ช่วงนี้ตลาดมือถือห้ำหั่นกันหนัก #Vivo ก็ส่งมือถือราคาไม่ถึงหมื่นรุ่นใหม่อย่าง S1 Pro ออกมา ที่กล้องด้านหลังดีไซน์ทรงไดมอนด์ จอ Super AMOLED ด้วย ซึ่งลูกแก้วจะเล่าให้ฟังว่ารุ่นนี้เป็นยังไง #beartai

ภาพลักษณ์ภายนอก

เริ่มต้นที่ดีไซน์ตัวเครื่องที่ฝาหลังดูแปลกตาด้วยดีไซน์กล้องแบบ Diamond วางกล้องทั้ง 4 ตัวในสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดพร้อมตัดขอบพื้นที่กล้องด้วยแถบสะท้อนสีเงิน ซึ่ง Vivo บอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องประดับและสถาปัตยกรรมของพระราชวัง ซึ่งสีที่ลูกแก้วได้มารีวิวนี้คือ Fancy Sky เป็นสีขาวๆ ครีมๆ แล้วมีประกาย 7 สีซ้อนลงไป เหมือนท้องฟ้ายามมีรุ้ง ซึ่งก็น่าจะถูกใจคุณผู้หญิงกันนะคะ ส่วนสำหรับคุณผู้ชายเข้มๆ ก็ยังมีสีดำ Knight Black ให้เลือกค่ะ

ฝาหลังนั้นดีไซน์โค้งรับฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง ทำให้จับถนัดมือ แต่ด้านหน้าจอนั้นเป็นจอเรียบที่ติดฟิล์มมาเรียบร้อยตั้งแต่โรงงาน ใครที่เกลียดจอขอบโค้ง สบายใจได้ค่ะ

รอบเครื่องมีพอร์ตที่จำเป็นครบนะคะ ด้านบนมีช่องหูฟัง 3.5 mm พร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างก็มีพอร์ต USB-C ที่สามารถเปิดโหมด OTG เพื่ออ่านไดรฟ์ภายนอกได้ แต่ไม่สามารถต่อจอภายนอกผ่านฮับ HDMI ได้นะคะ มีช่องไมโครโฟน แล้วก็ลำโพงด้านล่างนี้ ซึ่งไม่ใช่ลำโพงสเตอริโอนะคะ เสียงออกลำโพงล่างนี้อย่างเดียว ก็ให้เสียงดังใช้ได้เลย แค่ไม่มีเบสตามสไตล์ลำโพงสมาร์ตโฟนค่ะ

หน้าจอ

ส่วนหน้าจอของ Vivo S1 Pro นั้นมีขนาด 6.38 นิ้วค่ะ ความละเอียด Full HD+ โดยเป็นจอแบบ Super AMOLED ที่ให้พื้นที่หน้าจอ 90% ของพื้นที่ด้านหน้าเครื่อง ซึ่งกล้องหน้าเป็นรูปหยดน้ำเล็กๆ อยู่ด้านบนนี้ แถมยังมีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้จอ ซึ่งก็ทำงานได้รวดเร็วพอสมควร โดยรวมก็เป็นมือถือที่ให้จอได้ใหญ่เลย เพียงแต่ว่าคางหรือขอบล่างของจอนี้อาจจะหนาไปเล็กน้อย

สำหรับจอ Super AMOLED ของ Vivo S1 Pro นั้นให้สีสันได้สดสวยงาม เอาไปใช้งานทั่วไป เปิดรูป ท่องเว็บ ส่อง Instagram ก็ให้ภาพได้สวยงาม เอาไปดูหนังก็คมชัด เพียงแต่ว่าจอนี้ไม่รองรับการแสดงผลภาพแบบ HDR นะคะ และเครื่องที่เราได้มาทดสอบนี้ยังลง Netflix ไม่ได้ด้วย คาดว่าในเฟิร์มแวร์รุ่นขายจริงก็น่าจะใช้งานได้นะคะ

