้ด้วย (ก็เป็นความสามารถที่ Huawei ทำได้ตั้งแต่ Mate 20 ซึ่งถ้ามีโอกาสเราจะเอาไปเทียบกับ Huawei P30 Pro อีกครั้ง)
สรุป โดยรวมแล้วกล้องของ Samsung Galaxy Note 10+ นั้นแทบไม่แตกต่างจาก Galaxy S10+ ครับ จากการทดลองเร็วๆ ของเรา ใครที่คิดจะอัปเกรดกล้องจาก S10+ เป็น Note 10+ น่าจะไม่คุ้มนะ
บทความนี้เป็นแค่การจับ Galaxy Note 10+ ในช่วงเวลาสั้นๆ นะครับ ก็หวังว่าเราจะได้ทำรีวิว Samsung Galaxy Note 10+ ให้อ่านกันนะ โปรดติดตาม
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส