นี่คือยุคของการทำงานแบบชาญฉลาด หรือ Work Smart โดยถ่องแท้ ซึ่งเจ้า Samsung Flipboard หรือกระดานอัฉริยะจากทาง Samsung ที่จะมาทำให้การเปลี่ยนห้องประชุมของคุณให้มีประสิทธิภาพล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น! ซึ่งความสามารถมีอะไรบ้าง มาดูกัน

ดีไซน์ตัวเครื่อง

หน้าจอ Samsung Flipboard นั้นจะมีขนาดอยู่ที่ 55 นิ้ว สามารถปรับได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ซึ่งก็เหมาะมากกับห้องประชุมในบริษัท หรือ co-working space ทีใช้พื้นที่ทำงานร่วมกันมาก ๆ โดยการออกแบบจะเน้นไปที่ความเป็นเหลี่ยมเป็นสันซึ่งก็สวยดีและแมทช์เข้ากับห้องประชุมหรือพื้นที่ประเภทต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ในขณะที่ขาตั้งของตัวเครื่องมีความมั่นคง ไม่มีโยกเยกเวลา Flip ไปมาอีกด้วย

Port การเชื่อมต่อ

เรื่องของพอร์ตการเชื่อมต่อ Samsung Flipboard นั้นให้มาถึง 4 พอร์ตหลัก ๆ ตั้งแต่ Lan, HDMI, USB 2.0 และ Touch Out ซึ่ง Port Touch out นั้นถือว่าเป็นอีก 1 จุดที่น่าสนใจมาก ๆ โดยจะช่วยให้เราสามารถควบคุม Notebook ในยุคเก่าที่ไม่มีระบบเชื่อมต่อแบบ Wireless แสดงผลขึ้นมาบนจอ และยังสามารถควบคุมได้อีกด้วย

การใช้งาน

หลัก ๆ แล้ว Samsung Flipboard ให้คุณคิดว่าามันคือกระดานไวท์บอร์ดในรูปแบบใหม่ ที่เราสามารถฟลิปด้านของการใช้งานได้แนวตั้งและแนวนอน ขีดเขียนอะไรลงไปก็ได้ด้วยปากกา Stylus ซึ่งปากกานั้นจะมีความพิเศษที่ หัวด้านหนึ่งจะเป็นปากกาปกติ และอีกด้านหนึ่งจะทำหน้าที่เป็นปากกา Highlight นั่นเอง โดยถ้าเราเอาปากกาจิ้มหน้าจอค้างไว้ก็จะมีสีขึ้นมาให้เลือกเปลี่ยนทันที ส่วนวิธีลบเรียกได้ว่าคลาสสิกสุด ๆ นั่นคือการ “เอามือลบ” ปาดลงไปเท่านั้นเอง

ส่วนด้านปุ่มการควบคุมต่าง ๆ หรือ UI บนหน้าจอนั้นออกแบบมาให้ดูและใช้งานง่ายอีกด้วย

และอีกจุดเด่นคือ Samsung Flipboard ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Inglass ที่พอหน้าจอตรวจจับการสัมผัสได้ มันก็จะประมวลผลออกมาในโครงสร้างทั้งแบบมิติเดียวและสองมิติเพื่อที่จะทำให้การส่งสัญญาณกลับออกไปหรือแปลงผลออกมาเป็นลายเส้นที่เราเห็นนี้เร็วขึ้นและตรงกับจุดที่เราจิ้มลงไปในกระดานทันที และยังรองรับการเขียนพร้อมกันได้มากที่สุด 4 คน

ซึ่งอีก 1 จุดที่หลาย ๆ คนน่าจะชอบคือระบบการเปิดหน้าจอของ Samsung Flipboard ที่จะขึ้นมาให้ใช้ได้ในทันทีที่ดึงปากกาออกจากที่เก็บ หรือแม้แต่เดินไปใกล้ ๆ เท่านั้น แม้จะปิดเครื่องไปแล้วก็ตาม เพราะการประชุมหรือพรีเซนต์ หลายครั้งมันก็มักจะไม่ได้จบภายในครั้งเดียว และด้วยฟีเจอร์นี้ ก็สามารถทำให้สานต่อการประชุมที่ค้างคาไว้ได้

เก็บไฟล์ Present เป็นเอกสารได้ง่าย

หลังจากประชุมเรียบร้อย เราสามารถทำการ Export ไฟล์บนหน้าจอทั้งหมดได้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล์ที่ต้องการ, สั่งปริ้นท์ออกมา, ลง USB, แชร์ผ่านหน้าจออื่น หรือแม้แต่การส่งไปยัง Network Drive ที่เราตั้งค่าไว้

เชื่อมต่อระดับ 4K Native

นอกจากนี้เรายังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยสามารถรองรับความละเอียดภาพได้ถึง “4K Native 3840 x 2160” เลยทีเดียว ซึ่งตัวลำโพงเองอาจจะเสียงไม่ได้ดังมาก แต่ก็พอที่จะได้ยินทั้งห้องขนาดเล็ก – ขนาดกลาง และการแสดงผลของวิดีโอนั้นจะไม่ขัดกับการ present ของเราระหว่างที่ยังคงขีด ๆ เขียน ๆ บนกระดานได้ตลอดเวลา

*แต่ถ้าเราต้องการเขียนลงไปบนวิดีโอนั้น เราจะต้องทำการ Capture ภาพออกมาก่อนถึงจะสามารถขีดเขียนลงไปได้นะ

วิธีเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกกับ Samsung Flipboard

ซึ่ง Samsung Flipboard สามารถเชื่อมต่อได้ตั้งแต่การเสียบเข้า HDMI โดยตรง, Mirror ด้วยมือถือ, และถ้าคุณเป็น Samsung User อยู่แล้ว นี่ครับ เราสามารถที่จะเชื่อมต่อผ่าน NFC ที่บริเวณนี้เพื่อดึงภาพจากมือถือเราขึ้นจอได้ทันที แถมเรายังสามารถสัมผัสผ่านหน้าจอได้เลยอีกด้วย และนอกจากนี้ยังสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เหล่านั้นจากหน้าจอ Samsung Flipboard ได้อีกต่างหาก

จุดสังเกต

การเชื่อมต่อแบบ NFC หากเป็นมือถือรุ่นอื่น จะไม่สามารถใช้วิธีการ NFC ได้ และเราก็ยังไม่สามารถสัมผัสหรือสั่งการผ่านหน้าจอได้เช่นกัน

ราคา

ปิดท้ายด้วยราคาของ Samsung Flipboard สนนราคาอยู่ที่ 129,000 บาท บอกเลยล่ะครับว่านี่จะเป็นการฟลิป! พลิก รูปแบบการประชุมแบบเดิม ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