Lomo’ Instant เป็นกล้องตระกูลกล้องโพลารอยที่ใช้ฟิล์ม Fuji Instax ในการบันทึกภาพที่ถ่ายออกมาได้ทันที
สเปก
- ใช้ฟิล์ม Fuji Instax mini ISO 800
- มี 3 โหมดหลักคือ
- Flash On Auto Mode
- Flash On Manual Mode
- Flash Off Manual Mode
- เลือกรูรับแสงได้ 5 ค่าคือ f/8, f/11, f/16, f/22, f/32 (ค่ามาตรฐานที่ f/16)
- ความเร็วซัตเตอร์มาตรฐาน 1/125 s แต่มีโหมด B ให้ถ่ายนานเท่าไหร่ก็ได้
- เลนส์ 27 mm โฟกัสใกล้สุด 40 cm
- สามารถเสริมชุดเลนส์ได้อีก 3 ตัวคือ
- Fisheye Lens 170 องศา (ต้องเพิ่มค่ารูรับแสงอีก 1 stop)
- Portrait Lens 35 mm
- Close-up Lens ถ่ายได้ในระยะ 10-15 cm
- ถ้า Multi-exposure ได้ไม่จำกัด
- มาพร้อม Color Gel สำหรับเปลี่ยนสีแฟลช
- มีกระจกถ่าย Selfie ด้านหน้าด้วย
- ใช้ถ่าน AAA 4 ก้อน
จุดเด่น
- เป็นกล้อง Instax ที่ยืดหยุ่นที่สุดเท่าที่มีในท้องตลาดแล้ว
- ราคาถูกกว่า Fujifilm Instax Mini 90 NEO Classic ที่ขายอยู่ 4,990 บาท แต่ทำอะไรได้เยอะกว่า ทั้งเปิดหน้ากล้องได้นานกว่า เปลี่ยนเลนส์ได้ เปลี่ยนสีแฟลชได้
จุดสังเกต
- งานออกแบบกล้อง ดูเป็นของเล่นยิ่งกว่ากล้อง Instax ตัวจริง คุณภาพงานยังไม่เนี๊ยบ
- ระบบอัตโนมัติไม่เก่งเท่ากล้องฟูจิตัวท็อป
- การใช้งานในโหมด Creative ที่ต้องควบคุมกล้องเอง ต้องอาศัยประสบการณ์เยอะ เข้าใจเรื่องกล้อง และเรื่องการถ่ายรูปมาก
- การใช้เลนส์เสริมต้องจำลักษณะของเลนส์ให้ได้ เช่นเลนส์ fish eye ต้องชดเชย EV +1 หรือเลนส์ Macro ควรใช้กับโหมดโฟกัสใกล้ของกล้อง
- ถ้าใช้โหมดครีเอทีฟ ควรมีแอปในสมาร์ทโฟนเพื่อใช้วัดแสง เพื่อเลือกรูรับแสงให้เหมาะสม
- ซึ่งกว่าจะได้ประสบการณ์ ก็เผาฟิล์มเป็นกล่องๆ กล่องละ 250 บาท
- ถ้าถ่ายโหมดครีเอทีฟ ต้องใช้เวลาถ่าย ต้องเช็คสวิทช์รอบกล้องให้ถี่ถ้วน ถ้าลืมปรับตัวใดตัวหนึ่ง ก็มีโอกาสรูปเสีย
- เช็คโหมดกล้อง
- เช็คชดเชย EV
- เช็คโหมดชัตเตอร์
- เช็คระยะโฟกัส
- เช็คสวิทซ์ถ่ายภาพซ้อน
- มี Shutter B แต่ไม่มี Shutter T การเปิดหน้ากล้องนาน ทำให้กล้องนิ่งได้ยาก
- เลนส์ fish-eye ใช้กับแฟลชไม่ดี เพราะตัวเลนส์ยื่นไปบังแฟลช
ราคา
- 4,200 บาท สำหรับสีขาวกับดำ
- 4,900 บาท สำหรับรุ่นหนัง
- 5,400 บาท สำหรับรุ่นมาพร้อมเลนส์ 3 ตัว
- 6,100 บาท รุ่นหนังที่มาพร้อมเลนส์
- 2,200 บาท ชุดเลนส์ 3 ตัวแบบขายแยก