กล้อง

การถ่ายรูป

เอาแหละมาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอยอย่างการถ่ายรูปค่ะ! กล้องมันเด็ดยังไงมาดูค่ะ! นี่คือภาพที่ได้จากกล้องมือถือที่ย้ำว่าแค่ราคาระดับกลางเท่านั้นนะคะทุกคน!
(VO) กล้องหลัง 4 ตัวนี้ประกอบไปด้วยกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.8 เป็นเซ็นเซอร์ Samsung GW1 ซึ่งถ่ายภาพแบบรวม 4 พิกเซลเป็น 1 ทำให้ได้ภาพออกมา 12 ล้านพิกเซล ก็ทำให้เก็บแสงได้ดีขึ้น ส่วนกล้องตัวอื่นๆ ก็มีกล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล f/2.2 ที่สามารถเก็บภาพได้กว้างสุด 120 องศาค่ะ แต่เวลาถ่ายปกติจะเปิดโหมดแก้ไขภาพโค้งทำให้เหลือมุมมองภาพ 108 องศา ใครอยากได้ภาพกว้างมากๆ ก็เข้าไปปิดใน Setting ได้นะคะ

ส่วนอีก 2 กล้องนั้นเป็นเลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4 ค่ะ ซึ่งสามารถถ่ายวัตถุได้ใกล้สุด 4 cm และอีกตัวหนึ่งเป็นเลนส์วัดระยะเพื่อถ่ายหน้าชัดหลังเบลอค่ะ

ซึ่งคุณภาพกล้องของ Vivo S1 Pro จัดว่าดีเลย สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้สบายๆ นะคะ ตัวกล้องหลักให้ภาพที่สดใสคมชัด ซึ่งถ้าถ่ายโหมดปกติ 12 ล้านพิกเซลแล้วไม่สะใจ ก็ใช้โหมด 48 ล้านพิกเซล ถ่ายเต็มความสามารถของเซ็นเซอร์เลยก็ได้

ในส่วนของเลนส์มุมกว้างก็ทำให้การถ่ายรูปนั้นสนุกขึ้น เปลี่ยนมุมมองภาพเดิมๆ ให้แปลกใหม่ได้ด้วยเลนส์ตัวนี้ เพียงแต่ว่าการใช้เลนส์มุมกว้างเราไม่สามารถกดซูมออกจากเลนส์ปกติให้เป็นภาพมุมกว้างได้ ต้องกดปุ่มกลม ๆ ตรงมุมจอด้านขวานี้ แล้วเลือกเป็น Ultra-wide Angle เหมือนกับเลนส์ Super Macro ที่ต้องเปิดใช้จากปุ่มนี้เหมือนกัน ซึ่งโหมดนี้ก็ให้ภาพที่แปลกตาขึ้น เพราะเข้าใกล้วัตถุได้มากขึ้น

ในส่วนของการถ่ายภาพกลางคืนก็ยังถ่ายภาพออกมาได้รายละเอียดที่ใช้ได้ค่ะ เพียงแต่ว่าการใช้เลนส์มุมกว้างพิเศษจะให้ภาพที่รายละเอียดน้อยหน่อย เพราะรับแสงได้น้อยกว่าเลนส์หลัก ก็แนะนำให้ใช้เลนส์หลักถ่ายกลางคืนดีกว่า และทาง Vivo บอกเราว่าช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้จะมีเฟิร์มแวร์ใหม่ออกมาให้ใช้โหมด SuperNight ก็จะถ่ายภาพกลางคืนได้ดีขึ้นทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลย

สำหรับสายถ่าย Portrait เจ้า Vivo S1 Pro ก็ให้โทนภาพและการละลายฉากหลังออกมาได้เนียนตา ซึ่งความพิเศษของโหมดถ่ายภาพบุคคลใน Vivo S1 Pro คือสามารถแนะนำท่าทางการโพสต์ได้ด้วย ซึ่งลดความปวดหัวของช่างภาพโดยเฉพาะคุณผู้ชายทั้งหลายไปได้เยอะเวลาที่ต้องถ่ายภาพ Portrait แล้วคิดไม่ออกว่าจะให้โพสต์ท่ายังไง ก็กดดูในโหมดนี้ได้เลย และแน่นอนว่าเป็นโหมด Portrait ก็ต้องสามารถปรับความเนียน สีผิว และโครงหน้าต่างๆ ได้ด้วย

การถ่ายวิดีโอ

ส่วนการถ่ายวิดีโอด้วย Vivo S1 Pro นั้นรองรับความละเอียดได้สูงสุด 1080p ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังค่ะ ซึ่งเราทดสอบกับเครื่องที่ใช้เฟิร์มแวร์รุ่นก่อนขายจริง ก็พบว่าไม่มีระบบป้องกันภาพส่วนไหวของวิดีโอ

ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลก็ให้ภาพ Selfie ได้ดี กล้องหน้าของ Vivo ก็ยังให้โทนภาพที่ดีสำหรับการ Selfie ที่หลายคนชอบ คือถ่าย Selfie แล้วสวยทันที แล้วใน Vivo S1 Pro จะมีโทนภาพแบบ Fresh ให้เลือกสร้างดให้สว่างสดใสขึ้นไปอีก แต่ข้อสังเกตของภาพจากเฟิร์มแวร์รุ่นทดสอบตัวนี้ คือยังไม่สามารถถ่ายหน้าชัดหลังเบลอด้วยกล้องหน้าได้ และแม้จะใช้โหมด Photo ไม่ใช่โหมด Portrait ภาพที่ได้ก็ยังเป็นภาพแต่งสวยมาแล้ว ไม่ใช่ภาพที่เรียลจริง ๆ

ประสิทธิภาพของเครื่อง

เอาแหละ มาถึงประสิทธิภาพเครื่องกันบ้าง Vivo S1 Pro นั้นใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 665 ซึ่งเป็นซีพียูระดับกลาง พร้อม RAM 8 GB และหน่วยความจำภายในเครื่อง 128 GB ซึ่งรองรับการใส่ MicroSD เพิ่มความจุได้ที่ถาดซิมที่ 2

สเปกเครื่องนี้ทดสอบประสิทธิภาพด้วย Geekbench 5 ได้คะแนนแบบ Multicore ที่ 1352 คะแนน และทดสอบกราฟิกด้วย 3Dmark ชุดทดสอบ Sling Shot Extreme ได้ 1045 คะแนน ซึ่งเราทดสอบเล่นเกม PUBG ก็สามารถเล่นที่คุณภาพภาพระดับ Balanced ได้ลื่นไหลดีค่ะ

แบตเตอรี่

เรื่องที่ประทับใจมากคืออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ Vivo S1 Pro นั้นมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh ซึ่งจากการใช้งานจริงพบว่าใช้งาน 2 วันแบบไม่ชาร์จก็ยังไหว แถมยังชาร์จได้รวดเร็วด้วย Dual Engine Fast Charging ที่ให้หัวชาร์จ 18 W มาในกล่อง ทำให้ชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว

ข้อสังเกต

ข้อสังเกตของ Vivo S1 Pro นั้นเกี่ยวข้องกับชอฟต์แวร์เป็นหลักนะคะ เช่นการตอบสนองช้าในบางครั้ง หรือถ่ายภาพช้าในบางจังหวะ คาดว่าเกิดจากเฟิร์มแวร์ที่ยังไม่ใช่ตัวสมบูรณ์ ซึ่งน่าจะแก้ไขได้ในอนาคตเมื่อวางขายจริง

ราคา

สุดท้าย รีวิวที่ดีต้องมีราคา สำหรับ Vivo S1 Pro นั้นตั้งราคาเปิดตัวที่ 9,999 บาท เทียบกับสเปกที่ได้ กล้องที่ดี พร้อมหน้าจอ AMOLED ก็ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว